ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อีเกิลส์ (วงดนตรี)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Anonimeco (คุย | ส่วนร่วม)
อัปเดต
บรรทัด 1:
{{ป้ายเตือนปีคศ}}
{{กล่องข้อมูล นักดนตรี
| ชื่อ = ดิ อีเกิลส์ดิอีเกิลส์
| color =
| ประเภท = วงดนตรี
| ภาพ =Eagles.jpg
| คำบรรยายภาพ = ดิอีเกิลส์ในปี ค.ศ. 2008 ระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต "ลองโรดเอาต์ออฟเอเดน" (จากซ้าย-ขวา): เกลนน์ ฟราย, ดอน เฮนลี่ย์นลีย์, โจ วอล์ช, ทิโมตี้ บี. สมิท
| ขนาดภาพ =
| ภาพแนวนอน =
บรรทัด 40:
| เว็บ = [http://www.eagles.com/ eagles.com]
| สมาชิก = ดอน เฮนลีย์ </br> โจ วอล์ช </br> ทิโมธี บี. ชมิท
| อดีตสมาชิก = เกลนน์ เฟรย์ฟราย </br> เบอร์นี ลีดอน </br> แรนดี ไมส์เนอร์ </br> ดอน เฟลเดอร์
| กลุ่มแฟนคลับ = FB: The Eagles Thailand
}}
บรรทัด 52:
ในอัลบั้ม ''One of These Nights'' (ค.ศ. 1975) ได้มีเพลงที่ติดท็อป 10 ถึง 3 เพลง คือ "One of These Nights", "Lyin' Eyes" และ "Take It to the Limit" และนับเป็นครั้งแรกของวงที่อัลบั้มสามารถติดอันดับ 1 บน[[บิลบอร์ดฮอต 100]] เป็นผลสำเร็จ อีเกิลส์ยังคงเดินหน้าประสบความสำเร็จทางพาณิชย์ด้วยการออกอัลบั้ม ''Hotel California'' (ค.ศ. 1976) ซึ่งสามารถจำหน่ายไปได้มากกว่า 16 ล้านชุดในสหรัฐ หรือกว่า 32 ล้านชุดทั่วโลก และมีซิงเกิลอันดับ 1 ถึง 2 เพลง คือ "New Kid in Town" และ "Hotel California" อีเกิลส์ได้ออกสตูดิโออัลบั้มต่อมาคือ ''The Long Run'' (ค.ศ. 1979) ซึ่งนับเป็นอัลบั้มสุดท้ายก่อนที่วงจะรวมวงอีกครั้งแล้วร่วมอัดสตูดิโออัลบั้มต่อไปในอีก 28 ปีข้างหน้า ในอัลบั้มมีเพลงฮิตติดท็อป 10 ได้แก่ "Heartache Tonight", "The Long Run", และ "I Can't Tell You Why"
 
อีเกิลส์ได้แตกแยกวงเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1980 แต่ก็ได้รวมอีกครั้งในปี ค.ศ. 1994 เพื่อร่วมกันทำอัลบั้ม ''Hell Freezes Over'' ที่ได้กลายเป็นหนึ่งใน[[อัลบั้มแสดงสด]]ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอัลบั้มหนึ่งในประวัติศาสตร์<ref>{{cite web |url=http://www.eaglesonlinecentral.com/tour/1994hfo.htm |title=1994-1996 Hell Freezes OverTour |work=Eagles Online Central }}</ref> ภายหลังการทัวร์คอนเสิร์ตอย่างต่อเนื่องในที่สุดอีเกิลส์ ก็ได้รับการบรรจุเข้าสู่[[หอเกียรติยศร็อกแอนด์โรล]] ในปี ค.ศ. 1998 และในปี ค.ศ. 2007 อีเกิลส์ก็ได้เปิดตัว[[สตูดิโออัลบั้ม]]สุดท้าย ภายหลังอัลบั้ม ''The Long Run'' กว่า 28 ปี ในอัลบั้ม ''Long Road Out of Eden'' (ค.ศ. 2007) ซึ่งสามารถเปิดตัวด้วยอันดับ 1 บนบิลบอร์ดฮอต 100 ทำให้กลายเป็นอัลบั้มที่ 6 ของวงที่สามารถเปิดตัวด้วยอันดับ 1 วงยังคงเปิดตัวอัลบั้มต่อไปด้วยการออกอัลบั้มแสดงสด ''Long Road Out of Eden Tour'' เพื่อเสริมการโปรโมตอัลบั้ม ''Long Road Out of Eden'' อีกด้วย ในปี ค.ศ. 2013 อีเกิลส์ ก็ได้ออกอัลบั้มแสดงสด ''History of the Eagles Tour'' ร่วมกับสารคดี ''History of the Eagles''
 
