ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บรรดาศักดิ์ไทย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ป้ายระบุ: เพิ่มข้อความไม่เป็นวิกิขนาดใหญ่ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 25:
# พัน
# นาย หรือ หมู่
บรรดาศักดิ์ขุนนางไทยจะต้องเทียบกันด้วย "ระบบศักดินา"
* หมายเหตุ สมเด็จเจ้าพระยา เป็นบรรดาศักดิ์พิเศษที่ทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งขึ้นในบางรัชกาล
ตามหลักการปกครองสมัยอยุธยา มีบรรดาศักดิ์"เจ้าพระยา" แค่ 2 คน ทั้ง 2 ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งบรรดาศักดิ์ของขุนนางที่สูงที่สุดในสมัยอยุธยา ไม่มีตำแหน่งขุนนางใดจะสูงกว่านี้อีกแล้ว อาจมีข้อแย้งว่า ยังมีบรรดาศักดิ์"สมเด็จเจ้าพระยา"ที่สูงกว่า ซึ่งเป็นความจริงในสมัยรัตนโกสินทร์ เพราะ ในสมัยอยุธยาไม่มีบรรดาศักดิ์ สมเด็จเจ้าพระยา
 
1. "สมุหนายก" มีฐานะเป็น"เจ้าพระยาสมุหนายก" อัครมหาเสนาบดี มีหน้าที่ควบคุมกิจการพลเรือนทั่วประเทศ และ กับกำดูแลหัวเมืองฝ่ายเหนือ
2. "สมุหพระกลาโหม" มีฐานะเป็น"เจ้าพระยาสมุหพระกลาโหม" อัครมหาเสนาบดี มีหน้าที่ควบคุมกิจการทหารทั่วประเทศ และกับกำดูแลหัวเมืองฝ่ายใต้
ซึ่งถ้าเปรียบเทียบหน้าที่ความรับผิดชอบกับปัจจุบัน นั้นก็คือ ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี
ซึ่งบางคนอาจจะแย้งว่า ตำแหน่ง"สมุหพระกลาโหม" คือ รัฐมนตรีกลาโหม และ "ตำแหน่งสมุหนายก" คือ รัฐมนตรีมหาดไทยซึ่งเกิดหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองปี พ.ศ.2475 ไม่ใช่ในสมัยอยุธยาที่จะวัดกันโดยระบบ "ศักดินา"
 
"พระยาสุริยะราชาไชยอภัยพิรียภาหะ" เจ้าเมืองเมืองพิชัย ศักดินา 5,000 / "พระสุรินทราราชาธิบดีศรีสุริยศักดิ์" สมุหะพระคชบาลจางวางซ้าย ศักดินา 5,000
จะเห็นว่า "พระยา" และ "พระ" ศักดินาเท่ากัน ดังนั้นก็คือตำแหน่งเท่ากันครับ
 
"พระยาศรีสุริยะ ภาหะ สมุหะ พระอัศวราช พิริยภาหะ" เจ้ากรมม้าต้น ศักดินา 3,000 / "หลวงกำแพงรามภักดีสรีสุริยชาติ" สมุหะพระคชบาลขวา ศักดินา 3,000 จะเห็นว่า "พระยา" และ "หลวง" ศักดินาเท่ากัน ดังนั้นก็คือตำแหน่งเท่ากันครับ
 
"พระยาแพทยพงษาวิสุทธาธิบดีอภัยรีพิริยกรมภาหุ" จางวางแพทยาโรงพระโอสถ ศักดินา 2,000 / "หลวงราชวังเมืองสุริยชาติ" สมุหะพระคชบาลซ้าย ศักดินา 3,000 จะเห็นว่า "หลวง" มีศักดินาที่สูงกว่า "พระยา" ดังนั้นก็คือมีตำแหน่งที่สูงกว่า
 
