ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ศาสนาพุทธ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ย้อนการแก้ไขที่ 7095320 สร้างโดย Samuele2002 (พูดคุย)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{พุทธ}}
'''พระพุทธศาสนา''' หรือ '''ศาสนาพุทธ''' ({{lang-pi|buddhasāsana}} ''พุทฺธสาสนา'', {{lang-sa|buddhaśāsana}} ''พุทธศาสนา'') เป็น[[ศาสนา]]ที่มี[[พระพุทธเจ้า]]เป็น[[ศาสดา]] มี[[พระธรรม (ศาสนาพุทธ)|พระธรรม]]ที่พระองค์[[ตรัสรู้]]ชอบด้วยพระองค์เอง และตรัสสอนไว้เป็นหลักคำสอนสำคัญ มี[[พระสงฆ์]] (ภิกษุ ภิกษุณี) สาวกผู้ตัดสินใจออกบวชเพื่อศึกษาปฏิบัติตนตามคำสั่งสอน ธรรม-วินัย ของพระบรมศาสดา เพื่อบรรลุสู่จุดหมายคือพระนิพพาน และสร้างสังฆะ เป็นชุมชนเพื่อสืบทอด[[พระธรรม|คำสอนของพระบรมศาสดา]] รวมเรียกว่า พระ[[รัตนตรัย]]{{fn|1}} นอกจากนี้ในพระพุทธศาสนา ยังประกอบคำสอนสำหรับการดำรงชีวิตที่ดีงาม สำหรับผู้ที่ยังไม่ออกบวช (คฤหัสถ์ - อุบาสก และอุบาสิกา) ซึ่งหากรวมประเภทบุคคลที่ที่นับถือและศึกษาปฏิบัติตนตามคำสั่งสอง สั่งสอนของพระบรมศาสดา แล้วจะจำแนกได้เป็น 4 ประเภท คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา หรือที่เรียกว่า [[พุทธบริษัท 4]]
 
