ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าโตฮาน-บว่า"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 15:
|death_place = [[อังวะ]]
}}
 
{{มีอักษรพม่า}}
 
'''พระเจ้าโต่หั่นบวา''' ({{lang-my|သိုဟန်ဘွား}}, {{IPA-my|θòhàɴbwá|pron}}, 1505 – พฤษภาคม 1542) กษัตริย์แห่ง [[อาณาจักรอังวะ]] จาก ค.ศ. 1527 ถึง 1542 พระโอรสองค์ใหญ่ของเจ้าฟ้า [[ซะโหล่น]] แห่ง [[โมญีน]] เป็นผู้บัญชาการกองทัพโมญีนในการรุกรานพรมแดนของ [[อาณาจักรอังวะ]] ในช่วงครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 16 ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1527 เจ้าชายเชื้อสายชานได้รับการสถาปนาเป็นกษัตริย์แห่งอังวะโดย ซะโหล่น ภายหลังจากโมญีนนำกองทัพรัฐชานเอาชนะอังวะได้ใน ค.ศ. 1527 หลังจากเจ้าฟ้าซะโหล่นถูกปลงพระชนม์ใน ค.ศ. 1533 พระเจ้าโต่หั่นบวากลายเป็นผู้นำแห่งอาณาจักรและเป็นกษัตริย์ผู้มีข้อถกเถียงเนื่องจากไม่ได้รับการยอมรับทันที่จากผู้นำเมืองอื่น ๆ ของอาณาจักร
 
พระองค์เป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์พม่าจากการเกิดการนองเลือดตลอดรัชสมัย ทั้งสังหารพระภิกษุผู้มีความรู้ รวมถึงปล้นทรัพย์สมบัติจากพระเจดีย์ตามวัดต่าง ๆ และเผาหนังสือคัมภีร์ ทำให้พระองค์เป็นที่เกลียดชังจากชาวพม่าและชาวรัฐชาน ทั้งยังเฉยเมยไร้ความสามารถที่จะระดมรัฐชานต่างๆไปสู่กับ [[อาณาจักรตองอู]] ซึ่งเคยเป็นรัฐบรรณาการของอาณาจักรอังวะ ตองอูที่แข็งแกร่งมากขึ้นเริ่มมีความคิดที่จะรวบรวมดินแดน หลังได้รับชัยชนะในการรุกรานอาณาจักรหงสาวดีของชาวมอญในปี ค.ศ. 1534-1539 ระหว่างที่อังวะไม่ได้ดำเนินการอะไร ตองอูได้โจมตีและยึดครอง[[แปร]] เมืองในอาณัติของอังวะได้ในปี ค.ศ. 1539 พระเจ้าโต่หั่นบวาและพันธมิตรรัฐชานเข้าขัดขวางแต่สายเกินไป กองทัพของอังวะพ่ายแพ้ต่อกองทัพของ [[พระเจ้าบุเรงนอง]] แห่งตองอู ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1542
หลังจากเจ้าฟ้าซะโหล่นถูกปลงพระชนม์ใน ค.ศ. 1533 พระเจ้าโต่หั่นบวาได้กลายเป็นกษัตริย์ผู้มีข้อถกเถียงแห่งอังวะในฐานะผู้นำแห่งอาณาจักรโมญีนเนื่องจากไม่ได้รับการตอบรับจากผู้นำคนอื่น ๆ ของอาณาจักรโมญีน
 
หลังจากความปราชัยของอังวะ เหล่าข้าราชบริพารเริ่มมีความคิดที่จะพยายามชิงอำนาจ ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1542 พระเจ้าโต่หั่นบวาถูกลอบปลงประชนม์โดยหัวหน้าคณะเสนาบดี ยัน นอง
พระองค์เป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์พม่าจากการเกิดการนองเลือดตลอดรัชสมัยทั้งสังหารพระภิกษุผู้มีความรู้รวมถึงปล้นทรัพย์สมบัติจากพระเจดีย์ตามวัดต่าง ๆ และเผาหนังสือคัมภีร์ทำให้พระองค์เป็นที่เกลียดชังจากชาวพม่าและชาวรัฐชานบางส่วน
 
{{อายุขัย|2048|2085}}