|
[[ไฟล์:Portrait of Joan Miro, Barcelona 1935 June 13.jpg|thumb|250px|ชูอัน มีมิโร]]
[[ไฟล์:Nocturne.jpg |thumb|200px|ภาพงานจิตรกรรมชื่อ "กลางคืน (Nocturne)" ของชูอัน มีมิโร]]
'''ชูอันฌูอัน มีมิโร อี เฟร์ราฟาร์รา''' ({{lang-ca|Joan Miró i Ferrà}}) เป็น[[จิตรกร]]และ[[ประติมากร]][[ชาวคากาตาลันลา]] ([[ประเทศสเปน]]) ในสกุลศิลปะ[[ลัทธิเหนือจริง]] (surrealism) ภาพของเขาที่แสดงความเคลื่อนไหวไปมาอย่างน่าประหลาดนั้น เขาทำขึ้นจากความเคลื่อนไหวของลายเส้นที่พันกันชุลมุนและความสว่างสดใสของสี ภาพของมีมิโรเป็นการแปลสิ่งมหัศจรรย์ ซึ่งเป็นความแท้จริงที่พบใหม่นี้ มีความเป็นอยู่อย่างเหมาะสมดีแท้ทีเดียว เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้ว ความแท้จริงใหม่นี้ ไม่สามารถจะจับเอาเป็นคำพูด ความคิด หรือภาพให้สมบูรณ์แบบได้เลย ศิลปินลัทธิเหนือจริงและศิลปินเอกของศิลปะนามธรรมผู้นี้ได้พัฒนามาเป็นแบบอย่างศิลปะส่วนตัวอย่างเต็มที่ กลายเป็นผลงานที่สีสันอุดมสมบูรณ์ โดยได้รับอิทธิพลมาจาก[[คันดินสกี]] [[อาร์พ]] และเคล ผลงานของเขาเผยให้เห็น[[ภาษาเชิงกวีนิพนธ์]]
มีมิโรได้รับการยอมรับว่ามีเอกลักษณ์ในการถ่ายทอดวัฒนธรรมท้องถิ่น ออกมาเป็นภาพวาดได้อย่างลงตัวและงดงามหาที่เปรียบมิได้ เป็นศิลปินยุค 1893-1983 ซึ่งถือว่าโดดเด่นมากเมื่อเทียบกับรุ่นพี่อย่าง[[ปาโบล ปีกัสโซ]] ร่วมพิสูจน์ภาพเขียนแนวเหนือจริงที่ฉีกจากกรอบและกฎเกณฑ์เดิม ๆ ยอดศิลปินที่นักศิลปะรุ่นใหม่บอกว่า นี่แหละคือฮีโร่ในดวงใจ
== ประวัติ ==
ชูอัน มีมิโร เกิดเมื่อวันที่ [[20 เมษายน]] [[พ.ศ. 2436]] ที่ Passatge del Credit [[บาร์เซโลนา|เมืองบาร์เซโลนา]] [[แคว้นกาตาลุญญา]] [[ประเทศสเปน]] บิดาเป็น[[ช่างทอง]]และ[[ช่างนาฬิกา]]ชื่อมีเกล อัดเซเรียส อี โดโลเรส เฟร์รา ดี โอโรมี (Miguel Adzeries I Dolores Ferra di Oromi) มีมิโรใช้ชีวิตวัยเด็กในบาร์เซโลนา แม้เขาจะมีความสนใจศิลปะอยู่บ้างแต่ก็เข้าเรียนที่วิทยาลัยธุรกิจก่อนที่จะเข้าศึกษาใน[[สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งบาร์เซโลนา]] (The Barcelona École des Beaux-Arts) และสถาบันกาลิ (Académie Gali) แต่เรียนไปได้เพียงสามปี ในปี [[ค.ศ. 1910]] เขาล้มป่วยด้วยไข้[[ไทฟอยด์]]อย่างรุนแรง ครอบครัวของเขาจึงย้ายไปอยู่ในชนบทที่มอนโตรตช์ (Montroig) มีมิโรได้เริ่มวาดรูปหรือสร้างงาน[[จิตรกรรม]]อย่างจริงจังที่บ้านใหม่นั้น<ref>[http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=soubirous&month=11-10-2007&group=4&gblog=25 จิตรกรเอกชาวสเปนในสกุลศิลปะลัทธิเหนือจริง]</ref>