ศาสนาพุทธเป็นศาสนา[[อเทวนิยม]] ปฏิเสธการมีอยู่ของ[[พระเป็นเจ้า]]หรือ[[พระผู้สร้าง]] และเชื่อในศักยภาพของมนุษย์ ว่าทุกคนสามารถพัฒนาจิตใจ ไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ได้ ด้วยความเพียรของตน กล่าวคือ ศาสนาพุทธ สอนให้มนุษย์บันดาลชีวิตของตนเอง ด้วยผลแห่งการกระทำของตน ตาม ''[[กฎแห่งกรรม]]'' มิได้มาจากการอ้อนวอนขอจาก[[พระเป็นเจ้า]]และสิ่งศักดิ์สิทธิ์นอกกาย<ref name="คาถาธรรมบท อัตตวรรคที่ ๑๒">พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต '''คาถาธรรมบท อัตตวรรคที่ ๑๒'''. พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก <[http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=692&Z=720]>. เข้าถึงเมื่อ 9-6-52</ref> คือ ให้พึ่งตนเอง<ref>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๙ สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค อัตตทีปวรรคที่ ๕ '''อัตตทีปสูตร'''. พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก <[http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=17&A=948&Z=980]>. เข้าถึงเมื่อ 9-6-52</ref> เพื่อพาตัวเองออกจากกอง ''[[ทุกข์]]''<ref>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๑ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค '''เจลสูตร''' (ว่าด้วยการมีธรรมเป็นเกาะเป็นที่พึ่ง). พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก <[http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=19&A=4327&Z=4362]>. เข้าถึงเมื่อ 9-6-52</ref> มีจุดมุ่งหมายคือการสอนให้มนุษย์หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงในโลก[[มรรคมีองค์แปด|ด้วยวิธีการสร้าง ''ปัญญา'']] ในการอยู่กับความทุกข์อย่างรู้เท่าทันตาม[[อริยสัจ 4|ความเป็นจริง]] วัตถุประสงค์สูงสุดของศาสนาคือ[[นิพพาน|การหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง]]และวัฏจักรการเวียนว่ายตายเกิด เช่นเดียวกับที่พระศาสดา[[ตรัสรู้|ทรงหลุดพ้น]]ได้ด้วยกำลังสติปัญญาและความเพียรของพระองค์เอง ในฐานะที่พระองค์ก็ทรงเป็นมนุษย์ มิใช่เทพเจ้าหรือทูตของพระเจ้าองค์ใด<ref>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑2 อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต ทุกนิบาต อังคุตตรนิกาย '''ปฐมปัณณาสก์'''. พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก <[http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=20&A=1267&Z=1373]>. เข้าถึงเมื่อ 9-6-52</ref>
บรรทัด 6:
พระพุทธเจ้า พระองค์ปัจจุบันคือ[[พระโคตมพุทธเจ้า]] มีพระนามเดิมว่า ''เจ้าชายสิทธัตถะ'' ได้ทรงเริ่มออกเผยแผ่คำสอนใน[[ชมพูทวีป]] ตั้งแต่สมัยพุทธกาล แต่หลัง[[ปรินิพพาน]]ของพระพุทธเจ้า พระธรรมวินัยที่พระองค์ทรงสั่งสอน ได้ถูกรวบรวมเป็นหมวดหมู่ด้วย[[สังคายนาครั้งที่หนึ่งในศาสนาพุทธ|การสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งแรก]]<ref>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๗ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗ จุลวรรค ภาค ๒ '''ปัญจสติกขันธกะ''' (เรื่องพระมหากัสสปเถระ สังคายนาปรารภคำของพระสุภัททวุฑฒบรรพชิต). พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก <[http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=7&A=7298&Z=7369]>. เข้าถึงเมื่อ 9-6-52</ref> จนมีการรวบรวมขึ้นเป็น[[พระไตรปิฎก]] ซึ่งเป็นหลักการสำคัญที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาตลอดของฝ่าย ''[[เถรวาท]]'' ที่ยึดหลักไม่ยอมเปลี่ยนแปลงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แต่ใน[[สังคายนาครั้งที่สองในศาสนาพุทธ|การสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่สอง]] ได้เกิดแนวคิดที่เห็นต่างออกไป<ref>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๗ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗ จุลวรรค ภาค ๒ '''เรื่องพระสัมภูตสาณวาสีเถระ'''. พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก <[http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=7&A=7830&Z=7857&pagebreak=0]>. เข้าถึงเมื่อ 9-6-52</ref> ว่าธรรมวินัยสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ตามเวลาและสถานการณ์เพื่อความอยู่รอดแห่งศาสนาพุทธ<ref>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๗ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗ จุลวรรค ภาค ๒ '''สัตตสติกขันธกะ ที่ ๑๒''' (ถามและแก้วัตถุ ๑๐ ประการ). พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก <[http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=7&A=8113&Z=8248&pagebreak=0]>. เข้าถึงเมื่อ 9-6-52</ref> แนวคิดดังกล่าวจึงได้เริ่มก่อตัวและแตกสายออกเป็นนิกายใหม่ในชื่อของ ''[[มหายาน]]'' ทั้งสองนิกายได้แตกนิกายย่อยไปอีกและเผยแพร่ออกไปทั่วดินแดนเอเชียและใกล้เคียง บ้างก็จัดว่า ''[[วัชรยาน]]'' เป็นอีกนิกายหนึ่ง แต่บ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของนิกายมหายาน แต่การจัดมากกว่านั้นก็มี<ref>[http://www.rigpawiki.org/index.php?title=Nine_yanas Nine Yana categorisation]</ref> หลักพื้นฐานสำคัญของ[[ปฏิจสมุปบาท]] เป็นเพียงหลักเดียวที่เป็นคำสอนร่วมกันของคติพุทธ<ref>Dalai Lama. ''The Middle Way''. Wisdom Publications 2009, page 22.</ref>
 
ปัจจุบันศาสนาพุทธ ได้เผยแผ่ไปทั่วโลก โดยมีจำนวนผู้นับถือส่วนใหญ่อยู่ใน[[ทวีปเอเชีย]] ทั้งใน[[เอเชียกลาง]] [[เอเชียตะวันออก]] และ[[เอเชียตะวันออกเฉียงใต้]] ปัจจุบันศาสนาพุทธ ได้มีผู้นับถือกระจายไปทั่วโลก ประมาณ 700 ล้านคน<ref>[http://www.adherents.com/Religions_By_Adherents.html#Buddhism Major Religions Ranked by Size]; U.S. State Department's International Religious Freedom Report 2004. http://www.state.gov/g/drl/rls/irf/2004/ Accessed 20 September 2008; Garfinkel, Perry. "Buddha Rising", National Geographic Dec. 2005: 88–109; [https://www.cia.gov/library/publications/the-world-factbook/geos/xx.html#People CIA - The World Factbook]</ref><ref name="Lopez, p. 239">Lopez, ''Story of Buddhism''. p. 239</ref><ref name="Lopez, Buddhism. p. 248">Lopez, ''Buddhism''. p. 248</ref> ด้วยมีผู้นับถือในหลายประเทศ ศาสนาพุทธจึงเป็นศาสนาสากล<ref>ราชบัณฑิตยสถาน, 2552, หน้า 602</ref>
 
== องค์ประกอบ ==