ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ระเบิดมือ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ระเบิดน้อยหน่า เอ็มเคทู
บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
{{รอการตรวจสอบ}}
[[ไฟล์:F1 grenade DoD.jpg|thumb|ระเบิดน้อยหน่า ที่นิยมใช้ในสมัย[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]]]
[[ไฟล์:F1 grenade travmatik com 01 by-sa.jpg|thumb|ระเบิดน้อยหน่า ที่นิยมใช้ในสมัย[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]]]
เส้น 8 ⟶ 7:
 
== ประวัติ ==
ไม่มีการบันทึกเกี่ยวกับผู้คิดค้นระเบิดมือไว้แน่ชัด แต่มีการประดิษฐ์ระเบิดมือเพื่อใช้ในการรบ ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิไบแซนไทน์แห่งทวีปยุโรป และในสมัยราชวงศ์ซ่งแห่งประเทศจีน เริ่มแรก เป็นการใช้ภาชนะขนาดพอเหมาะมือ ที่มีน้ำหนักเบา มาบรรจุวัตถุไวไฟ, [[วัตถุระเบิด]] รวมไปถึงสารพิษชนิดต่างๆจากพืชและสัตว์ด้วย ใช้การเผาเชือกที่เชื่อมกับวัสดุภายในภาชนะเหล่านั้น เป็นการจุดชนวน
 
อย่างไรก็ตาม ระเบิดมือในยุคโบราณยังไม่ทรงประสิทธิภาพมากนักเมื่อเทียบกับระเบิดมือสำหรับการทหารในปัจจุบัน จนกระทั่งในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] ที่เริ่มมีการพัฒนาระเบิดมือให้ทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมีการใช้ระเบิดมืออย่างแพร่หลายในสนามรบ ระเบิดมือที่มีชื่อเสียงในช่วงนั้น คือ '''ระเบิดมิลส์''' (Mills Bomb) จากประเทศอังกฤษ ระเบิดมิลส์เป็นระเบิดที่มีโลหะห่อหุ้ม มีรูปร่างกลม มีเข็มแทงชนวน และมีพื้นผิวเป็นร่อง จุดชนวนด้วยการดึงสลักนิรภัยซึ่งอยู่ด้านบนสุดของตัวระเบิดมือ ชาวไทยนิยมเรียกระเบิดมือชนิดนี้ว่า "ระเบิดน้อยหน่า" ระเบิดมือชนิดนี้ มีใช้ทั้งใน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] และ [[สงครามโลกครั้งที่สอง]]
 
ในขณะที่ประเทศ[[อังกฤษ]]มีระเบิดมิลส์นั้น ประเทศ[[เยอรมนี]]ก็ได้มีการผลิตระเบิดมือแบบมีด้ามจับขึ้นมา เรียกว่า '''สติลฮานด์กรานาเทอ''' (Stielhandgranate) โดยมีเชื้อประทุอยู่ภายในกระบอกโลหะ ติดไว้กับปลายของด้ามไม้ซึ่งมีลักษณะกลวงภายใน จุดชนวนด้วยการดึงเชือกที่อยู่ภายในด้ามไม้ ซึ่งมีฝาเกลียวห่อหุ้มเชือกนี้ไว้จากด้านล่างสุด ระเบิดมือชนิดนี้ มีฉายาว่า " ที่บดมันฝรั่ง " หรือ " The Potato Masher " มีใช้ทั้งใน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] และ [[สงครามโลกครั้งที่สอง]] เช่นกัน ในช่วง[[สงครามกลางเมืองสเปน]] มีการพัฒนาระเบิดมือชนิดหนึ่ง ซึ่งทำจากขวดแก้วบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิง และใช้การจุดชนวนแถบผ้าเพื่อให้เกิดการเผาไหม้และระเบิดขึ้น ซึ่งภายหลัง ระเบิดมือชนิดนี้มีชื่อว่า '''โมโลตอฟ คอกเทล''' (Molotov Cocktail) โดยกองทัพ[[ฟินแลนด์]]ในช่วง[[สงครามฤดูหนาว]] ซึ่งเมื่อครั้งต้องสู้กับกองทัพของ[[สหภาพโซเวียต|โซเวียต]]ในช่วงนั้น กองทัพฟินแลนด์จะใช้โมโลตอฟ คอกเทล ควบคู่กับอาวุธชนิดอื่น โมโลตอฟ คอกเทล เป็นหนึ่งในระเบิดมือไม่กี่ชนิด ที่มีคุณสมบัติในการหยุดยั้งรถถังของศัตรู โดยการขว้างโมโลตอฟ คอกเทล ที่จุดชนวนแล้วให้ไปกระแทกกับเครื่องยนต์ของรถถัง เพื่อให้ตัวเครื่องยนต์ของรถถังถูกไฟเผาไหม้
 
ในช่วงก่อนและระหว่าง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] มีระเบิดมือรุ่นใหม่ๆใหม่ ๆ ที่ถูกผลิตและพัฒนาออกมาโดยประเทศต่างๆ เพื่อความได้เปรียบทางด้านการรบของแต่ละประเทศ ตัวอย่างเช่น ระเบิดมือรุ่น '''Mk 2''' จากสหรัฐอเมริกา , ระเบิดมือรุ่น '''F1''' จากประเทศฝรั่งเศส , ระเบิดมือรุ่น '''wz.33''' จากประเทศโปแลนด์ , ระเบิดมือรุ่น '''RGD-33''' จากสหภาพโซเวียต , ระเบิดมือรุ่น '''Mod. 35''' จากประเทศอิตาลี และ ระเบิดมือรุ่น '''Type 97''' จากประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น
 