ในปี [[ค.ศ. 1918]] มีมิโรจัดแสดงผลงานของเขาขึ้นเป็นครั้งแรกที่ดัลเมากัล (Dalmau Gal) เป็นผลงานที่ได้รับความบันดาลใจ มากจากคติพื้นบ้านผสมกับกรรมวิธีของ[[คติโฟวิสต์]] (Fauvism; Fauves) เป็นคติทางศิลปะคติหนึ่งเกิดขึ้นในกรุงปารีสเมื่อ [[ค.ศ. 1905]] ผลงานจิตรกรรมของคตินี้นิยมใช้สีสว่าง สดใส รุนแรง ให้ความสำคัญกับอารมณ์ จินตนาการ และความงาม ศิลปินที่มีชื่อเสียงในกลุ่มนี้มีหลายคน เช่น [[อองรี มาตีส]] (Henri Matisse ศิลปินชาวฝรั่งเศส ค.ศ. 1869-1954) [[อองเดร เดอแรง]] (André Derain ศิลปินชาวฝรั่งเศส ค.ศ. 1880-1954) และ[[ดูฟี]] (Raoul Dufy ศิลปินชาวฝรั่งเศส ค.ศ. 1877-1953)<ref>[http://name20.exteen.com/20100728/entry งานศิลปะของโคอัน มีมิโร]</ref>
ในปี [[ค.ศ. 1919]] มีมิโรเดินทางไปปารีส ที่นั่นเองเขาได้พบกับศิลปินรุ่นพี่เชื้อชาติเดียวกันคือปีกัสโซ ซึ่งคบหากันเรื่อยมา มีมิโรได้รับอิทธิพลทางความคิดเกี่ยวกับ[[บาศกนิยม|ศิลปะบาศกนิยม]] (cubism) ผสานกับคตินิยมแบบดั้งเดิม (primitivism) เมื่อมีมิโรเดินทางกลับไปสเปน เขาพยายามแสวงหาแนวทางการสร้างสรรค์ของตนเอง แต่ก็ยังไม่พบแนวทางของตนเองอย่างแท้จริง ผลงานจิตรกรรมของมีมิโรในช่วงนี้ยังคงอาศัยรูปทรงธรรมชาติเป็นแนว หากแต่ได้ตัดรูปทรงที่ไม่ต้องการบางส่วนออกไปและเพิ่มเติมสีสันที่แปลกใหม่ตามความรู้สึกของเขาลงไป
ในปี [[ค.ศ. 1920]] มีมิโรเดินทางไป[[กรุงปารีส]]อีกครั้งหนึ่ง ในครั้งนี้เขาเข้าร่วมกลุ่มกับ[[กลุ่มล้ำยุค|ศิลปินหัวก้าวหน้า]] ([[อาวองการ์ด]]) ในขณะนั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ศิลปะ[[คติดาดา]] (dadaism; dada) กำลังได้รับความสนใจจากศิลปินรุ่นใหม่ ต่อมาลัทธินี้ได้สลายตัวไป เกิด[[ลัทธิเหนือจริง]] (surrealism) ผู้ก่อตั้งลัทธินี้คือ [[อองเดร เบรอตง]] (André Breton กวีชาวฝรั่งเศส ค.ศ. 1896-1966) เบรอตงกล่าวว่า ลัทธิเหนือจริง คือสิ่งที่ดำเนินไปเองตามจิตที่บริสุทธิ์ อาจแสดงออกด้วยถ้อยคำและวิธีการอื่น ๆ โดยปราศจากการควบคุมตามกฎเกณฑ์เก่า ๆ [[ศิลปิน]]ด้าน[[ทัศนศิลป์]] ในลัทธินี้มีหลายคน เช่น [[ซัลบาดอร์ ดาลี]] [[ฟรานซิส เบคอน]] (Francis Bacon จิตรกร[[ชาวอังกฤษ]] เกิด ค.ศ. 1910) [[มักซ์ แอนสท์]] (Max Ernst จิตรกร[[ชาวเยอรมัน]] ค.ศ. 1891-1976) โดยกลุ่มศิลปินหัวก้าวหน้าซึ่งมีทั้ง [[นักคิด]] [[นักเขียน]] [[กวี]] และ[[จิตรกร]] มีมิโรสนใจแนวคิดของลัทธิที่เกิดขึ้นใหม่นี้มากเมื่อเขาได้พบกับเบรอตงในกรุงปารีส
