ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อักกาเดเมียดีซันลูกา"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม)
ลบลิงก์ที่ซ้ำซ้อน wikidata
Good dharma (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความ
บรรทัด 1:
''ดูองค์การคล้ายคลึงกันที่ [[สมาคมเซนต์ลูคช่างนักบุญลูกา]]''
{{ใช้ปีคศ|width=280px}}
[[ไฟล์:Luke evangelist Guercino.JPG|thumb|280px |ภาพนักบุญลูกาวาดภาพพระแม่มารีย์ โดย[[กูเอร์ชีโน]] (Guercino)]]
'''อักกาเดเมียดีซันลูกา''' ({{lang-it|Accademia di San Luca}}; {{lang-en|Academy of Saint Luke}}) หรือ'''วิทยาสถานนักบุญลูกา''' เป็นสำนักจิตรกรของโรมที่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1593 ภายใต้การนำของ[[เฟเดริโค ซุคคาริ]] (Federico Zuccari) เพื่อเป็นการยกระดับงานของศิลปินจากการเป็นเพียง “ช่าง” ผู้ที่ร่วมก่อตั้งอีกสองคนคือ[[จิโรลาโม มูซิอาโน]] (Girolamo Muziano) และ[[เปียโร โอลิเวียริ]] (Pietro Olivieri)<ref>[http://www.italycyberguide.com/Art/artistsarchite/olivieri.htm Cyberguide entry on Pietro Olivieri]</ref> พระสันตะปาปาผู้เป็นผู้อุปถัมภ์มีอิทธิพลต่อการควบคุมของสถาบันในช่วงร้อยปีแรกของการก่อตั้ง สำนักตั้งชื่อตาม[[นักบุญ]][[ลูกาผู้นิพนธ์พระวรสาร]] ที่ตำนานกล่าวกันว่าเป็นผู้วาดภาพเหมือนของ[[พระแม่มารีย์]] ฉะนั้นนักบุญลูคจึงกลายมาเป็นนักบุญผู้พิทักษ์จิตกรของ[[สมาคมช่างนักบุญลูกา]] (Guild of Saint Luke) ที่กลายมาเป็น “วิทยาสถานแห่งชาตินักบุญลูกา” (Accademia Nazionale di San Luca)
 
'''อักกาเดเมียดีซันลูกา''' หรือ '''วิทยาสถานนักบุญลูกา''' ({{lang-it|Accademia di San Luca}}; {{lang-en|Academy of Saint Luke}}) หรือ'''วิทยาสถานนักบุญลูกา''' เป็นสำนักจิตรกรของ[[โรมที่]] ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1593 ภายใต้การนำของ[[เฟเดริโค ซุคคาริ]] (Federico Zuccari) เพื่อเป็นการยกระดับงานของศิลปินจากการเป็นเพียง “ช่าง” "ช่าง" ผู้ที่ร่วมก่อตั้งอีกสองคนคือ[[จิโรลาโม มูซิอาโน]] (Girolamo Muziano) และ[[เปียโร โอลิเวียริ]] (Pietro Olivieri)<ref> [[http://www.italycyberguide.com/Art/artistsarchite/olivieri.htm Cyberguide entry on Pietro Olivieri]</ref> พระสันตะปาปาผู้]]เป็นผู้อุปถัมภ์ มีอิทธิพลต่อการควบคุมของสถาบันในช่วงร้อยปีแรกของการก่อตั้ง สำนักตั้งชื่อตาม[[เซนต์|นักบุญ]][[ลูกาผู้นิพนธ์พระวรสาร]] ที่ตำนานกล่าวกันว่าเป็นผู้วาดภาพเหมือนของ[[พระแม่พระนางมารีย์พรหมจารี]] ฉะนั้นนักบุญลูคลูกาจึงกลายมาเป็นนักบุญผู้พิทักษ์จิตกรของ[[สมาคมช่างนักบุญลูกา]] (Guild of Saint Luke) ที่กลายมาเป็นวิทยาสถานแห่งชาตินักบุญลูกา”ลูกา (Accademia Nazionale di San Luca)
ก่อนหน้าจะมาเป็น “วิทยาสถานนักบุญลูกา” ก็เป็น “Compagnia di San Luca” มาก่อนซึ่งเป็นสมาคมของจิตรกรและ[[หนังสือวิจิตร|จิตรกรหนังสือวิจิตร]]ที่มีบทบัญญัติและสิทธิมานานก่อนหน้านั้นภายใต้[[สมเด็จพระสันตะปาปาซิกส์ตุสที่ 4]] เมื่อวันที่ [[17 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1478]]
 
