[[ไฟล์:Colonne de Juillet 01.jpg|thumb|right|250px|[[ปลัสเดอลาบัสตีย์]]และเสาแห่งเดือนกรกฎาคม (โกโลนเดอฌูเยต์) ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของป้อม[[บัสตีย์]]]]
ในเช้าวันต่อมา ดยุกดยุคแห่งลารอเชฟูโกด์นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 พระองค์ตรัสถามว่า "นี่คือการก่อกำเริบหรือ" ในขณะที่ลารอเชฟูโกด์ทูลกลับไปว่า "มิใช่ขอรับ นี่มิใช่การก่อกำเริบ นี่คือ การปฏิวัติ"<ref>Guy Chaussinand-Nogaret, La Bastille est prise, Paris, Éditions Complexe, 1988, p. 102.</ref>
พลเมืองชาวปารีสคาดการณ์ว่าจะมีการโจมตีตอบโต้ จึงทำการยึดฐานที่มั่นตามท้องถนน ก่อกำแพงหินกำบัง และติดอวุธอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ โดยเฉพาะหอกไม้เหลาจำนวนมาก ในขณะที่แวร์ซาย สมัชชาแห่งชาติยังคงไม่รับรู้ถึงเหตุการณ์ในปารีส แต่ระแวดระวังว่านายพลเดอบรอกลีอาจนำกองทหารฝ่ายกษัตริย์นิยมก่อรัฐประหาร และบังคับให้สมัชชา ฯ รับพระราชโองการวันที่ 23 มิถุนายน<ref>{{cite web |accessdate=22 January 2009 |url=http://sourcebook.fsc.edu/history/seance.html |title=The Séance royale of 23 June 1789 |publisher=[[Fitchburg State College]] }}</ref> จากนั้นจึงจะยุบสมัชชาลง วิสเคาน์แห่งนออาย เป็นบุคคลแรกที่นำข่าวและข้อเท็จจริงอันถูกต้องเกี่ยวกับเหตุการณ์ในปารีสมายังสมัชชา ฯ ที่แวร์ซาย จากนั้นสมัชชาจึงส่งผู้แทนไปยังออแตลเดอวีลเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงของนออาย