ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เอริช เค็สท์เนอร์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ "เดรสเดน" → "เดรสเดิน" +แทนที่ "ไลฟ์ซิก" → "ไลพ์ซิจ" ด้วยสจห.
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ใช้ปีคศ|260px}}
{{Infobox writer <!-- for more information see [[:Template:Infobox writer/doc]] -->
| name = แอเอริช แคสท์เนอร์เค็สท์เนอร์
| image = Erich Kästner 1961.jpg
| caption = Erich Kästner, 1961
|birth_name= เอมิมีแอเอริช แคสท์เนอร์เค็สท์เนอร์
| birth_date = {{Birth date|df=y|1899|2|23}}
| birth_place = [[เดรสเดิน]], [[จักรวรรดิเยอรมัน]]
เส้น 17 ⟶ 16:
| period = ค.ศ. 1928–1969
}}
'''เอมิมีแอเอริช แคสท์เนอร์เค็สท์เนอร์''' ({{lang-de|Emil Erich Kästner}}) เป็นนักเขียนชาวเยอรมัน มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจากวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง เอมิมีล ยอดนักสืบ (Emil and the Detectives; {{lang-de|Emil und die Detektive}}) ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศมากกว่าห้าสิบเก้าภาษาทั่วโลก
 
==ประวัติ==
=== เดรสเดิน (Dresden) 1899-1919 ===
แอเอริช แคสท์เนอร์เค็สท์เนอร์ เป็นบุตรชายคนเดียวของนาย เอมิมีล กับนางอีดา แคสท์เนอร์เค็สท์เนอร์ เกิดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.1899 บ้านเลขที่ Königsbrückerstr.66 เมืองเดรสเดิน เมื่อแอเอริชมีอายุครบได้สามปีครอบครัวของเขาก็ย้ายมาที่บ้านเลขที่ 48 ถนนสายเดิม ครอบครัวของเขาไม่ได้มีฐานะรำรวย พ่อทำงานที่โรงงานทำกระเป๋า ส่วนแม่ต้องช่วยเหลือครอบครัวด้วยการเปิดร้านทำผมในอพาร์ทเม่น แต่รายได้ก็ยังไม่พอเพียง พวกเขาจึงตึดสินใจปล่อยห้องส่วนหนึ่งในอพาร์ทเมนท์ให้เช่าต่อ ซึ่งผู้เช่าส่วนมากมีอาชีพเป็นคุณครู อันเป็นแรงบันดาลใจให้เขาอยากมีอาชีพเป็นครู เขาจึงได้ไปโรงเรียนฝึกอาชีพครู แต่ก็เรียนไม่จบเนื่องจากโรงเรียนต้องปิดเพราะสถานการณ์การทางการเมือง และถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้อยากที่จะเรียนต่ออยู่แล้ว หลังจากนั้นแอเอริชจึงไปเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยม และเขาก็จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลายปี ค.ศ. 1919 เนื่องจากเขาเป็นนักเรียนที่ดีมีผลงานทางการเรียนที่ดี เขาจึงได้รับทุนการศึกษาจากเมืองเดรสเดิน หลังจากนั้นเขาก็จึงเดินทางไปยังเมืองไลพ์ซิจไลพ์ซิช (Leipzig) เพื่อไปศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย
 
===ไลพ์ซิจไลพ์ซิช 1919-1927===
ปี ค.ศ. 1919 แอเอริชเริ่มการศึกษาที่มหาวิทยาลัยไลพ์ซิจไลพ์ซิช เขาศึกษาวิชาภาษาเยอรมัน, ปรัชญา, การละคร และประวัติศาสตร์ เนื่องการเงินที่เขาได้รับการทุนการศึกษาไม่พอเพียงสำหรับดำรงชีพ เขาต้องหาอาชีพเสริมหลาย ๆ งานทำระหว่างเรียน อย่างเช่นขายน้ำหอม นอกจากนั้นระหว่างเรียนเขายังได้มีอาชีพเสริมเป็นนักข่าวและนักวิจารณ์ให้กับหนังสือพิมพ์ Neuen Leipziger Zeitung ในปี ค.ศ.1925 เขาก็ได้จบการศึกษาระดับด็อกเตอร์ หลังจากนั้นเขาก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นบรรณาธิการประจำ แต่ในปี ค.ศ.1927 เขาก็ได้โดนไล่ออกเนื่องจากบทวิจารณ์เกี่ยวกับการเมืองที่รุนแรงเกินไป
 
