ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เกิลส์เจเนอเรชัน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Jimmie Wiki (คุย | ส่วนร่วม)
Girls' Generation ยังมีสมาชิก 8 คนอยู่ และ SM ไม่เคยประกาศว่าทิฟฟานี่ ซูยอง และซอฮยอนเป็นอดีตสมาชิก
Jimmie Wiki (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 42:
{{Contains Korean text}}
 
'''เกิลส์เจเนอเรชัน''' ({{lang-ko|소녀시대}} ''Sonyeo Shidae''; {{lang-en|Girls' Generation}}) หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ '''เอสเอ็นเอสดี''' หรือ '''โซชิ''' (소시) ซึ่งย่อมาจากชื่อของกลุ่มในภาษาเกาหลี เป็น[[กลุ่มนักร้อง]]หญิงของ[[ประเทศเกาหลีใต้]] สังกัดค่าย[[เอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์]]ในปี ค.ศ. 2007<ref name=AmericanBoys>{{cite web|title=Spotlight: Girls’ Generation sets their sights on taking America with ‘The Boys’|url=http://toyazworld.com/2011/10/23/spotlight-girls-generation-sets-their-sights-on-taking-america-with-the-boys/|publisher=Toyazworld|accessdate=30 November 2011}}</ref><ref name=CrazyLondon>{{cite web|title=London is going K-Pop crazy|url=http://www.musicasia.net/london-is-going-k-pop-crazy/|publisher=MusicAsia|accessdate=30 November 2011}}</ref> ประกอบไปด้วยสมาชิกจำนวน 8 คนคือ แทยอน, ซันนี่, ทิฟฟานี่, ฮโยยอน, ยูริ, ซูยอง, ยุนอา และซอฮยอน โดยในช่วงแรกนั้นกลุ่มมีสมาชิกทั้งหมด 9 คน โดยเจสสิก้าได้ออกจากวงไปในปี ค.ศ. 2014
 
ในเบื้องแรก เกิลส์เจเนอเรชันได้รับความสนใจระดับหนึ่งจากผลงานเพลงบางเพลง เช่น "[[อินทูเดอะนิวเวิลด์ (เพลง)|อินทูเดอะนิวเวิลด์]]" และ "[[คิสซิงยู|คิสซิงยู]]" จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2009 พวกเธอได้รับความนิยมอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเพลง "[[จี (เพลง)|จี]]" ติดตลาดและได้รับการขนานนามว่าเป็น "เพลงแห่งทศวรรษ" ประจำเกาหลีใต้<ref>{{cite web|title=04.29.11 Girls’ Generation ‘Gee’ Tops MelOn 2000′s Chart, Crowned K-Pop Song of the Decade|url=http://www.soshified.com/2011/04/04-29-11-girls-generation-gee-tops-melon-2000s-chart-crowned-k-pop-song-of-the-decade|publisher=Soshified|accessdate=21 January 2013}}</ref> กลุ่มเกิลส์เจเนอเรชันมีสถานะมั่นคงในอุตสาหกรรมดนตรีเกาหลีใต้มากขึ้นเมื่อเผยแพร่เพลงถัด ๆ มาในช่วงปี ค.ศ. 2010–2011 คือ "[[เทลมียัวร์วิช (จีนี)|เทลมียัวร์วิช]]", "[[โอ! (อัลบั้ม)|โอ!]]", "[[รันเดวิลรัน (เพลงเกิลส์เจเนอเรชัน)|รันเดวิลรัน]]" และ "[[ฮูต (เพลง)|ฮูต]]" ต่อมาในปี ค.ศ. 2011 กลุ่มได้เริ่มดำเนินการตลาดในประเทศญี่ปุ่นอยู่ระยะหนึ่งจึงกลับไปบ้านเกิดเมืองนอนแล้วเผยแพร่เพลง "[[เดอะบอยส์ (เพลงของเกิลส์เจเนอเรชัน)|เดอะบอยส์]]" ซึ่งได้รับการปล่อยตัวถึงสามภาษาคือ เกาหลี ญี่ปุ่น และอังกฤษ ซึ่งนับเป็นเพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกของกลุ่มอีกด้วย ในช่วงห้าปีที่ผ่านมากลุ่มมียอดขายรวม 4.4 ล้านอัลบั้ม และ 30 ล้านซิงเกิล<ref name="forbes11" /><ref name="McCurry">{{cite web|last=McCurry|first=Justin|title=After Psy's Gangnam Style, here come Korea pop princesses Girls' Generation|url=http://www.guardian.co.uk/music/2012/nov/17/girls-generation-psy-gangnam-k-pop|publisher=The Guardian|accessdate=17 November 2012}}</ref> จากความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นในเกาหลีใต้เป็นเหตุให้กลุ่มอยู่ในรายชื่อ "นักร้องประจำชาติ" และ "กลุ่มนักร้องหญิงแห่งชาติ"<ref name="2010년 올해의 10대 가수와 가요">{{cite web|url=http://www.gallup.co.kr/gallupdb/reportContent.asp?seqNo=228&pagePos=1&selectYear=&search=&searchKeyword=|title=2010년 올해의 10대 가수와 가요|date=November 17, 2010|accessdate=November 25, 2012|publisher=Gallup Korea|language=Korea}}</ref> โพลซีซา ยังจัดให้กลุ่มอยู่ในรายชื่อ "ผู้สร้างความบันเทิงที่มีอิทธิพลมากที่สุด" ประจำปี ค.ศ. 2011 และ 2012 ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นกลุ่มนักร้องหญิงกลุ่มแรกที่อยู่ในรายชื่ออีกด้วย<ref name="Sisa">{{cite web|title=Girls’ Generation Is The Most Influential Celebrity in Korea|url=http://www.soshified.com/2012/08/girls-generation-is-the-most-influential-celebrity-in-korea|publisher=Soshified|accessdate=21 January 2013}}</ref>''เอเชียทูเดย์'' ยังจัดให้กลุ่มอยู่อันดับที่ 44 จาก 50 ในรายชื่อ "ผู้ทรงอิทธิพลในเกาหลี" ประจำปี ค.ศ. 2011<ref name="아시아투데이 선정...한국의 파워리더 50인">[http://www.asiatoday.co.kr/news/view.asp?seq=434747 아시아투데이 선정...한국의 파워리더 50인] ''Asia Today''. 31 Desember 2010.</ref> นิตยสาร ''[[ฟอบส์]]'' ยังกล่าวถึงเกิลส์เจเนอเรชันว่าเป็น "ผู้สร้างความบันเทิงที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในเกาหลีใต้" ในปี ค.ศ. 2011<ref name="forbes11">{{cite web|url=http://magazine.joinsmsn.com/forbes/article_view.asp?aid=287494#|title=Korea Power Celebrity 40|language=Korea|author=Son Yong|publisher=magazine.joinsmsn.com/forbes|date=24 Februari 2011|accessdate=25 November 2012}}</ref>