ภายหลัง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] โลกได้เข้าสู่ยุคสมัยแห่ง[[สงครามเย็น]]อย่างเต็มตัว ระเบิดมือรุ่นเก่าๆหลายรุ่นก็ได้ถูกปลดประจำการไป และถูกแทนที่ด้วยระเบิดมือรุ่นใหม่ๆที่ดีกว่าแทน อย่างไรก็ตาม ระเบิดมือรุ่นเก่าๆบางรุ่นจาก[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]ก็ยังได้รับการใช้งานอยู่ในช่วงสงครามเย็น ในขณะที่หลายๆประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศขั้วอำนาจทั้งสอง (สหรัฐอเมริกา และ สหภาพโซเวียต) ก็ยังคงผลิตและพัฒนาระเบิดมือกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อการป้องกันประเทศและเหล่าพันธมิตรของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วง[[สงครามเวียดนาม]] ที่ระเบิดมือ พร้อมด้วยอาวุธและยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่ๆจากสหรัฐอเมริกา ได้ถูกส่งไปให้เหล่าทหารอเมริกัน, เวียดนามใต้ รวมถึงทหารจากประเทศพันธมิตรของสหรัฐอเมริกาในเวียดนาม เช่นเดียวกับสหภาพโซเวียต ที่ได้ส่งอาวุธและยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่ๆของตนให้กับทหารเวียดนามเหนือ รวมทั้งเหล่าประเทศพันธมิตรของตนเช่นกัน ระเบิดมือที่ถูกใช้งานในยุคนั้น ได้แก่ รุ่น '''M26 '''จากสหรัฐอเมริกา และ รุ่น '''RGD-5 ''' จากสหภาพโซเวียต เป็นต้น ซึ่งในช่วงท้ายของ[[สงครามเวียดนาม]] ระเบิดมือรุ่น '''M67 '''จากสหรัฐอเมริกา ก็ได้เข้ามาทดแทนรุ่น M26 และได้รับการผลิตและพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับระเบิดมือหลายรุ่นอื่นๆอื่น ๆ ทั่วโลก
 
ปัจจุบัน ยังคงมีการผลิตและพัฒนาระเบิดมือ เพื่อใช้ในการสงครามรูปแบบต่างๆต่าง ๆ ต่อไป
 
== ลักษณะทั่วไป ==
ระเบิดมือนั้นมีด้วยกันหลายรูปร่างและขนาด แต่ระเบิดมือส่วนใหญ่จะมีคุณลักษณะร่วมกันสองประการ คือ อย่างแรก มีโพรงข้างในเพื่อบรรจุ[[ดินระเบิด]] หรือสารระเบิด อย่างที่สองคือ มีรูเล็กๆ ที่จะสอดเข็มแทงชนวนเข้าไป
 
ระเบิดมือนั้นมีขนาดเล็ก และมีลักษณะการทำงานที่คล้ายกันมากกับ[[ประทัด]]หรือ[[ดอกไม้ไฟ]] เนื่องจากประทัดนั้นทำมาจากกระดาษห่อดินปืน และมีชนวนขนาดเล็ก เมื่อจุดไฟ ชนวนก็จะไหม้ลงไปถึง[[ดินปืน]] และระเบิดให้กระดาษที่หุ้มกระจายออก
 
สำหรับระเบิดมือสมัยใหม่นั้น ชนวนจะเป็นอุปกรณ์ภายในเชิงกล แบบ[[อิเล็กทรอนิกส์]] หรือใช้วัตถุระเบิดด้วยก็ได้ แต่จะไม่จุดไฟจากภายนอกเช่นประทัด โดยมากจะออกแบบให้มีวัตถุคม หรือลวด หรือวัตถุไวไฟ
 
เนื่องจากระเบิดมือ สามารถกระจาย"สะเก็ด" เข้าใส่กลุ่มเป้าหมายได้เมื่อเกิดการระเบิด ระเบิดมือจึงมักถูกใช้สำหรับหยุดยั้งกลุ่มบุคคลและทรัพย์สินของศัตรูที่อยู่ในสิ่งก่อสร้าง, สนามเพลาะ, พุ่มไม้, หลุมหลบภัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ป้อมปืนกลของศัตรู ซึ่งเป็นสิ่งที่ทหารเข้าไปประจันหน้าได้ยาก ถึงแม้ว่าระเบิดมือทั่วๆไปนั้นจะไม่สามารถทำลายรถถังและยานเกราะจากภายนอกได้ แต่ระเบิดมือก็สามารถสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับยานยนต์และยุทโธปกรณ์บางชนิดของศัตรูได้ เช่น รถยนต์, รถจักรยานยนต์, รถบรรทุกทหาร, เรือตรวจการณ์ รวมไปถึงเฮลิคอปเตอร์ และ เครื่องบินรบที่กำลังจอดอยู่
 
ระเบิดมือ จึงเป็นอาวุธเล็กๆที่สามารถลดความแข็งแกร่งของศัตรูที่มีจำนวนมากกว่าลงได้
 
[[หมวดหมู่:วัตถุระเบิด]]