ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นิจิเร็ง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ "นิชิเรน" → "นิชิเร็น" ด้วยสจห.
Anonimeco (คุย | ส่วนร่วม)
แก้ไขบางส่วน
บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
'''พุทธศาสนานิชิเร็น''' ({{lang-ja|日蓮系諸宗派}}, ''นิชิเร็น-เคอิ โช ชูฮะ'') เป็นหนึ่งในนิกายทาง[[มหายาน]]ของ[[พุทธศาสนา]] ที่ยึดตามคำสอนของ พระสงฆ์ชาวญี่ปุ่นชื่อ '''[[พระนิชิเร็นเร็ง]]''' ([[ค.ศ. 1222]]– [[ค.ศ. 1282]]) รูปแบบของศาสนาพุทธนิกายนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อสังคมญี่ปุ่นหลายช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ นิชิเร็นโชชูจะเชื่อใน คัมภีร์ [[สัทธรรมปุณฑริกสูตร]] และเชื่อว่ามนุษย์ทุกๆทุกคน มีธรรมชาติพุทธะอยู่ในชีวิตของแต่ละคนอยู่แล้ว จึงทำให้มนุษย์ทุกๆทุกคนสามารถบรรลุพุทธภาวะได้ในช่วงชีวิตนี้ ซึ่งพระนิชิเร็นเร็ง ได้เห็นความเบี่ยนเบนทางคำสอนของ มหายานในสมัยนั้น นิกายนิชิเร็นมีแตกแยกออกเป็นหลายๆหลาย ๆ นิกายย่อยและลัทธิต่างๆต่าง ๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังมีแยกออกเป็นกลุ่มศาสนาใหม่มากมาย โดยบางนิกายจะใช้บทสวดเดียวกัน แต่จะมีความแตกต่างในการปฏิบัติ และคำสอน ผู้นับถือนิกายนิชิเร็นจะเชื่อว่าการปฏิบัติธรรมจะสามารถนำพาความสุข และสันติสุขมาสู่โลก
{{ความหมายอื่น||ศาสดาของนิชิเร็น|พระนิชิเร็น}}
'''พุทธศาสนานิชิเร็น''' ({{lang-ja|日蓮系諸宗派}}, ''นิชิเร็น-เคอิ โช ชูฮะ'') เป็นหนึ่งในนิกายทาง[[มหายาน]]ของ[[พุทธศาสนา]] ที่ยึดตามคำสอนของ พระสงฆ์ชาวญี่ปุ่นชื่อ '''[[พระนิชิเร็น]]''' ([[ค.ศ. 1222]]– [[ค.ศ. 1282]]) รูปแบบของศาสนาพุทธนิกายนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อสังคมญี่ปุ่นหลายช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ นิชิเร็นโชชูจะเชื่อใน คัมภีร์ [[สัทธรรมปุณฑริกสูตร]] และเชื่อว่ามนุษย์ทุกๆคน มีธรรมชาติพุทธะอยู่ในชีวิตของแต่ละคนอยู่แล้ว จึงทำให้มนุษย์ทุกๆคนสามารถบรรลุพุทธภาวะได้ในช่วงชีวิตนี้ ซึ่งพระนิชิเร็น ได้เห็นความเบี่ยนเบนทางคำสอนของ มหายานในสมัยนั้น นิกายนิชิเร็นมีแตกแยกออกเป็นหลายๆนิกายย่อยและลัทธิต่างๆอีกมากมาย อีกทั้งยังมีแยกออกเป็นกลุ่มศาสนาใหม่มากมาย โดยบางนิกายจะใช้บทสวดเดียวกัน แต่จะมีความแตกต่างในการปฏิบัติ และคำสอน ผู้นับถือนิกายนิชิเร็นจะเชื่อว่าการปฏิบัติธรรมจะสามารถนำพาความสุข และสันติสุขมาสู่โลก
 
