ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อันดับกบ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
HakanIST (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขของ 223.207.140.172 (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย 27.145.43.39
ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว
บรรทัด 14:
| range_map =Frog distribution.png
| range_map_caption = [[แผนที่]]แสดงการกระจายพันธุ์ของกบทั่วโลก}}
'''กบ''' ({{lang-en|Frogs, Toads}}) เป็น[[อันดับ (ชีววิทยา)|อันดับ]]ของ[[สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ]]อันดับหนึ่ง ใช้[[ชื่อวิทยาศาสตร์]]ว่า Anura (/อะ-นู-รา/)
กบ อ๊บๆ
 
มีรูปร่างโดยรวม คือ เป็นสัตว์ไม่มีหาง เพราะ[[กระดูกสันหลัง]]ส่วนหางได้เชื่อมรวมเป็นชิ้นเดียวยาว กระดูกสันหลังลดจำนวนลงมาจากสัตว์ใน[[ยุคก่อนประวัติศาสตร์]]เพราะมีไม่เกิน 9 ปล้อง มีขาหลังยาวจากการยืดของกระดูกทิเบียกับกระดูกฟิบูลาและของกระดูกแอสทรากากัสกับกระดูกแคลลาเนียม โดยมีบางส่วนเชื่อมติดกันและเต็มไปด้วยมัด[[กล้ามเนื้อ]]แข็งแรง เพื่อใช้ในการ[[กระโดด]] มีส่วนหัวที่ใหญ่และแบนราบ ปากกว้างมาก
 
กบในระยะวัยอ่อนจะมีลักษณะแตกต่างไปจากตัวเต็มวัยอย่างชัดเจน เรียกว่า "[[ลูกอ๊อด]]"<ref>{{cite web|url=http://guru.sanook.com/dictionary/dict_royals/%E0%B8%81%E0%B8%9A/ |title=กบ |work=[[พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน]]}}</ref> โดยมีรูปร่างคล้าย[[ปลา]] มีส่วนหัวที่โตมาก มีหาง ไม่มี[[ฟัน]] โดยในส่วนโครงสร้างของจะงอยปากเป็นสารประกอบ[[Keratin|เคอราติน]] หายใจด้วยเหงือกเหมือนซาลาแมนเดอร์ พฤติกรรมการกินอาหารของลูกอ๊อดจะแตกต่างกันไป โดยอาจจะกินแบบกรองกิน หรือกิน[[พืช]] และกิน[[สัตว์]] เมื่อเปลี่ยนรูปร่างเป็นตัวเต็มวัยจึงเปลี่ยนลักษณะการกิน รวมทั้งเปลี่ยนสภาพโครงสร้างของอวัยวะระบบย่อยอาหารรวมทั้งระบบอวัยวะอย่างอื่น ซึ่งการเปลี่ยนรูปร่างของกบนั้นจะต่างจากซาลาแมนเดอร์เป็นอย่างมาก
 
การ[[ผสมพันธุ์|สืบพันธุ์]]ของกบนั้นมีหลากหลายมาก ส่วนการ[[ปฏิสนธิ]]จะเกิดขึ้นภายนอกตัว โดยทั้ง 2 เพศมีพฤติกรรมกอดรัดกันระหว่างผสมพันธุ์ กบส่วนมากจะป้องกันดูแลไข่ นอกจากบางชนิดเท่านั้นที่เก็บไข่ไว้บนหลัง ที่ขา ในถุงบนหลัง หรือในช่องท้อง หรือบางชนิดวางไข่ติดไว้กับ[[พืชน้ำ]]ที่เติบโตใน[[น้ำ]]หรือบน[[กิ่งไม้]]ของ[[ต้นไม้]]เหนือน้ำและเฝ้าไข่ไว้ การปฏิสนธิที่เกิดขึ้นภายในตัวจะพบเพียงกับกบบางชนิดเท่านั้น เช่น ''[[Ascaphus truei]]'' เป็นต้น และการเจริญของ[[เอมบริโอ]]ภายในไข่และวัยอ่อนที่ออกจากไข่มีรูปร่างเป็นเหมือนตัวเต็มวัยเลย โดยไม่ผ่านขั้นการเป็นลูกอ๊อดเกิดขึ้นกับหลายสกุลในหลายวงศ์ อาทิ สกุล ''[[Hemiphractus]]'' และ''[[Stefania]]'' เป็นต้น
 
กบ เป็นสัตว์ที่ถือกำเนิดมาแล้วราว 200 ล้านปีก่อน และเป็นสัตว์ที่อยู่รอดพ้นมาได้จาก[[การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่]]เมื่อ 65 ล้านปีก่อน ที่ทำให้[[ไดโนเสาร์]]สูญพันธุ์ โดยนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการศึกษาถึงเรื่องนี้ เชื่อว่า เพราะกบเป็นสัตว์ที่หลบซ่อนตัวอยู่ใต้ดินได้อย่างเป็นดี และเป็นสัตว์ที่ปรับตัวได้ดีให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศแบบใหม่ จากการศึกษาพบว่า กบในยุคปัจจุบันราวร้อยละ 88 เป็นกบที่มีที่มาจากอดีตที่สามารถย้อนไปไกลได้ถึง 66–150 ล้านปีก่อน โดยศึกษาจากการตรวจสอบทางพันธุกรรมและเปรียบเทียบระดับ[[ยีน]]และ[[โมเลกุล]]ระหว่างกบในยุคปัจจุบัน และ[[ซากดึกดำบรรพ์]]ของกบในยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยพบว่า กบใน 3 วงศ์ คือ [[Microhylidae]] หรืออึ่งอ่าง, [[Natatanura]] ที่พบในทวีปแอฟริกา และ[[Hyloidea]] ที่พบในทวีปอเมริกาใต้ เป็นกบที่สืบสายพันธุ์มาจากกบในยุคก่อนประวัติศาสตร์ และปัจจุบันได้มีการสืบสายพันธุ์และแตกแขนงทางชีววิทยาไปทั่วโลก<ref>หน้า 7 โลกาภิวัฒน์ GLOBALIZATION, ''กบเป็นสัตว์ที่รอดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่เมื่อ 66 ล้านปีก่อน''. "โลกโศภิณ". '''ไทยรัฐ'''ปีที่ 68 ฉบับที่ 21727: วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 แรม 9 ค่ำ เดือน 8 ปีระกา</ref>
 
ปัจจุบัน ได้มีการ[[อนุกรมวิธาน]]กบออกเป็น[[วงศ์ (ชีววิทยา)|วงศ์]]ทั้งหมด 27 วงศ์ ใน 419 [[genus|สกุล]] ปัจจุบันพบแล้วกว่า 6,700 [[species|ชนิด]] นับว่าเป็นอันดับที่มีความหลากหลายมากที่สุดของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และก็ยังคงมีการค้นพบชนิดใหม่ขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี ประมาณ 60 ชนิดต่อปี โดยกบส่วนใหญ่จะพบใน[[เขตร้อน]] โดยใช้หลักการพิจารณาจาก โครงสร้างกระดูก, กล้ามเนื้อขา, รูปร่างลักษณะของลูกอ๊อด และรูปแบบการกอดรัด เป็นต้น
 
==การจำแนก==