ก่อนหน้าจะมาเป็นวิทยาสถานนักบุญลูกา”ลูกา ก็เป็น "Compagnia di San Luca”Luca" มาก่อน ซึ่งเป็นสมาคมของจิตรกรและ[[หนังสือเอกสารตัวเขียนสีวิจิตร|จิตรกรหนังสือวิจิตร]]ที่มีบทบัญญัติและสิทธิมานานก่อนหน้านั้นภายใต้[[สมเด็จพระสันตะปาปาซิกส์ตุสที่ซิกซ์ตุสที่ 4]] เมื่อวันที่ [[17 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1478]]
ในปี ค.ศ. 1605 [[สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 5]] ก็มอบสิทธิและอำนาจแก่สถาบันในการฉลองวันฉลองนักบุญลูกาและในการให้อภัยโทษต่อผู้ถูกกล่าวหาว่าผิด
ในคริสต์ทศวรรษ 1620 [[สมเด็จพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8]] ก็เพิ่มสิทธิให้แก่สำนักในการตัดสินว่าผู้ใดมีสิทธิที่จะเป็นศิลปินในกรุงโรมได้ ต่อมาสถาบันตกอยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของหลานของพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8 พระคาร์ดินัล[[ฟรันเชสโก บาร์เบรีนี (ผู้อาวุโส)]] (Francesco Barberini (seniore)) ผู้แต่งตั้งให้[[โจวันนี ฟรันเชสโก โรมาเนลลี]] (Giovanni Francesco Romanelli) เป็นผู้อำนวยการในปี ค.ศ. 1638 <ref>Haskell, p 53.</ref> ต่อมาในปี ค.ศ. 1633 พระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8 ทรงมอบให้สำนักมีอำนาจในการเก็บภาษีจากศิลปินทุกคนรวมทั้งผู้ค้าขายศิลปะและมีเอกสิทธิ์ในการจ้างการเขียนภาพสำหรับโครงการสำหรับสารธารณชน สิทธิหลังนี้มีผู้ต่อต้านกันมากและไม่มีผลในการบังคับเท่าใดนัก<ref> Haskell, p 18.</ref>.
 
ในปี ค.ศ. 1605 [[สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 5]] ก็มอบสิทธิและอำนาจแก่สถาบันในการฉลองวันฉลองนักบุญลูกาและในการให้อภัยโทษต่อผู้ถูกกล่าวหาว่าผิด ในคริสต์ทศวรรษ 1620 [[สมเด็จพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8]] ก็เพิ่มสิทธิให้แก่สำนักในการตัดสินว่าผู้ใดมีสิทธิที่จะเป็นศิลปินในกรุงโรมได้ ต่อมาสถาบันตกอยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของหลานของสมเด็จพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8 พระคาร์ดินัล[[ฟรันเชสโก บาร์เบรีนี (ผู้อาวุโส)]] (Francesco Barberini (seniore)) ผู้แต่งตั้งให้[[โจวันนี ฟรันเชสโก โรมาเนลลี]] (Giovanni Francesco Romanelli) เป็นผู้อำนวยการในปี ค.ศ. 1638 <ref>Haskell, p 53.</ref> ต่อมาในปี ค.ศ. 1633 สมเด็จพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8 ทรงมอบให้สำนักมีอำนาจในการเก็บภาษีจากศิลปินทุกคนรวมทั้งผู้ค้าขายศิลปะและมีเอกสิทธิ์ในการจ้างการเขียนภาพสำหรับโครงการสำหรับสารธารณชน สิทธิหลังนี้มีผู้ต่อต้านกันมากและไม่มีผลในการบังคับเท่าใดนัก<ref> Haskell, p 18.</ref>.
ในช่วงเวลานี้พระสันตะปาปาก็มีอำนาจในการควบคุมและการเลือกผู้นำของสำนัก นักวิจารณ์สมัยใหม่กล่าวว่าเป็นสำนักที่โดยทั่วไปมีจุดประสงค์ที่จะเพิ่มการศึกษาให้แก่จิตรกรแต่ตามความเป็นจริงแล้วเป็นที่ควบคุมการแสดงออกทางศิลปะโดยสถาบันศาสนา<ref>according to Peter Robb, biographer of the Baroque artist Caravaggio</ref> ผู้อำนวยการของสำนักมาจากจิตรกรคนสำคัญๆ ที่รวมทั้ง[[โดเมนีโก ซัมปีเอรี]] และ[[จัน โลเรนโซ แบร์นีนี]] แต่ก็มีจิตรกรคนสำคัญคนอื่นๆ ที่มิได้รับการยอมรับเข้าเป็นสมาชิก
 