== พระนิชิเร็นไดโชนินเร็งไดโชนิน ผู้ก่อตั้ง ==
ตั้งแต่อายุได้ 16 ปี ถึง 32 ปี [[พระนิชิเร็นไดโชนินเร็ง|พระนิชิเร็งไดโชนิน]]ได้ศึกษาหลักธรรมคำสอนต่างๆต่าง ๆ นับไม่ถ้วนในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะที่ ภูเขาฮิเออิ และภูเขาโคยะ โดยในช่วงเวลานั้นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาในญี่ปุ่นอยู่ เมือง [[นาระ]] และ [[เกียวโต]] พระนิชิเร็นไดโชนินเร็งไดโชนินได้ประกาศว่า คำสอนที่ถูกต้องแท้จริงของพระพุทธเจ้า[[พระโคตมพุทธเจ้า|พระศากยมุนีพุทธะ]] คือ [[สัทธรรมปุณฑริกสูตร|พระสัทธรรมปุณฑริกสูตร]] หรือ '''[[นะมุเมียวโฮเร็งเงะเคียว|นัมเมียวโฮเร็งเงเคียว]]''' ตลอดช่วงชีวิตของพระนิชิเร็นไดโชนินเร็งไดโชนิน ได้ทำการโต้วาทีธรรม และโจมตีหักล้างคำสอนของศาสนาพุทธนิกายอื่นๆอื่น ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ว่าเป็นคำสอนนอกรีต และไม่ใช่คำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะกับ [[นิกายสุขาวดี]] และ [[นิกายเซ็น]] ซึ่งสมัยนั้นเป็นนิกายที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อสังคมญี่ปุ่น ท่านได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ '''ริชโซ อันโคคุรอน''' หรือ'''การยึดถือคำสอนที่ถูกต้องเพื่อให้ประเทศเกิดสันติ''' เมื่อ [[ค.ศ. 1260]] เพื่อยื่นเสนอต่อรัฐบาลทหารคามาคูระซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของผู้สำเร็จราชการลำดับที่ 5 [[โฮโจ โทขิโยริ]]
 
ใจความหนังสือเสนอให้ใช้พุทธศาสนาเป็นกฎหมาย และเรียกร้องให้รัฐบาลและชาวญี่ปุ่นเลิกนับถือและสนับสนุนคำสอนนิกายต่างๆต่าง ๆ โดยเชื่อว่ารากฐานอันมั่นคงที่เกิดจากพุทธศาสนาที่แท้จริงจะทำให้ญี่ปุ่นสงบสุขและปลอดภัย เนื่องจากญี่ปุ่นในสมัยนั้นประสบปัญหานานัปการ ทั้งภัยธรรมชาติจากแผ่นดินไหวและพายุที่รุนแรง สภาพอากาศผิดธรรมชาติ โรคระบาด ข้าวยากหมากแพง ความระส่ำระสายแย่งชิงอำนาจภายใน และการคุกคามจากจักรวรรดิมองโกล โดยท่านเชื่อว่ามีต้นเหตุมาจากการนับถือคำสอนที่ผิดพลาด ส่งผลให้ประชาชนและผู้ปกครองประเทศมีแนวคิดและดำเนินชีวิตผิดพลาดและขาดจริยธรรมอันถูกต้อง เทพยดาที่คุ้มครองประเทศล้วนหนีจากไป และเปิดโอกาสให้ปิศาจร้ายเข้ามาแทนที่ แต่รัฐบาลทหารคามาคูระปฏิเสธข้อเรียกร้องของท่านทุกครั้งที่ท่านยื่นหนังสือฉบับนี้ ท่านจึงปลีกตัวจากคามาคูระและเริ่มเตรียมรากฐานการเผยแผ่ธรรมสู่ประชาชนต่อไป
 
== นิกายย่อย ==
ในปัจจุบัน ศาสนาพุทธนิกายนิชิเร็นนั้น ไม่ใช่นิกายเดี่ยวๆเดี่ยว ๆโดยได้มีการแยกเป็นนิกายย่อยๆย่อย ๆ ออกไป หลังจากการดับขันธ์ของ [[พระนิชิเร็นเร็ง]] โดยก่อนการดับขันธ์ พระนิชิเร็นเร็ง ได้แต่งตั้ง พระสงฆ์อาวุโส 6 รูป เพื่อให้ทำหน้าที่เผยแผ่คำสอนต่อไปในอนาคต ประกอบด้วย [[พระนิชโช]] (日昭), [[พระนิชิโร]] (日朗), [[พระนิโค]] (日向), [[พระนิตโช]] (日頂), [[พระนิชิจิ]] (日持), และ [[พระนิกโค]] (日興) แต่ว่า [[พระนิชิจิ]] ได้เดินทางไปยังต่างประเทศและไม่ได้รับข่าวของท่านอีกเลย และพระนิตโชในภายหลังได้มาเป็นศิษย์ของพระนิกโค
 
