ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปีแยร์ รอซีเย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 11:
==การถ่ายภาพในเอเชีย==
 
[[ไฟล์:French Sailors at Canton.jpg|300px|thumb|''กะลาสีฝรั่งเศสที่กว่างโจวFrench Sailors at Canton'', ค.ศ. 1858. ภาพสามมิติ, [[Albumen print|การพิมพ์ภาพแบบอัลบูเมน]]]]
 
รอซีเยอยู่ที่ฮ่องกงในปี ค.ศ. 1858 และเริ่มถ่ายภาพแทบจะทันที ภาพส่วนใหญ่ถ่ายใน[[กว่างโจว]]และรอบ ๆ กว่างโจว<ref>Bennett. เวอร์ซิกระบุว่ารอซีเยอยู่ในจีนระหว่างปี ค.ศ. 1857 ถึง 1859 แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรมากไปกว่านั้น (Worswick, 146).</ref> ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1859 ''เนเกรตตีและแซมบรา'' ได้ตีพิมพ์ภาพของรอซีเย 50 ภาพ รวมถึงภาพสามมิติด้วย ซึ่งได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกจากสิ่งพิมพ์รายคาบด้านการถ่ายภาพในช่วงเวลานั้น ในปี ค.ศ. 1858 หรือ 1859 รอซีเยเดินทางมาถึงฟิลิปปินส์ เขาเดินทางมาถ่ายภาพ[[ภูเขาไฟตาอัล]] รอซีเยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1859 ถ่ายภาพแรก ๆ ใน[[นะงะซะกิ]] [[คะนะงะวะ]] [[โยะโกะฮะมะ]] และ[[เอโดะ]] (ปัจจุบันคือโตเกียว) เขาเป็นช่างภาพอาชีพคนแรกที่เดินทางมายังประเทศญี่ปุ่น<ref name="Yokoe, 167.">Yokoe, 167.</ref> หนึ่งในภาพถ่ายของรอซีเยในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 1859 (ขณะที่เขาอยู่ในนะงะซะกิ) เป็นภาพลูกชายของ[[ฟีลิพพ์ ฟรันทซ์ ฟ็อน ซีบ็อลท์]] ที่ชื่อ[[อาเล็กซันเดอร์ ฟ็อน ซีบ็อลท์|อาเล็กซันเดอร์]] กับกลุ่ม[[ซะมุไร]]จากกลุ่มนะเบะชิมะ<ref>ภาพถ่ายนี้อยู่ในคลังสะสมของพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์ซีบ็อลท์ในนะงะซะกิ (Himeno, 22).</ref>
บรรทัด 17:
ปลายเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1860 รอซีเยอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ และเป็นไปได้ว่าเขาเดินทางมายังเมืองนี้เพื่อพยายามขออนุญาตติดตามกองทัพอังกฤษ-ฝรั่งเศสที่ได้เดินทัพไปถึงภาคเหนือของประเทศจีนแล้ว เพื่อจะได้บันทึกภาพสงครามฝิ่นครั้งที่สองตามที่ได้รับการว่าจ้างมาให้ลุล่วง<ref>กองทัพอังกฤษและฝรั่งเศสได้มาสมทบกันอยู่ก่อนแล้วที่อ่าวต้าเหลียนและจีฝู (เอียนไถ) ตามลำดับในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1860 (Harris, 17) และรอซีเยได้อยู่ที่เซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 1860 เป็นไปได้ว่าเขาอยู่ที่เซี่ยงไฮ้เพื่อหาซื้อสารเคมีสำหรับถ่ายภาพ (Bennett).</ref> หากเขาตั้งใจเช่นนั้นจริง เขาก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะกองทัพทั้งสองได้จ้างช่างภาพเพื่อบันทึกภารกิจไว้แล้ว กองทัพอังกฤษจ้างช่างภาพชื่อ ฟีลิกซ์ เบอาโต และจอห์น แพพิยอน ส่วนกองทัพฝรั่งเศสจ้างอ็องตวน โฟเชอรี, พันโท ดูว์ แป็ง และอาจรวมถึงหลุยส์ เลอกร็อง<ref>Bennett; Thiriez. แพพิยอนได้ถ่ายภาพตั้งแต่กว่างโจวไปจนถึงป้อมต้ากู แต่ล้มป่วยและถูกเคลื่อนย้ายออกไปก่อนเสร็จสิ้นภารกิจ ภาพถ่ายการเดินทัพที่เป็นผลงานของโฟเชอรีก็ไม่สามารถระบุได้อย่างแน่นอน แต่น่าจะรวมถึงภาพสามมิติของกองทัพฝรั่งเศส 24 ภาพในกว่างโจว เซี่ยงไฮ้ [[เทียนจิน]] และ[[ปักกิ่ง]] นอกจากนี้ก็ไม่พบหลักฐานยืนยันว่าดูว์ แป็ง และเลอกร็องได้ถ่ายภาพระหว่างการเดินทัพจริง ๆ. Thiriez, 6-7.</ref> แม้รอซีเยจะพลาดภารกิจที่เขาได้รับการว่าจ้างมา แต่เขาก็ยังอยู่ในเอเชียตะวันออกเพื่อบันทึกภาพต่อไป
 
