ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หมิงรุ่ย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Banklive (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Banklive (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 9:
|allegiance= [[ราชวงค์ชิง]]
|rank= ขั้น "กง" สูงที่สุดในตำแหน่งขุนนาง <br/> เสนาบดีกรมกลาโหม <br/>ผู้ช่วยเสนาบดีกรมคลัง <br/>ผู้บัญชาการแห่งอีหลี<br/> ข้าหลวงใหญ่แห่งยูนนาน และกุ้ยโจว
|commands= สงครามต้าชิง-มองโกล<br/>สงครามต้าชิง-ซินเจียง(พ.ศ. 2299–2302)<br/>[[สงครามจีน-พม่า|สงครามต้าชิง-พม่า]] (พ.ศ. 2310–2311)
|unit= กองธงเหลือง ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้
|laterwork=
บรรทัด 22:
* ส่วนทัพหลักของหมิงรุ่ย30000นาย ยกมาเผชิญหน้ากับอะแซหวุ่นกี้ซึ่งคุมทหาร20000นาย การรบเป็นไปอย่างรุนแรงทั้ง 2 ฝ่ายต่างใช้กลยุทธ์รบพุ่งใส่กัน สุดท้ายหมิงรุ่ยสามารถขับไล่อะแซหวุ่นกี้จนถอยร่นออกไปได้ จากนั้นหมิงรุ่ยจึงค่อยๆพิชิตไปทีละเมืองอย่างรอบคอบเพื่อรักษาเส้นทางเสบียงและเส้นทางกองหนุนเอาไว้ โดยตลอดทางหมิงรุ่ยไม่พ่ายแพ้แก่ผู้ใดเลยจนลึกเข้ามาถึงชานเมืองอังวะห่างออกไปไม่ถึง 50 กิโลเมตร ในขณะนั้น[[พระเจ้ามังระ]] ยกกองทัพออกไปรับศึกด้วยพระองค์เอง แต่ยังไม่ทันได้รบพุ่งถึงขั้นแตกหักข่าวก็แจ้งมาถึงหมิงรุ่ยว่า อะแซหวุ่นกี้ได้นำทัพที่ซุ่มเอาไว้ย้อนกลับไปตีเมืองต่างๆคืนได้หมดแล้วและกำลังใกล้บุกมาถึงที่นี่แล้ว ส่วนกองทัพอีกเส้นหนึ่งก็พ่ายแพ้ไม่สามารถตีเมืองกองตนได้และถอนกำลังกลับต้าชิงไปแล้ว
 
*ในตอนนี้ทัพรองแตกพ่าย ทัพหนุนถูกทำลาย เส้นทางเสบียงถูกตัดขาด หมิงรุ่ยรู้ถึงจุดจบในการของศึกครั้งนี้ทันที แต่เขาก็เลือกที่จะตายอย่างสมศักดิ์ศรีในฐานะนักรบ ดีกว่ายอมถูกจับในฐานะเชลย รวมถึงกองทัพแปดกองธงที่พร้อมจะติดตามเขา หมิงรุ่ยตัดสินใจทำศึกสุดท้ายแต่แล้วกองทัพของ[[พระเจ้ามังระ]]และ[[อะแซหวุ่นกี้]] ก็สามารถพิชิตกองทัพของหมิงรุ่ยลงได้ในยุทธการณ์เมเมียว ทำให้โดยหมิงรุ่ยได้สั่งให้ทหารที่เหลือไม่ถึง1000 คนยอมแพ้ ส่วนตัวเองเลือกจะผูกคอตายอยู่เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ในแผ่นดินอังวะครั้งนี้ ดีกว่ายอมถูกจับเป็นการจบ[[สงครามจีน-พม่า|สงครามจีน-พม่า]]ครั้งที่ 3 ลงอย่างสิ้นเชิง