สาเหตุของการแตกแยกนิกายต่างๆต่าง ๆ นั้นมีหลายประการ อาทิเช่น การแตกแยก การตีความคำสอนที่ผิดเพี้ยนไปของบางนิกาย เป็นต้น พูดได้ว่า พระสงฆ์อาวสุโสมีความเข้าใจในคำสอนของพระนิชิเร็นเร็งในรูปแบบที่แตกต่างกัน และพระสงฆ์อาวุโสบางรูป ได้ปฏิบัติธรรมที่เบี่ยนเบนไปจากคำสอนของพระนิชิเร็นเร็ง ส่งผลให้ พระนิกโค ซึ่งเห็นความผิดพลาดนี้ได้เดินทางออกจาก วัดคุอนจิ ในปี [[ค.ศ. 1289]] โดยได้กล่าวว่า พระนิโค และพระสงฆ์รูปอื่นๆอื่น ๆ กำลังไปในทางที่นอกรีต และผิดจากที่พระนิชิเร็นสอนเร็งสอน ซึ่งทำให้พระนิกโคไม่อาจยอมรับได้
 
วัดคุอนจิในปัจจุบันเป็นวัดศุนย์กลางของ นิกาย[[นิชิเร็นชู]] ซึ่งเป็นหนึ่งในสองนิกายที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งดำเนินการโดยพระสงฆ์อาวุโสองค์อื่นๆอื่น ๆ ส่วนพระนิกโคได้เดินทางไปยัง[[ภูเขาไฟฟูจิ]] และตั้งเป็น [[วัดไทเซขิจิ]] ซึ่งเป็นวัดใหญ่ของนิกาย[[นิชิเร็นโชชู]] ในปัจจุบัน ซึ่งพระนิกโคได้สร้างขึ้นหลังจากเดินทางออกมาจากวัดคุอนจิ ในปี [[ค.ศ. 1290]]
 
สำหรับนิกายอื่นๆอื่น ๆ นอกจากสองนิกายนี้นั้น มีมากมายอาทิเช่น [[ฮอกเกะชู]], [[ฮนมน บัตสุริว ชู]] และ [[เคมปนฮอกเกะชู]] และยังมีศาสนาใหม่ๆใหม่ ๆ ที่ยึดบทสวดหรือคำสอนบางส่วนของพระนิชเรนก็มี อาทิเช่น [[เรยูไค]], [[ชิโร โคเซอิ ไค]] และ [[นิปปอนซัน เมียวโฮจิ ซังฮะ]] ซึ่งแยกมาจาก นิกาย[[นิชิเร็นชู]] และยังมี [[โซกา งัคไค]] หรือ [[สมาคมสร้างคุณค่า]] , [[โชชินไคอิ]] และ [[เคนโชไค]] ซึ่งได้แยกออกมาจาก [[นิชิเร็นโชชู]]
 
=== นิกายต่างๆต่าง ๆ ===
* [[นิชิเร็นโชชู]] - นิกายสายของ[[พระนิกโค]] ที่ยึดตามคำสอนและการปฏิบัติแบบพระนิชิเร็นดั้งเดิมเร็งดั้งเดิม จัดเป็นหนึ่งในนิกายหัวรุนแรง
* [[นิชิเร็นชู]] - นิกายสายของพระสงฆ์อวุโสรูปอื่นๆอวุโสรูปอื่น ๆ
* ฮนมน บุตสึริว ชู
* [[เคมปน ฮอกเกะ]]
เส้น 35 ⟶ 34:
* นิชิเร็น โคมน ชู
 
=== นิกายใหม่ๆใหม่ ๆ ===
* เรอิยูไค
* ริชโช โคเซอิ ไค
เส้น 49 ⟶ 48:
นิกายนิชิเร็นส่วนใหญ่จะมีคำสอนคล้ายคลึงกับ[[นิกายเทียนไท้]] ที่ยึดสัทธรรมปุณฑริกสูตรเป็นพระสูตรหลักเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งคำสอนของพระศากยมุนีเป็น 5 ช่วง หรือลักษณะคำสอน 4 ประการ แต่เทียนไท้จะประนีประนอมมากกว่า เช่น นิกายนิชเรนโชชู จะรับคำสอนของนิกายเทียนไทเในเรื่อง หนึ่งขณะจิตสามพัน (一念三千: Ichinen Sanzen) และ ความจริงสามประการ (三諦: Santai)
 
