ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระราชินีเซ็นดีง ด็อนด็อกโดลัม"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Novaskosia (คุย | ส่วนร่วม) หน้าใหม่: {{Infobox royalty | type = monarch | name = ทเซนดิน ดองด็อกดูลาม | image = Tsendiin Dondogdulam.jpg | ima... |
Novaskosia (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 43:
ในปีค.ศ. 1902 ดองด็อกดูลามได้เสกสมรสกับบอจด์ กาเกน, จอว์ซาน ดัมบา คูทักต์ องค์ที่ 8 ทั้งสองได้รับเลี้ยงโอรสบุญธรรม 1 พระองค์ ที่มีการระบุชื่อว่า คูบิลกัน ยัลกูซาน-ฮูทักต์ (ไม่ปรากฎชะตากรรมของโอรสคนนี้หลังการปฏิวัติมองโกเลีย) ทั้งสองพระองค์บูชาเทพ[[ฑากิณี]]และ[[พระนางตารา|พระโพธิสัตว์ตารา]] ({{lang-mn|Цагаан Дарь Эх}}) ในปี ค.ศ. 1903 ได้มีการจัดสรรระบบ [[อัยมัก]] (Aimag) ซึ่งเป็นระบบจังหวัดของมองโกเลีย ได้มีการสร้างวัดเออรค์-ฑากินิน-อายกิม-คูรัล ขึ้นที่ศูนย์กลางของเมืองหลวง<ref>หลังจากนั้น พรรคคอมมิวนิสต์แห่งมองโกเลีย ได้เปลี่ยนวัดเป็นโรงละครสัตว์ เมื่อสาธารณรัฐประชาชนมองโกเลียล่มสลาย วัดและสำนักสงฆ์ได้ถูกสร้างใหม่อีกครั้ง</ref> หลังจากมี[[การปฏิวัติมองโกเลีย ค.ศ. 1911|การประกาศเอกราชมองโกเลีย]]ในปี ค.ศ. 1911 ดองด็อกดูลามได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศขึ้นเป็น "อูล์ซิน เออร์ ฑากิณ" แปลว่า "พระมารดาแห่งฑากิณีรัฐ" ซึ่งก็คือ ตำแหน่งสมเด็จพระราชินี ตามพระสวามีที่ครองราชย์เป็นบอดจ์ ข่านแห่งมองโกเลีย
สมเด็จพระราชินีทเซนดิน ดองด็อกดูลามและพระสวามีทรงมีความคิดสร้างสรรค์และทรงร่วมสร้างตำหนักที่ประทับด้วยพระองค์เอง และทรงใช้ตำหนักเป็นศูนย์กลางที่ตั้งของคณะช่างศิลปการ พระนางดองด็อกดูลามทรงทำตามธรรมเนียมโบราณของชนชั้นสูงในการรับอุปการะเด็กอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเด็กที่ครองครัวไม่มีความสามารถในการเลี้ยงดูหรือบิดามารดาเสียชีวิตตั้งแต่วัยเยาว์ หนึ่งในนั้นคือ [[แอล.มอร์ดอร์ซ]] ซึ่งพระนางรับอุปการะ โดยต่อมาจะเป็นนักประพันธ์เพลงที่มีชื่อเสียงของมองโกเลีย<
สมเด็จพระราชินีทเซนดิน ดองด็อกดูลามสิ้นพระชนม์ในปีค.ศ. 1923 หนึ่งปีก่อนที่พระสวามีจะสวรรคต ซึ่งเป็นวันที่ 15 ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงสุดท้าย<ref>''Бадарчи О. С., Дугарсурэн Ш. Н.'' Богд хааны амьдралын он дарааллын товчоон. Улаанбаатар: Хаадын сан, 2000. — с.188</ref> พระบรมศพได้ถูกเผาที่ต้นทางของแม่น้ำซาลเบ ใกล้[[อูลานบาตาร์]] ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระนางและพระสวามีประทับในช่วงฤดูร้อน หุบเขาต้นแม่น้ำถูกเรียกว่า "ซาร์กามอริต"
|