ในปี [[ค.ศ. 1923]] เขากระตือรือร้นที่จะสร้างผลงานตามแนวคิดดังกล่าว มีมิโรจึงได้เข้าร่วมกับกลุ่มดังกล่าว แนวคิดของลัทธิเหนือจริงมีอิทธิพลต่อเขามากถึงกับประกาศว่า เขาจะฆ่าจิตรกรรมแบบเก่าที่เคยทำมาคือ[[สัจนิยม]]และ[[บาศกนิยม]] เพื่อหันมาสร้างสรรค์ผลงานแนวใหม่ตามความคิดของเขา เพื่อสะท้อนความคิดฝันและแรงปรารถนาที่ออกมาจากจิตใต้สำนึกอย่างฉับพลันและเป็นอิสระ ผลงานของมีมิโรสร้างความตื่นเต้นให้กับกลุ่มเซอร์เรียลลิสม์มาก
== ผลงานจิตรกรรม ==
ผลงานจิตรกรรมของมีมิโรที่สร้างขึ้นหลังคริสต์ทศวรรษ 1920 เขาตัดทอน[[รูปทรงธรรมชาติ]]ออกไป เหลือเพียง[[รูปสัญลักษณ์]]ที่อาจแทนค่าด้วยรูปทรงเรขาคณิตหรือสีที่เรียบ ๆ โดยนำมาจัดวางเป็นองค์ประกอบอย่างง่าย ๆ ดังนั้นผลงานจิตรกรรมของมีมิโรจึงมีลักษณะเฉพาะตนที่ต่างไปจากจิตรกรลัทธิเหนือจริงคนอื่น ๆ ที่ยังอาศัยรูปทรงของธรรมชาติเป็นสื่อ<ref>[http://tpwschool.com/webboard-show_2749 ชูอันมีมิโร
ผลงาน กลางคืน]</ref>
อย่างไรก็ตาม ผลงานศิลปะของมีมิโรโดยเฉพาะผลงานจิตรกรรมได้รับการยอมรับว่ามีคุณค่าสูงและมีความโดดเด่น เขาจึงเป็นศิลปินที่ได้รับเกียรติจากวงการศิลปะของโลกอย่างกว้างขวางคนหนึ่ง ในช่วงต้นในช่วงต้น[[คริสต์ศตวรรษที่ 20]] มีมิโรได้รับเชิญให้เดินทางไปเยือนและแสดงผลงานในประเทศต่าง ๆ ทั้งใน[[ทวีปยุโรป|ยุโรป]]และ[[สหรัฐอเมริกา]]หลายครั้ง และได้สร้างผลงานศิลปะให้กับสถานที่สำคัญ ๆ ของโลกหลายแห่ง ในปี ค.ศ. 1968 เมืองบาร์เซโลนาได้จัดนิทรรศการอย่างยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า "ปีแห่งมีมิโร" เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา และได้สร้างพิพิธภัณฑ์มีมิโรเพื่อเก็บผลงานจำนวน 40 ชิ้นของมีมิโรไว้เป็นสมบัติของชาติ
ชูอัน มีมิโรเป็นศิลปินชาวสเปนคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จมาก เขามีอายุยืนถึง 90 ปี ในปี [[พ.ศ. 2526]] สุขภาพของเขาทรุดลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ [[25 ธันวาคม]] ที่[[ปัลมาเดมายอร์กา]] (Palma de Mallorca) และร่างที่ไร้วิญญาณของเขาได้ถูกเผาที่บาร์เซโลนาแผ่นดินเกิดของเขานั่นเอง<ref>[http://www.oknation.net/blog/ashesandsnow/2008/10/15/entry-2 ภาพวาดแท้ที่อยู่ในประเทศไทย โจอัน มีมิโร (Joan Miro 1893-1983) จิตกรเอกชาวสเปน]</ref>
== อ้างอิง ==
| 