===เบอร์ลิน 1927-1945===
หลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองเบอร์ลิน ทำงานเป็นนักเขียนอิสระให้กับหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ อย่างเช่น Berliner Tageblatt เป็นต้น
ปี ค.ศ. 1928 หนังสือที่ได้รับการตีพิมพ์เล่มแรกของเขาคือ Herz auf Taille เป็นหนังสือที่รวมรวบเกี่ยวกับกลอนต่าง ๆ ที่เขาได้เขียนไว้ในสมัยที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไลพ์ซิจไลพ์ซิช
หลังจากนั้นในปี 1999 วรรณกรรมเยาวชนเรื่อง เอมิมีล ยอดนักสืบ (Emil und die Detective) ก็ได้ออกจำหน่ายที่เยอรมัน ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำให้มีแปลเป็นภาษาต่างประเทศมากกว่าห้าสิบเก้าภาษาทั่วโลก รวมทั้งภาษาไทย เอมิมีลเป็นเรื่องราวที่มีฉากหลังเป็นเมืองเบอร์ลิน
เอมิมีล ยอดนักสืบได้ถูกนำมาสร้างเป็นหนังครั้งแรกในปี 1937 ซึ่งเป็นที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นก็ได้มีนำมาการสร้างเป็นหนังขึ้นอีกหลายรอบ
ส่วนวรรณกรรมเยาวชนเรื่องอื่นที่เคสเนอร์เค็สท์เนอร์ได้เขียนเมื่อใช้ชีวิตอยู่ที่เบอร์ลินอย่างเช่น Pünktchen und Anton (1931) ได้นำมาแปลเป็นภาษาไทยครั้งแรกโดย แววตา หนังสือชื่อว่าคู่หู่จอมซน
ระหว่างที่แคสท์เนอร์เค็สท์เนอร์ใช้ชีวิตอยู่เบอร์ลิน เขาก็ได้เจอปัญหากับระบบนาซี ทำให้หนังสือเขาไม่ได้ตีพิมพ์ออกจำหน่าย และยังเจอปัญหาเรื่องการการเผาหนังสือด้วย แคสท์เนอร์เค็สท์เนอร์โดนจับกุมจากตำรวจนาซี แต่ก็โดนปล่อยออกมาได้ตลอด ระหว่างการเมืองวุ่นวายเขาก็ได้ใช้ชีวิตลบไปยังอิตาลี และสวิตเซอร์แลนด์บาง แต่ก็ได้ไม่นาน เพราะเขาบอกว่าเยอรมันเป็นบ้านเกิดของเขา เป็นประเทศที่เขาเติบโตและเขาต้องตายที่นั้น
 
===มึนเช่นมิวนิก (München) 1945 – 1974===
หลังจากสงครามโลกครั้งสองได้สิ้นสุดลง เครสท์เนอร์เค็สท์เนอร์ก็ได้เดินทางไปยังมึนเช่นมิวนิก ซึ่งที่นั้นเขาได้ก่อตั้งนิตรยสารนิตยสารเกี่ยวกับเด็กแลเยาชนพินกวิ้น „Pinguin“และเยาวชน พิงกวีน (Pinguin)
ในระหว่างช่วงนั้นเขาก็ยังได้เขียนหนังสือ บทความ เนื้อเพลงต่าง ๆ อีกมากมายที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับนาซีและสภาพประเทศเยอรมันหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
นอกจากนั้นเขายังได้รับแต่งตั้งเป็นประธาณของสมาคมพีอีเอ็น P.E.N. Zentrum ซึ่งเขาได้รับแต่งตำแหน่งนั้นจนถึงกระทั่งปี ค.ศ. 1962 นอกเหนือจากนั้นเขายังได้เป็นผู้ก่อตั้งห้องสมุดเยาวชนนานาชาติ Internationalen Jugendbibliothek ที่มู่นเช่นอีกด้วย
เครสท์เนอร์เค็สท์เนอร์มีภรรยาที่ใช้ชีวิตร่วมด้วยคืน ลุยส์ล็อตเท่ เอ็นเดเล่ แต่เขาไม่ได้มีบุตรกับเธอ เครสท์เนอร์เค็สท์เนอร์มีบุตรชายคนเดียวคือโทมัส เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1957 กับนางฟรีเดล ซีแเบรท์ที่คบกันเป็นชู้ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเครสท์เนอร์เค็สท์เนอร์ ด้วยเหตุนี้ภรรยาของเครสท์เนอร์เค็สท์เนอร์จึงไม่พอใจและขอร้องให้เขาทั้งสองคนเลิกติดต่อกัน
เครสท์เนอร์เค็สท์เนอร์เสียชีวิตในวันที่ 29 เดือนกรกฎาคม ปีค.ศ. 1974 โดยโรคมะเร็งในหลอดไส้อาหาร โดยเขาถูกฝังศพไว้ที่สุสาน Bogenhausener Friedhof ที่มู่นเช่น
 
==ผลงานการเขียน(บางส่วน) ==