ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คัสเตลลา"

คัสเตลลานำเข้ามายังญี่ปุ่นโดยพ่อค้าชาว[[โปรตุเกส]]เมื่อศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันเป็นขนมหวานที่มีชื่อเสียงของ[[นะงะซะกินางาซากิ]] ชื่อ " คัสเตลลา" มีที่มาจากคำใน[[ภาษาโปรตุเกส]]คำว่า "Pão de Castela" แปลว่า "ขนมปังจาก[[Castile|คัสตีลกัสติยา]]" ปกติแล้วจะจำหน่ายในกล่องรูปทรงยาว บรรจุคัสเตลลาขนาดยาวประมาณ 27 เซนติเมตร คัสเตลลามีบางส่วนที่คล้ายคลึงกับ[[Madeira cake|เค้กมาเดราเค้ก]] (Madeira cake) ที่มีที่มาจากโปรตุเกสเช่นกัน แต่ขนมหวานที่ใกล้เคียงที่สุดคือ "pão-de-ló" ซึ่งเป็นเค้กของโปรตุเกส

เมื่อศตวรรษที่ 16 โปรตุเกสได้เริ่มการค้าและเผยแพร่ศาสนาในญี่ปุ่น ขณะนั้นนะงะซะกิเป็นเมืองท่าเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่เปิดรับการค้าจากต่างชาติ ชาวโปรตุเกสได้นำสิ่งใหม่ ๆ เข้ามายังญี่ปุ่นมากมาย เช่น [[ปืน]] [[ยาสูบ]] [[ฟักทอง]] รวมทั้งคัสเตลลาซึ่งมีข้อดีที่สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน จึงเหมาะเป็นอาหารสำหรับกะลาสีที่ต้องออกทะเลเป็นเวลาหลายเดือน ใน[[ยุคเอโดะ]] น้ำตาลมีราคาแพง จึงทำให้ Castella มีราคาแพงตามไปด้วย และตระกูล[[โทะคุงะวะโทกูงาวะ]]ได้มอบคัสเตลลาแก่ผู้แทนทางการทูตในจักรพรรดิเพื่อนำไปถวาย<ref>[[:ja:文明堂|Bunmeidou]] History of Castella [http://www.tokyo-bunmeido.co.jp/museum/rekishi/index.html]</ref> เมื่อเวลาผ่านไป รสชาติของคัสเตลลาก็ได้รับการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับรสนิยมของชาวญี่ปุ่นมากขึ้น

คัสเตลลาทำมาจากส่วนประกอบจากธรรมชาติ ซึ่งให้รสชาติที่เรียบง่ายที่ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากชื่นชอบ แต่ปัจจุบันก็มีคัสเตลลาหลายแบบที่ทำมาจากส่วนประกอบที่แตกต่างกัน เช่น ผง[[ชาเขียว]] [[น้ำตาลทรายแดง]] และ[[น้ำผึ้ง]] ซึ่งอาจทำเป็นรูปทรงแตกต่างกัน อย่างเช่น "เบเบีคัสเตลลาเบบีคัสเตลลา" (baby castella) ที่ทำเป็นขนาดพอดีคำ เป็นที่นิยมในเทศกาล

{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|Castella (food)|คัสเตลลา}}