เมื่อถึงเดือนตุลาคม ค.ศ. 1860 รอซีเยก็ได้กลับไปยังนะงะซะกิแล้ว เขาถ่ายภาพท่าจอดเรือของเมืองนี้ในนามของจอร์จ เอส. มอร์ริสัน กงสุลบริเตนซึ่งจ่ายค่าจ้างให้เขาเป็นเงิน 70 เหรียญสหรัฐ<ref>Dobson, 20; Clark, Fraser, and Osman, 137-138).</ref> ถึงแม้ภาพถ่ายของรอซีเยจะได้รับการโฆษณาโดย ''เนเกรตตีและแซมบรา'' อย่างน้อย 2 ครั้งในปี ค.ศ. 1860 แต่บริษัทก็ไม่ได้ตีพิมพ์ภาพเหล่านั้นจนกระทั่งเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน ค.ศ. 1861<ref>หนังสือพิมพ์ ''[[เดอะไทมส์]]'' ฉบับวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 1860 มีโฆษณาภาพสามมิติ "ลงสีสมบูรณ์" ของ "สตรีญี่ปุ่นในชุดเต็มยศ" ซึ่งถ่ายโดยรอซีเย และโฆษณาใน ''เดอะไทมส์'' ฉบับวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 1860 อ้างว่าจะมี "ภาพถ่ายจากญี่ปุ่น – กรณีภาพถ่ายแปลกและหาดูยากของฉากหลังธรรมชาติในประเทศที่น่าสนใจประเทศนี้ และภาพประกอบแสดงกิริยาอาการและประเพณีของเผ่าชนในญี่ปุ่น ฝีมือศิลปินพิเศษที่ถูกส่งไปเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าวโดยบริษัทห้างร้านเนเกรตตีและแซมบราแห่งลอนดอน" เบนเนตต์ยังคาดว่า ''เนเกรตตีและแซมบรา'' เลื่อนการเผยแพร่ภาพเหล่านี้ออกไปเนื่องจากปัญหาเรื่องคุณภาพของเนกาทิฟ ซึ่งอาจเป็นเพราะความเสียหายระหว่างการขนส่ง หรือเป็นเพราะรอซีเยประสบความยากลำบากในการหาสารเคมีที่ถูกต้องสำหรับการถ่ายภาพในเอเชีย (Bennett).</ref> ภาพถ่ายทิวทัศน์ญี่ปุ่น 5 ภาพของรอซีเยได้รับการเผยแพร่ก่อนในหนังสือ ''Ten Weeks in Japan'' ของจอร์จ สมิท ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1861 และในเดือนกรกฎาคม ปีเดียวกัน ภาพถ่ายในญี่ปุ่นอีก 8 ภาพของเขาก็ปรากฏในรูปแบบ[[ภาพพิมพ์หิน]]ในหนังสือ ''Japan, the Amoor, and the Pacific'' ของเฮนรี อาร์เทอร์ ทิลลีย์<ref name="Bennett PiJ, 49.">Bennett PiJ, 49.</ref> นิตยสาร ''Illustrated London News'' ฉบับหนึ่งในปี ค.ศ. 1861 ได้ตีพิมพ์[[ภาพพิมพ์ลายแกะ]]หลายภาพร่วมกันในชื่อ ''Domestic Life in China'' โดยใช้ภาพสามมิติที่ถ่ายโดยรอซีเย<ref>Bennett OJP, 119.</ref> หนึ่งในบรรดาภาพถ่ายที่ ''เนเกรตตีและแซมบรา'' ได้โฆษณาไว้ในปี ค.ศ. 1860 กลายเป็นภาพถ่ายทิวทัศน์ญี่ปุ่นเชิงพาณิชย์ภาพแรกที่ได้รับการตีพิมพ์ และเป็นภาพถ่ายญี่ปุ่นที่ลงสีด้วยมือที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่ทราบกัน<ref>ภาพนั้นคือภาพ ''สตรีญี่ปุ่นในชุดเต็มยศJapanese ladies in full dress'' (Bennett PiJ, 47; 49, fig. 45).</ref>
 
