ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สงครามกรุงทรอย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Thucydides49 (คุย | ส่วนร่วม)
Thucydides49 (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 18:
เทวดาทุกตนได้รับเชิญไปงานอภิเสกสมรสของ เพเลอัส กับ เธทีส และต่างก็นำของขวัญไปมากมาย<ref>Photius, ''Myrobiblion'' 190.</ref> เว้นก็แต่ ''[[เอริส]]'' เทพีแห่งความวิวาทขัดแย้ง ซึ่งไม่ได้ถูกรับเชิญและห้ามเข้ามาในงานตามคำสั่งของซุส<ref>P.Oxy. 56, 3829 (L. Koppel, 1989)</ref> เอริสโกรธและรู้สึกเสียหน้า จึงโยน[[แอปเปิ้ลทองคำ]] (το μήλον της έριδος) อันเป็นของขวัญที่ตนนำมาเข้าไปในงาน โดยสลักคำว่า ''καλλίστῃ'' หรือ "แด่ผู้ที่งามที่สุด"<ref>Apollodorus ''Epitome'' E.3.2</ref> ไว้บนแอปเปิ้ล ฯ สามเทวีแห่งโอลิมปัส ได้แก่ [[เฮรา]], [[อะธีนา]], และ [[แอโฟรไดที]] ต่างอ้างกรรมสิทธิ์ในผลแอปเปิ้ล และโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อน แต่ก็ไม่มีเทพเจ้าองค์ใดยอมออกความเห็นตัดสินว่าเทพีองค์ไหนมีความงามเหนือกว่าคู่แข่ง ในที่สุดมหาเทพซุสจึงมีบัญชาให้เทพ[[เฮอร์มีส]]นำเทวีสวรรค์ทั้งสามไปหา[[ปารีส (ทรอย)|ปารีสเจ้าชายแห่งทรอย]] ปารีสนั้นไม่ทราบถึงชาติกำเนิดของตน เพราะถูกเลี้ยงมาอย่างเด็กเลี้ยงแกะบนภูเขาไอด้า<ref>Pausanias, 15.9.5.</ref> เนื่องจากมีคำนายว่าเด็กคนนี้จะนำความล่มสลายมาสู่กรุงทรอย<ref>Euripides ''Andromache'' 298; Div. i. 21; Apollodorus, ''Library'' 3.12.5.</ref> วันหนึ่งหลังปารีสจากชำระกายด้วยน้ำพุบนเขาไอด้าเสร็จ เทพธิดาทั้งสามก็ปรากฎตัวให้เขาเห็นด้วยสรีระอันเปลือยปล่าว ถึงกระนั้นปารีสก็ยังไม่สามารถตัดสินผู้ชนะได้ เหล่าเทวีจึงต้องใช้วิธีติดสินบน โดยอะธีนาเสนอจะทำให้ปารีสเป็นผู้มีปัญญาหยั่งรู้ และมีทักษะในการศึกสงครามเหนือกว่าวีรบุรุษนักรบคนใดๆ, เฮราเสนออำนาจทางการเมือง และสิทธิปกครองทั้งเอเชียให้, ส่วนเทพธิดาแอโฟรไดทีเสนอให้ความรักของสตรีที่งามที่สุดในโลก(ซึ่งหมายถึง[[เฮเลนแห่งทรอย|เฮเลนแห่งสปาร์ตา]])แก่ปารีส ปารีสจึงตกลงมอบแอปเปิ้ลทองคำให้แก่แอโฟรไดที หลังจากนั้นปารีสก็ออกผจญภัยจนกลับมาสู่กรุงทรอย
[[File:Hydria Achilles weapons Louvre E869.jpg|thumb|left|เธทิสมอบอาวุธที่ตีขึ้นโดยเฮฟาเอสตัสแก่อะคิลีสตัสแก่[[อคิลลีส]]บุตรชายของตน ([[เครื่องดินเผารูปเขียนสีดำ]] [[ไฮเดรีย]], 575–550 ก่อนคริสต์ศักราช)]]
เพเลอัสกับเธทิสให้กำเนิดบุตรชาย และตั้งชื่อให้ว่า[[อะคิลิสอคิลลีส]] มีคำทำนายว่าหากอะคิลิสหากอคิลลีสไม่ตายในวัยชราโดยไม่มีใครรู้จัก ก็จะตายแต่หนุ่มแน่นในสนามรบแต่กวีจะร้องขับขานวีรกรรมของเขาให้มีเกียรติก้องขจรไกลไปชั่วนิรันด์ ต่อมาเมื่ออะคิลอสอคิลลีสอายุได้เก้าขวบ [[แคลคัส]]โหรเอกของอากาเมมนอน พยากรณ์ว่าจะตีเอากรุงทรอยได้จำเป็นต้องอาศัยกำลังของอะคิลีส มีตำนานจากหลายๆต้นเรื่องระบุว่า เธทิสผู้แม่พยายามทำให้อะคิลีสคงกระพันในขณะที่ยังเป็นทารก บางตำนานเล่าว่าหล่อนถือลูกชายไว้เหนือกองไฟทุกคืน เพื่อเผาส่วนที่เป็นมนุษย์ปุถุชนของเขาให้สิ้นไป และถูเขาด้วย[[อมฤต]]ภาพ หรือภัตตาหารเทพ[[แอมโบรเซีย]] ({{lang-gr|ἀμβροσία}}) ในเวลากลางวัน การกระทำดังกล่าวเท่ากับเป็นการฆ่าลูกชายในเวลากลางคืน และชุบให้ฟื้นขึ้นในเวลากลางวัน เมื่อเพเลอัสพบเห็นเข้าจึงสั่งให้หยุดเสีย อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่าเธทิสนำอะคิลีสเธทิสนำอคิลลีสไปอาบน้ำในแม่น้ำ[[สติกซ์]]ที่ไหลผ่าน[[ปรโลกตามตำนานกรีก|ปรโลก]] เพื่อให้อยู่ยงคงกระพัน แต่เพราะหล่อนจับข้อเท้าของบุตรไว้ร่างกายส่วนนี้จึงไม่ถูกน้ำ ไม่ได้รับอมตะภาพและไม่ทนต่อการโจมตี ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า "[[ส้นเท้าของอะคิลีสของอคิลลีส]]" หมายถึงจุดอ่อน ฯ อะคิลีสอคิลลีสเติบโตขึ้นมากลายเป็นนักรบผู้แกล้วกล้าที่สุดในหมู่มนุษย์ ธีทิสผู้แม่กลัวคำทำนายของแคลคัสจึงนำลูกชายไปซ่อนเสียที่[[เกาะสกีรอส]] ({{lang-gr|Σκύρος}}) ณ ราชฐานของกษัตริย์[[ไลโคมีดีส]] ({{lang-gr|Λυκομήδης}}) โดยให้แต่งตัวเหมือนเด็กผู้หญิง แต่[[โอดิสเซียส]]ให้ปัญญาล่อออกมาได้
 
== อ้างอิง ==