พระนิชิเร็นเร็ง ได้เขียนจดหมายถึงศิษย์ และคำสอนต่างๆต่าง ๆ ไว้ ซึ่งถูกรวบรวมไว้เป็นบทธรรมนิพนธ์ ซึ่งยังมีบอกถึงวิถีการปฏิบัติของผู้นับถือ และมุมมองในคำสอนของตัวพระนิชเรนเองลงในจดหมายเหล่านี้อีกด้วย ซึ่งใช้สำหรับการศึกษาธรรมของผู้นับถือ ซึ่งเรียกว่า โกโช่ หรือ บางนิกายเรียกว่า โก-อิบุน ซึ่งมีมากกว่า 700 ฉบับ ซึ่งบางฉบับนั้นสมบูรณ์ครบถ้วน แต่บางฉบับก็เป็นเพียงเศษกระดาษ ซึ่งได้ถูกเก็บรักษาสืบทอดมานับศตวรรษ โดยการรวบรวม และการคัดลอก และยังมีหลายฉบับที่เป็นต้นฉบับ ซึ่งส่วนมากตัวต้นฉบับนั้นจะถูกรวมรวมไว้ที่วัดไทเซขิจิ ซึ่งเป็นศุนย์กลางของ นิกาย [[นิชิเร็นโชชู]] บางฉบับมีเป็นภาษาอังกฤษซึ่งถูกแปลโดยชาวต่างชาติ หรือชาวเอเชียที่รู้ภาษาญี่ปุ่น
 
== นิกายนิชิเร็นในประเทศไทย ==
ในประเทศไทยนั้น นิกายนิชิเร็นถูกเผยแพร่เข้ามาพร้อมกับชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งรกรากหรือมาประจำสำนักงานสาขาในยุคแรกเริ่มพัฒนาอุตสาหกรรมของไทย ซึ่งมีการนำเข้ามาหลายนิกาย ทั้ง [[นิชิเร็นโชชู]] [[นิชิเร็นชู]] [[นิชิเร็นฮนมน]] และ [[โซกา งัคไค]] เป็นต้น แต่ที่เด่นชัดและใหญ่ที่สุดคือ [[นิชิเร็นโชชู]] และ [[โซกา งัคไค]] ซึ่งนิกายนิชิเร็นโชชูนั้น ถูกเผยแพร่เป็นครั้งแรกโดยสมาคมโซกา งัคไค ภายใตการนำของประธานสมาคม นายไดซาขุ อิเคดะ และได้ก่อตั้ง [[สมาคมธรรมประทีป]] โดยมอบหมายให้[[ดร. พิภพ ตังคณะสิงห์]] เป็นนายกสมาคมอย่างเป็นทางการ ดร.พิภพ นี้ก็ยังได้รับมอบหมายให้เป็นหนึ่งในคณะผู้แปลบทธรรมนิพนธ์ของพระนิชิเร็นเร็ง เป็นภาษาไทยอีกด้วย อย่างไรก็ตามในภายหลัง นิกายนิชิเร็นโชชู ได้ทำการคว่ำบาตร โซกางัคไค หรือ [[สมาคมสร้างคุณค่า]] ส่งผลให้ผู้นับถือในประเทศไทยได้แยกออกเป็น 2 ฝ่ายด้วยเช่นกัน โดย สมาคมธรรมประทีป เป็นของนิกายนิชิเร็นโชชู และผู้นับถือส่วนใหญ่ได้ออกไปตั้งสมาคมใหม่ขึ้น โดยใช้ชื่อว่า "สมาคมสร้างคุณค่าในประเทศไทย" และเชื่อมโยงกับเครื่อข่ายสมาคมโซกา งัคไค สากล (เอสจีไอ) ร่วมกับสมาชิกส่วนใหญ่ของประเทศอื่นๆอื่น ๆ ทั่วโลก
 
== อ้างอิง ==