ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บริตนีย์ สเปียส์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 35:
 
=== 2544 – 2546: ความประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน ===
เดือนพฤศจิกายน 2544 เธอออกอัลบั้มชุดที่ 3 "Britney" เปิดตัวที่อันดับ 1 ในอเมริกาโดยยอดขายในสัปดาห์แรกคือ 1,041746,000 แผ่น มีซิงเกิ้ลแรกคือ "I'm a Slave 4 U" ที่ The Neptunes มาช่วยแต่งและโปรดิวซ์ให้
กุมภาพันธ์ 2545 เธอได้แสดงนำใน[[ภาพยนตร์]]เรื่องครอสโรดส์ (Crossroads) เดือนถัดมาเธอได้เลิกกับแฟนหนุ่ม[[จัสติน ทิมเบอร์เลค]]
 
บรรทัด 41:
 
[[ภาพ:Britney Spears.jpg|thumb|150px|บริทนีย์ สเปียร์ส ปี 2003]]
พฤศจิกายน 2546 เธอได้ออกอัลบั้มชุดที่ 4 "In the Zone" แนวเพลงมีการเพิ่ม synthpop มากขึ้น ยังได้ศิลปินชื่อดังอย่าง Moby และ R. Kelly มาช่วยแต่งเพลงด้วย In the Zone ขึ้นอันดับ 1 ในอเมริกาในสัปดาห์แรกด้วยยอดขายมากกว่า 909609,000 แผ่น ทำให้เธอเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่มีการเปิดตัวเข้าชาร์ทที่อันดับ1 ถึง 4 อัลบั้ม อัลบั้มชุดนี้เธอได้ทำงานร่วมกับมาดอนน่าในเพลง "Me Against the Music" ซึ่งดังถล่มทลาย สามารถติดอยู่บนชาร์ต TRL เป็นเวลากว่า 9 สัปดาห์นับว่าเป็นการทุบสถิติต่างๆ อย่างสิ้นเชิง
ส่วนซิงเกิ้ลที่ 2 '''"Toxic"''' เป็นเพลงที่ลบคำสบประมาทของหลายๆคนว่าอัลบั้มนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่เพลงนี้เองสามารถทำให้ทุกๆคนได้รับรู้อีกครั้งกับการกลับมา ซิงเกิ้ลที่ 3 '''"Everytime"''' ซิงเกิ้ลนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการขอโทษแฟนหนุ่มคนเก่าหรือ จัสติน ทิมเบอร์เลคนั่นเอง แม้เพลงนี้จะไปได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักในอเมริกา แต่ในเกาะอังกฤษกลับขึ้นอันดับ 1 อย่างสง่างาม โดยยอดขายรวมของอัลบั้มนี้ขายได้กว่า 10 ล้านก๊อปปี้ ซึ่งนับว่าเยอะมากในยุคแห่งการดาวน์โหลดอย่างนี้