อีกหนึ่งตัวอย่าง ตำแหน่ง"ผู้บัญชาการทหารบก" ( เทียบเท่า ตำแหน่งข้าราชการพลเรือนระดับ 11 )
ในสมัยอยุธยา ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก คือ "พระยารามจตุรงค์" จางวางกรมอาสาหกเหล่า ศักดินา 10000 (พระยานาหมื่น) ถ้าใครเคยดูละครเรื่อง ขุนศึก ตำแหน่งนี้คือตำแหน่งสุดท้ายของ"เสมา"
กรมอาสาหกเหล่า คำว่า “อาสา” แปลว่า “ทหารหน้า” กล่าวอย่างปัจจุบันก็คือกองทัพบกนั่นเอง มีหน้าที่รบพุ่งปราบปรามอริราชศัตรูทุกทิศ ในสมัยโบราณ กรมนี้มีหน้าที่วางด่านทาง ป้องกันข้าศึกศัตรูซึ่งแบ่งตามซ้ายแลขวา แต่เดิมในสมัยอยุธยา กรมนี้แบ่งออกเป็น 6 กรม คือ กรมอาสาใหญ่ กรมอาสารอง กรมเขนทองขวา กรมเขนทองซ้าย กรมทวนทองขวา และ กรมทวนทองซ้าย จึงเป็นชื่อเรียกว่า "กรมอาสาหกเหล่า"
ซึ่งจะเห็นว่า ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก(ข้าราชการระดับ 11) ไม่ได้มีตำแหน่งเป็น"เจ้าพระยา"แต่อย่างใด เพราะ มีตำแหน่งเพียง"พระยา"เท่านั้น
 
บรรดาศักดิ์ในละครอีกหนึ่งตำแหน่ง คือ บรรดาศักดิ์ "หมื่น"
"หมื่นศรีสหะเทพ" ปลัดบาญชีย กรมมหาดไท ถือศักดินา 800 เทียบกับปัจจุบันคือ กองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย มีตำแหน่งผู้อำนวยการกอง(ข้าราชการระดับ 8)เป็นหัวหน้าหน่วยงาน
 
ตำแหน่งก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ต้องพิจารณา
"หลวงวาสุเทพ" เจ้ากรมมหาดไทตำรวจภูธร ตำแหน่ง"เจ้ากรม" ปัจจุบันคือตำแหน่งอธิบดี ข้าราชการระดับ 10
 
ต่อไปนี้เป็นตำแหน่งขุนนางบางส่วนของกรมมหาดไท โดยจะระบุ บรรดาศักดิ์ หน้าที่ และ ศักดินา ไว้ชัดเจน ลองดูตำแหน่งต่อไปนี้ เป็นตำแหน่งขุนนางบางส่วนของกรมมหาดไท
 
"กรมมหาดไท"
 
เจ้าพระยาจักรีศรีองครักษสมุหะนายกอัคมหาเสนาธิบดีอะไภยพิรีบรากรมภาหุ ถือศักดินา ๑๐๐๐๐ เอกอุราชสีห
ตราพระราชสีห์ ตราจักร (สมุหะนายก)
ขุนราชนิกุลนิตยภักดี ปลัดทูลฉลอง ถือศักดินา ๑๐๐๐
หมื่นศรีสหะเทพ ปลัดบาญชีย ถือศักดินา ๘๐๐
ขุนพินิจอักษร เสมิยรตรา ถือศักดินา ๖๐๐
ขุนราชพินิจใจ ราชปลัดถือพระธรรมนูน นา ๘๐๐
ขุนอายาจักร ราชปลัดได้สำรวด นา ๘๐๐
ขุนบุรินธร ราชปลัดนั่งศาลหลวง นา ๘๐๐
ขุนเทพอาญา ราชปลัดนั่งศาลราษฎร นา ๘๐๐
หมื่นแกว่นใจแกล้ว ๑ } หัวหมื่นทลวงฟัน ๔ คน ถือศักดินาคล ๔๐๐
หมื่นแก้วใจหาร ๑
หมื่นยงพลภ่าย ๑
หมื่นย่ายพลแสน ๑
พันภานณุราช } หัวพัน นาคล ๔๐๐
พันจันทณุมาท
พันเภาณุราช
พันพุทอณุราช
นายแกว่นคชสาร ๑ } นายเวรมหาดไท ถือศักดินาคล ๒๐๐
นายชำนาญกระบวน ๑
นายควรรู้อัฏ ๑
นายรัดตรวจสรพล ๑
ขุนราชอาญา สมุบาญชียกรมมหาดไท ถือศักดินา ๘๐๐
หัวปากฉลอไกรลาด หัวปากญอดเมืองมิ่ง } ๔ คน นาคละ ๒๐๐
หัวปากกรุงจอมเมือง หัวปากบุญชู
หลวงมหาอำมาตยาธิบดีพิรียะภาหะ มหาดไทฝ่ายเหนือ นา ๓๐๐๐
หลวงราชเสนา ปลัดทูลฉลอง นา ๘๐๐
หมื่นชำนิคชสาร } นาคล ๔๐๐
หมื่นชำนาญมรรคา
หมื่นดุรงคพิทัก
หมื่นรักษณรา
พันอะนาปะทาน เวนช้าง ๑ } หัวพันมหาดไทนอก นาคล ๒๐๐
พันสุกคลราช เวนคล ๑
พันพิศณุราช เวนม้า ๑
พันวิจรจักร เวนทาง ๑
หลวงจ่าแสนบดีศรีบริบาล เจ้ากรมมหาดไทฝ่ายภะลำภัง นา ๒๔๐๐
ขุนสุริยามาต ปลัดขวา นา ๖๐๐
ขุนกะเชนทรามาตย ปลัดซ้าย นา ๖๐๐
หมื่นจันทรามาต นา ๔๐๐
หลวงวาสุเทพ เจ้ากรมมหาดไทตำรวจภูธร นา ๑๐๐๐
ขุนพิศลูแสน ปลัดขวา ถือศักดินา ๖๐๐
ขุนเพชอินทรา ปลัดซ้าย ถือศักดินา ๖๐๐
หลวงเพชลูเทพ เจ้ากรมมหาดไทตำรวจภูบาล นา ๑๐๐๐
ขุนมหาพิไชย ปลัดขวา ถือศักดินา ๖๐๐
ขุนแผลงสท้าน ปลัดซ้าย ถือศักดินา ๖๐๐
หลวงเสนาภักดี นา ๘๐๐
หลวงอนุชิดพิทัก นา ๘๐๐
หลวงอนุรักผู้เบศ นา ๘๐๐
เกนเมืองรั้ง เมืองนนทราชธานี ๑ } นาคล ๔๐๐
เมืองอุไทยธานี ๑
เมืองยศสุนธร ๑
เมืองเทพราชธานี ๑
หมื่นชำนาญ นายกองช่างเลื่อย นา ๒๐๐
หมื่นอิน นายกองช่างก่อ นา ๒๐๐
 