จากเอกสารจำนวนมากในช่วงนั้น ทำให้สามารถยืนยันได้ว่าภาพทิวทัศน์ในจีนและญี่ปุ่นของบริษัท ''เนเกรตตีและแซมบรา'' นั้นถ่ายโดยรอซีเย แต่หลายปีที่เราคิดว่าภาพเหล่านี้ถ่ายโดยผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็น[[วอลเทอร์ บี. วุดเบอรี]] ที่ได้รับการว่าจ้างจาก ''เนเกรตตีและแซมบรา'' เช่นกัน แต่เขาประจำการอยู่ใน[[ปัตตาเวีย]] (ปัจจุบันคือ[[จาการ์ตา]]) หรือ[[อาเบล กาวเวอร์]] ช่างภาพสมัครเล่นในญี่ปุ่น สิ่งที่น่าสนใจคือ คลังสะสมภาพถ่ายของ[[มหาวิทยาลัยไลเดิน]]มีภาพถ่ายที่กล่าวกันว่าเป็นภาพของกาวเวอร์ แต่มีการเซ็นว่า "เป. รอซีเย" และในปี ค.ศ. 1859 ทั้งรอซีเยและกาวเวอร์ได้เดินทางไปด้วยกันในเรือ ''[[เอชเอ็มเอส แซมป์สัน]]'' จากนะงะซะกิไปยังเอะโดะ<ref>Bennett PiJ, 45; 117, fig. 141.</ref>
 
