ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปีแยร์ รอซีเย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 25:
รอซีเยเดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1859 อันเป็นช่วงเวลาที่การทดลองการถ่ายภาพสมัยแรก ๆ กำลังเริ่มต้นใน[[เกาะคีวชู]] โดยเฉพาะที่นะงะซะกิ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของ[[รังงะกุ]] (องค์ความรู้ที่ต่อยอดจากวิทยาการตะวันตก) และเป็นเมืองที่แพทย์ 2 คน ได้แก่ [[ยัน กาเริล ฟัน แด็นบรุก]] และ[[เย. แอ็ล. เซ. โปมเปอ ฟัน เมร์เดอร์โฟร์ต]] เป็นกำลังสำคัญในการถ่ายทอดความรู้แก่นักศึกษาชาวญี่ปุ่น ไม่เฉพาะวิชาการแพทย์ แต่ยังรวมถึงวิชาเคมีและวิชาการถ่ายภาพอีกด้วย<ref>Himeno, 18, 20-21.</ref> แต่ทั้งฟัน แด็นบรุก และโปมเปอ ฟัน เมร์เดอร์โฟร์ต ต่างก็ไม่ใช่ช่างภาพผู้มีประสบการณ์ ความพยายามถ่ายภาพส่วนมากก็ล้มเหลว<ref>แม้กล้องถ่ายภาพที่ฟัน แด็นบรุก นำเข้ามาในญี่ปุ่นจะมีคู่มือการใช้แนบมาด้วย แต่ดูเหมือนว่าเขาก็ยังไม่สามารถผลิตภาพถ่ายได้เป็นที่น่าพอใจ และเขาตัดสินว่า ช่างภาพที่มีประสบการณ์เท่านั้นที่จะสามารถสอนการใช้กล้องได้ ส่วนโปมเปอ ฟัน เมร์เดอร์โฟร์ต ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จไปมากกว่ากัน โดยมะสึโมะโตะ จุง ได้บรรยายผลการทดลองถ่ายภาพครั้งหนึ่งของโปมเปอ ฟัน เมร์แดรโฟร์ตว่าเป็น "เงาดำ ๆ" (Himeno, 21-22).</ref> ถึงกระนั้น พวกเขาก็ได้สอนการถ่ายภาพด้วย[[กระบวนการกระจกเปียก]]ให้แก่เคอิไซ โยชิโอะ,<ref>เคอิไซ เป็นลุงและครูของช่างภาพอุชิดะ คุอิชิ (Himeno, 24-25).</ref> ฟุรุกะวะ ชุมเป, คะวะโนะ เทโซ, [[มะเอะดะ เก็นโซ]], [[อุเอะโนะ ฮิโกะมะ]], [[โฮะริเอะ คุวะจิโร]] รวมถึงผู้อื่นด้วย<ref>Himeno, 21-22.</ref>
 
เมื่อรอซีเยมาถึงประเทศญี่ปุ่น คาดว่าเขาคงแนะนำตัวเองว่าเป็นช่างภาพที่บริษัท ''เนเกรตตีและแซมบรา'' ส่งมาทำงานในญี่ปุ่น นี่อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน กล่าวคือ ในช่วงระหว่างที่เขาอยู่ญี่ปุ่น เขาถูกเรียกว่า ช่างภาพ "ชาวอังกฤษ" อยู่บ่อยครั้ง ในนะงะซะกิ รอซีเยมีผู้ช่วยคือมะเอะดะ เก็นโซ ซึ่งได้รับคำสั่งให้ติดตาม "คนอังกฤษ" และเรียนรู้การถ่ายภาพเพิ่มเติม<ref>มะสึโมะโตะ จุง สั่งให้มะเอะดะช่วยเหลือรอซีเย ความเชื่อมโยงระหว่างมะสึโมะโตะกับการถ่ายภาพอีกครั้งหนึ่งย้อนไปถึงช่วงเวลาระหว่างปี ค.ศ. 1857 ถึง 1859 เมื่อเขารับอุชิดะ คุอิชิ วัย 13 ปี เป็นลูกบุญธรรม ในอนาคตอุชิดะจะได้เป็นช่างถ่ายภาพ (Bennett EJI, 54).</ref> ทั้งมะเอะดะและนักเรียนคนอื่น ๆ ได้ติดตามเขาระหว่างอยู่ในเมือง รอซีเยได้ถ่ายภาพนักบวช ขอทาน ผู้ชมการแข่งขัน[[ซูโม่]] นิคมชาวต่างชาติ และภาพถ่ายของอาเล็กซันเดอร์ ฟ็อน ซีบ็อลท์ กับ[[ซะมุไร]] รอซีเยเชื่อว่าความล้มเหลวในการถ่ายภาพของโปมเปอ ฟัน เมร์เดอร์โฟร์ต มีสาเหตุมาจากการขาดแคลนสารเคมีที่จำเป็น ดังนั้นเขาจึงเขียนจดหมายรับรองให้มะเอะดะเพื่อให้ได้มาซึ่งอุปกรณ์และสารเคมีสำหรับการถ่ายภาพจากแหล่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ ทั้งมะเอะดะและฟุรุกะวะได้ซื้อเลนส์ สารเคมี และกระดาษแอมบูเมนผ่านทางรอซีเย<ref>Himeno, 21–22. มะเอะดะและฟุรุกะวะประสบความสำเร็จในการถ่ายภาพด้วยอุปกรณ์เหล่านี้ในวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 1860 ในวันนี้ยังคงมีการเฉลิมฉลองในฟุกุโอะกะซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขาถ่ายภาพนั้น (Himeno, 22)</ref>
 
ในช่วงเวลานั้น รอซีเยยังได้สอนถ่ายภาพให้กับอุเอะโนะ ฮิโกะมะ และโฮะริเอะ คุวะจิโร อีกด้วย เป็นที่ชัดเจนว่า ในช่วงแรก อุเอะโนะมีเจตนาที่จะเรียนรู้ไม่เพียงแต่การถ่ายภาพแต่อย่างเดียว แต่ยังรวมถึงเรื่องการผลิตกล้องด้วย ดูเหมือนว่าการพบกับรอซีเยจะทำให้อุเอะโนะมุ่งมั่นไล่ตามความฝันที่จะเป็นช่างภาพมืออาชีพ แต่เขาก็จำนนต่อเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพจนเลิกล้มความคิดที่จะผลิตกล้องเป็นของตัวเองอย่างรวดเร็ว ภายในไม่กี่เดือน เขาและโฮะริเอะซื้อกล้องถ่ายรูปและสารเคมีต่าง ๆ จากฝรั่งเศส ก่อนจะยึดอาชีพเป็นช่างภาพอิสระ<ref>Himeno, 22. อุเอะโนะได้ก้าวหน้าจนกลายเป็นช่างภาพที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดและสำคัญที่สุดคนหนึ่งในญี่ปุ่นสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19</ref>