ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปอทะเล"

'''ปอทะเล''' ({{ชื่อวิทยาศาสตร์|Hibiscus tiliaceus}}) เป็นไม้ยืนต้น ใบรูปหัวใจ ขอบใบหยักถี่ ใต้ใบมีขนอ่อนๆอ่อน ๆปกคลุม ดอกสีเหลือง บานตอนสาย พอตกเย็นจะกลายเป็นสีแดงแล้วหลุดร่วงไป ผลแห้ง แตก พบปอทะเลในบริเวณรอยต่อระหว่างน้ำจืดกับน้ำเค็ม

เปลือกปอทะเลใช้ทำเชือก ใบเป็นยารักษาแผล เนื้อไม้ของปอทะเลมีความถ่วงจำเพาะ 0.6. นำไปใช้ในงานช่างไม้ได้ เช่นทำเรือ เปลือกไม้และรากใช้ต้มทำยาแก้ไข้ ใบอ่อนกินเป็นผัก ชนพื้นเมืองใน[[ฮาวาย]]นำเนื้อไม้ไปสร้างเรือแคนู<ref>{{cite web |url=http://www2.bishopmuseum.org/ethnobotanydb/resultsdetailed.asp?search=hau |title=hau, hau ka{{okina}}eka{{okina}}e |publisher=Bernice P. Bishop Museum |work=Hawaii Ethnobotany Online Database |accessdate=2009-02-28}}</ref> ประเทศในแถบเอเชียนิยมนำปอทะเลไปทำ[[:en:Bonsai|บอนไซ]] ชาวโอรังอัสลีในอัสลีใน[[รัฐเประเประก์]] ประเทศมาเลเซียนำเปลือกทำเป็นผงแห้งใช้รักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์<ref>Samuel, A.J.S.J., Kalusalingam, A., Chellappan, D.K., Gopinath, R., Radhamani, S., Husain, H. A., Muruganandham, V., Promwichit, P. 2010. Ethnomedical survey of plants used by the orang asli in kampong bawong, Perak, West Malaysia. Joutnal of Ethnobiology and Ethnomedicine. 6:5</ref>

Cyanidin-3-glucoside เป็น[[แอนโทไซยานิน]]ชนิดหลักที่พบในดอกของปอทะเล<ref>Lowry, 1976</ref> ใบของปอทะเลมีสารต้านอนุมูลอิสระและ มีกิจกรรมต่อต้าน tyrosinase[[:en:Tyrosinase|Tyrosinase]]<ref>(Masuda ''et al''., 1999; 2005)</ref>