ภายหลังการเสียชีวิตของฟราย ในปี ค.ศ. 2016 เฮนลี่ย์นลีย์ก็ได้กล่าวสัมภาษณ์กับโรลลิ่งสโตนเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 2016 ว่าอีเกิลส์ได้สิ้นสุดลงแล้ว<ref name="Henley">{{cite magazine|first= David |last= Browne |title= Eagles' Complete Discography: Don Henley Looks Back |magazine= Rolling Stone |date= June 10, 2016 |accessdate= June 26, 2016 |url= http://www.rollingstone.com/music/lists/eagles-complete-discography-don-henley-looks-back-20160610}}</ref> อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2017 มีการประกาศว่าอีเกิลส์จะขึ้นแสดงในงานคอนเสิร์ตเดอะคลาสสิกเวสต์แอนด์เดอะคลาสสิกอีสต์ (The Classic West and The Classic East) ที่จะจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ปีเดียวกัน<ref>{{cite news|first= Ben |last= Sisario |title= A Pair of Classic Rock Events Will Bring Fleetwood Mac and the Eagles to the Coasts |newspaper= The New York Times |date= March 29, 2017 |accessdate= March 29, 2017 |url= https://www.nytimes.com/ 2017/03/29/arts/music/classic-west-classic-east-fleetwood-mac-eagles.html}}</ref> โดยจะได้ร่วมกับดีคอน ฟราย บุตรชายของเกลนน์ ฟราย อดีตสมาชิกที่เสียชีวิตไปแล้วมาร่วมเล่นพร้อมด้วยแขกรับเชิญพิเศษอีกหนึ่งคน[[วินซ์ กิล]] นักร้องแนวคันทรีชาวอเมริกัน<ref>{{cite news|firsttitle= MichaelThe |last=Eagles Galluccicarry |title=on without Glenn Frey's Sonin Tonew Jointour thecoming Eaglesto Spokane Arena |newspaper= UltimateThe Classic RockSpokesman-Review |date= May 1618, 20172018 |accessdate= MayJune 217, 20172018 |url= http://ultimateclassicrockwww.spokesman.com/stories/2018/may/18/the-eagles-carry-on-without-glenn-frey-sonin-eaglesnew-tour/}}</ref>
 
== ประวัติ ==
เกลนน์ เฟรย์และดอนฟรายและดอน เฮนลีย์ ได้รับการว่าจ้างเป็นวงดนตรีแบ็คอัพของ ลินดา รอนสตัดท์ ในฤดูใบไม้ผลิ พ.ศ. 2514 ส่วน ไมส์เนอร์ และลีดัน ร่วมเป็นนักดนตรีแบ็คอัพในการทัวร์คอนเสิร์ตฤดูร้อน ของ [[ลินดา รอนสตัดท์]] เช่นกัน โดยทั้ง 4 เปิดแสดงโชว์เล็ก ๆ ร่วมกันครั้งหนึ่งที่ [[ดิสนีย์แลนด์]]
 
เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2514 ทั้ง เกลนน์ เฟรย์ฟราย, ดอน เฮนลีย์, เบอร์นี่ ลีดอน และ แรนดี ไมส์เนอร์ เซ็นสัญญากับบริษัทแผ่นเสียง แอสไซลัม เรคคอร์ด หลังจากนั้นไม่นานจึงตั้งชื่อวงว่า ดิ อีเกิลส์ ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515 บินไปอังกฤษและ ใช้เวลา 2 สัปดาห์ในการบันทึกเสียงผลงานชุด ''The Eagles'' โดย กลีน จอห์นส์ ทำหน้าที่ควบคุมการผลิต และวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน มีเพลงดังอย่าง "Take It Easy" และ "Hotel California" เป็นต้น
 
ดิ อีเกิลส์ออกตระเวนทัวร์[[คอนเสิร์ต]]ตลอดปี พ.ศ. 2515 จนกระทั่งถึงต้นปี พ.ศ. 2516 และบินไปอังกฤษอีกครั้งพร้อมกับ กลีน จอห์นส์ เพื่อบันทึกเสียงผลงานชุดที่ 2 ''Desperado'' ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพวกนอกกฎหมาย และวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2516 มีเพลงดังอย่าง "Tequila Sunrise" และ "Desperado"