== การสอนถ่ายภาพ ==
[[ไฟล์:Yokohama 1859.jpg|300px|thumb|''ทิวทัศน์โยะโกะฮะมะView of Yokohama'', ค.ศ. 1859. ภาพสามมิติ, การพิมพ์ภาพแบบอัลบูเมน]]
รอซีเยเดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1859 อันเป็นช่วงเวลาที่การทดลองการถ่ายภาพสมัยแรก ๆ กำลังเริ่มต้นใน[[เกาะคีวชู]] โดยเฉพาะที่นะงะซะกิ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของ[[รังงะกุ]] (องค์ความรู้ที่ต่อยอดจากวิทยาการตะวันตก) และเป็นเมืองที่แพทย์ 2 คน ได้แก่ [[ยัน กาเริล ฟัน แด็นบรุก]] และ[[เย. แอ็ล. เซ. โปมเปอ ฟัน เมร์เดอร์โฟร์ต]] เป็นกำลังสำคัญในการถ่ายทอดความรู้แก่นักศึกษาชาวญี่ปุ่น ไม่เฉพาะวิชาการแพทย์ แต่ยังรวมถึงวิชาเคมีและวิชาการถ่ายภาพอีกด้วย<ref>Himeno, 18, 20-21.</ref> แต่ทั้งฟัน แด็นบรุก และโปมเปอ ฟัน เมร์เดอร์โฟร์ต ต่างก็ไม่ใช่ช่างภาพผู้มีประสบการณ์ ความพยายามถ่ายภาพส่วนมากก็ล้มเหลว<ref>แม้กล้องถ่ายภาพที่ฟัน แด็นบรุก นำเข้ามาในญี่ปุ่นจะมีคู่มือการใช้แนบมาด้วย แต่ดูเหมือนว่าเขาก็ยังไม่สามารถผลิตภาพถ่ายได้เป็นที่น่าพอใจ และเขาตัดสินว่า ช่างภาพที่มีประสบการณ์เท่านั้นที่จะสามารถสอนการใช้กล้องได้ ส่วนโปมเปอ ฟัน เมร์เดอร์โฟร์ต ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จไปมากกว่ากัน โดยมะสึโมะโตะ จุง ได้บรรยายผลการทดลองถ่ายภาพครั้งหนึ่งของโปมเปอ ฟัน เมร์แดรโฟร์ตว่าเป็น "เงาดำ ๆ" (Himeno, 21-22).</ref> ถึงกระนั้น พวกเขาก็ได้สอนการถ่ายภาพด้วย[[กระบวนการกระจกเปียก]]ให้แก่เคอิไซ โยชิโอะ,<ref>เคอิไซ เป็นลุงและครูของช่างภาพอุชิดะ คุอิชิ (Himeno, 24-25).</ref> ฟุรุกะวะ ชุมเป, คะวะโนะ เทโซ, [[มะเอะดะ เก็นโซ]], [[อุเอะโนะ ฮิโกะมะ]], [[โฮะริเอะ คุวะจิโร]] รวมถึงผู้อื่นด้วย<ref>Himeno, 21-22.</ref>
 
บรรทัด 32:
 
== ช่วงท้ายของชีวิตและมรดกตกทอด ==
[[File:Siamese woman.jpg|thumb|''ภาพถ่ายสตรีสยามPortrait of a Siamese woman'', ประมาณ ค.ศ. 1861. การพิมพ์ภาพแบบอัลบูเมน]]
ในปี ค.ศ. 1861 รอซีเยอยู่[[สยาม]] เขาทำงานร่วมกับ[[มารี ฟีร์แม็ง บอกูร์]] นักสัตววิทยาชาวฝรั่งเศส โดยช่วยถ่ายภาพทาง[[ชาติพันธุ์วรรณนา]]ให้แก่คณะสำรวจด้านวิทยาศาสตร์ของบอกูร์ระหว่างปี ค.ศ. 1861–1862 และในปี ค.ศ. 1863 ''เนเกรตตีและแซมบรา'' ได้ตีพิมพ์ชุดภาพถ่ายสามมิติของบุคคลและภาพทิวทัศน์ในสยามจำนวน 30 รูป ซึ่งแทบทั้งหมดเป็นผลงานของรอซีเยอย่างไม่มีข้อสงสัย<ref name="Bennett PiJ, 49."/> ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1862 รอซีเยกลับมายังเซี่ยงไฮ้อีกครั้ง เขาขายกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพก่อนที่จะลงเรือกลับยุโรป<ref>รายชื่ออุปกรณ์ต่าง ๆ มีอยู่ในประกาศโฆษณา (Bennett PiJ, 49).</ref> ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในเอเชีย เป็นไปได้ว่ารอซีเยได้ไปถ่ายภาพในอินเดียด้วย สันนิษฐานจากการที่ ''เนเกรตตีและแซมบรา'' ได้ตีพิมพ์ภาพชุดทิวทัศน์อินเดียในช่วงเวลาเดียวกับภาพถ่ายทิวทัศน์จีนของรอซีเย<ref name="Bennett PiJ, 49."/>