ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อำเภอท่าอุเทน"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nsonkphanom (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 22:
ชาวเมืองท่าอุเทน เดิมมีถิ่นฐานอยู่ที่เมืองหงสาวดี [[แขวงไชยบุรี]] [[ประเทศลาว]] ในปัจจุบัน พ.ศ. 2351 หัวหน้าชาวไทญ้อ ชื่อ ท้าวหม้อและภรรยาชื่อ นางสุนันทา ได้รวบรวมผู้คนมาสร้างเมืองใหม่บริเวณปาก[[แม่น้ำสงคราม]] ชื่อเมือง "ไชยสุทธิ์อุตมบุรี" (ปัจจุบันคือตำบล[[บ้านไชยบุรี ประเทศไทย|ไชยบุรี]] อำเภอท่าอุเทน) เจ้าผู้ครองนครเวียงจันทร์ได้ตั้งให้ท้าวหม้อเป็นพระยาหงษาสาวดี และท้าวเล็กน้องชายท้าวหม้อเป็นอุปฮาดวังหน้า ท้าวหม้อมีบุตรชายคนโตชื่อท้าวโสม
พ.ศ. 2357 ได้สร้างวัดศรีสุนันทามหาอาราม ต่อมาเรียกว่า วัดไตรภูมิ ชึ่งได้พบแผ่นศิลาจารึกในวัดนี้ แปลออกมาได้ความว่า "พระศาสนาพุทธเจ้าล่วงลับไปแล้ว 2357 พรรษา พระเจ้าหงสาวดี ทั้งสองพี่น้องได้มาตั้งเมืองใหม่ที่นี่ให้ชื่อว่า ไชย
พ.ศ. 2369 [[เจ้าอนุวงศ์]]เป็นขบถต่อกรุงเทพฯ ได้กวาดต้อนผู้คนไปอยู่ฝั่งซ้ายของ[[แม่น้ำโขง]] ตั้งเมืองขึ้นใหม่ชื่อ เมืองหลวงปุงลิง ทิ้งเมืองไชยสุทธิ์อุตมบุรี เป็นเมืองร้าง ต่อมาได้สวามิภักดิ์ต่อเจ้าแผ่นดินญวนคือ เจ้าฟ้าสามกวนหลวง จึงแต่งตั้งให้ท้าวพระปทุมเป็นเจ้าเมืองปุงลิงแทน และให้ท้าวจารย์ญาเป็นอุปฮาด ท้าวจันทร์ศรีสุราช (โสม) เป็นราชวงค์ และท้าวปุเป็นราชบุตร
พ.ศ. 2373 พระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) แม่ทัพไทยยกทัพมาปราบขบถเจ้าอนุวงศ์ ให้พระยาวิชิตสงครามตั้งทัพอยู่ที่เมืองนครพนม ให้ราชวงศ์ (เสน) จากเมืองเขมราช ท้าวขัตติยะ กรมการเมืองอุบลราชธานี และท้าวสีลา คุมไพร่พลไปตั้งอยู่ที่เมืองไชยสุทธิ์อุตมบุรี ซึ่งเป็นเมืองร้าง เมื่อปราบขบถจนราบคาบแล้ว เจ้าพระยาบดินทร์เดชา จึงได้ขอปูนบำเหน็จให้ราชวงศ์ (เสน) เป็น
พ.ศ. 2376 พระยามหาอำมาตย์ (ป้อม อมาตยกุล) เป็นแม่ทัพอยู่ ณ เมืองนครพนม
พ.ศ. 2409 พระศรีวรราช (ท้าวพระปทุม) ได้ถึงถึงแก่กรรมลง เมืองท่าอุเทนขาดเจ้าเมืองอยู่ 2 ปี จนเมื่อ พ.ศ. 2411 จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้พระจำเริญพลรบ (เจ้าดวงจันทร์) เป็นพระศรีวรราชคนต่อมา แต่อยู่ได้เพียง 1 ปี จึงกราบถวายบังคับทูลลาออกจากราชการ เนื่องจากมีความผิดหลายเรื่อง
|