ตำแหน่งบรรดาศักดิ์ที่กล่าวนี้มีตัวตนจริง เป็นบรรดาศักดิ์ที่มีอยู่จริง
 
สรุป ถ้าหาก เทียบ"ระดับข้าราชการ"กับ"บรรดาศักดิ์" จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และ ไม่มีความชัดเจนในการวัดเปรียบเทียบตายตัว จะเห็นว่าในข้อมูลที่กล่าวมา บรรดาศักดิ์"หลวง"บางตำแหน่งถือศักดินาสูงกว่า"พระยา"บางตำแหน่ง บรรดาศักดิ์จะมาวัดเปรียบเทียบกันตายตัวไม่ได้ บรรดาศักดิ์ต้องวัดที่การถือครอง"ศักดินา"และ ตำแหน่งหน้าที่* หมายเหตุ สมเด็จเจ้าพระยา เป็นบรรดาศักดิ์พิเศษที่ทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งขึ้นในบางรัชกาล
แต่ละบรรดาศักดิ์ จะมี '''ศักดินา''' ประกอบกับบรรดาศักดิ์นั้นด้วย ระบบขุนนางไทย ถือว่า ศักดินา สำคัญกว่า '''บรรดาศักดิ์''' เพราะศักดินา จะใช้เป็นตัววัดในการ[[ปรับไหม]] และ [[พินัย]] ในกรณีขึ้นศาล บรรดาศักดิ์ ใน '''พระไอยการนาพลเรือน นาทหาร หัวเมือง''' นี้ ค่อนข้างสับสนและไม่เป็นระบบ คล้ายๆ กับว่า ผู้ออกกฎหมายนึกอยากจะให้บรรดาศักดิ์ใด ศักดินาเท่าไหร่ ก็ใส่ลงไป โดยไม่ได้จัดเป็นระบบแต่อย่างใด (เพิ่มเติมวันที่ 4 มีนาคม 2550 ตามความเห็นไม่คิดว่าจะจัดไม่เป็นระบบแต่อย่างใด แต่เป็นลักษณะอย่าง เช่น เมืองตากเป็นเมืองเล็กๆ พระยาตากอาจถือศักดินาสูงสุดอยู่ในเมืองตาก หมายความว่าใหญ่สุดในเมืองตากทั้งศักดินาและบรรดาศักดิ์ แต่อย่างที่บอกไป เมืองตากเป็นเมืองเล็ก เป็นไปได้ว่าอาจมีศักดินาต่ำกว่ายศขุนของอยุธยาซึ่งถือว่าเป็นเมืองใหญ่ก็เป็นได้ ทั้งนี้ควรหาข้อมูลเปรียบเทียบตรงจุดนี้ให้กระจ่าง) ดังนั้น จึงมีขุนนางใน กรมช่างอาสาสิบหมู่ หรือ บางกรม ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นพระยา แต่ศักดินาต่ำกว่า 1,000 ซึ่งถือเป็นขุนนางระดับต่ำ