ในช่วงเวลานี้พระสันตะปาปาก็มีอำนาจในการควบคุมและการเลือกผู้นำของสำนัก นักวิจารณ์สมัยใหม่กล่าวว่าเป็นสำนักที่โดยทั่วไปมีจุดประสงค์ที่จะเพิ่มการศึกษาให้แก่จิตรกร แต่ตามความเป็นจริงแล้วเป็นที่ควบคุมการแสดงออกทางศิลปะโดยสถาบันศาสนา<ref>according to Peter Robb, biographer of the Baroque artist Caravaggio</ref> ผู้อำนวยการของสำนักมาจากจิตรกรคนสำคัญๆสำคัญ ๆ ที่รวมทั้ง[[โดเมนีโก ซัมปีเอรี]] และ[[จัน โลเรนโซ แบร์นีนี]] แต่ก็มีจิตรกรคนสำคัญคนอื่นๆอื่น ๆ ที่มิได้รับการยอมรับเข้าเป็นสมาชิก
ปัญหาความขัดแย้งอื่นๆ ภายในสถาบันก็รวมทั้งกรณี[[ปีเอโตร ดา กอร์โตนา]] (Pietro da Cortona) ที่[[อันเดรอา ซัชชี]] (Andrea Sacchi) มีความเห็นเกี่ยวกับจำนวนคนที่เหมาะสมที่ควรจะปรากฏในภาพ หรือกรณีกลุ่ม “[[บัมบอชชันติ]]” (Bamboccianti)<ref>[http://links.jstor.org/sici?sici=0004-3079(198112)63%3A4%3C611%3AADFSRS%3E2.0.CO%3B2-8]</ref> [[โจวันนี เบลโลรี]]ให้ปาฐกถาสำคัญในหัวเรื่องจิตรกรรมที่สำนัก เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 จิตรกร[[มาร์โก เบเนฟีอัล]] (Marco Benefial) วิจารณ์สำนักในฐานะคนภายนอก ได้รับเข้าเป็นสมาชิก และต่อมาถูกไล่ออกเพราะวิจารณ์สำนักในฐานะคนภายใน
 
ปัญหาความขัดแย้งอื่นๆอื่น ๆ ภายในสถาบันก็รวมทั้งกรณี[[ปีเอโตร ดา กอร์โตนา]] (Pietro da Cortona) ที่[[อันเดรอา ซัชชี]] (Andrea Sacchi) มีความเห็นเกี่ยวกับจำนวนคนที่เหมาะสมที่ควรจะปรากฏในภาพ หรือกรณีกลุ่ม “[[บัมบอชชันติ]]” (Bamboccianti)<ref>[http://linkswww.jstor.org/sicistable/3050166?siciseq=0004-3079(198112)63%3A4%3C611%3AADFSRS%3E2.0.CO%3B2-8]1#page_scan_tab_contents</ref> [[โจวันนี เบลโลรี]] ให้ปาฐกถาสำคัญในหัวเรื่องจิตรกรรมที่สำนัก เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 จิตรกร[[มาร์โก เบเนฟีอัล]] (Marco Benefial) วิจารณ์สำนักในฐานะคนภายนอก ได้รับเข้าเป็นสมาชิก และต่อมาถูกไล่ออกเพราะวิจารณ์สำนักในฐานะคนภายใน
สำนักยังคงมีบทบาทในปัจจุบัน ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสำนักก็มีประติมากรรมของสมาชิกแต่ละคนแต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นเพียงภาพเขียน ในปัจจุบันสำนักตั้งอยู่ที่พาลัซโซคาร์เปนยาที่จตุรัสอัคคาเดเมียซานลูคา และเป็นที่สะสมงานจิตรกรรมและประติมากรรมที่รวมทั้งภาพเหมือนประมาณ 500 ชิ้นและงานเขียนอื่นๆ ที่รวมทั้งงานการวาดเส้น
 
สำนักยังคงมีบทบาทในปัจจุบัน ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสำนักก็มีประติมากรรมของสมาชิกแต่ละคนแต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นเพียงภาพเขียน ในปัจจุบันสำนักตั้งอยู่ที่พาลัซโซคาร์เปนยาที่จตุรัสอัคคาลัซโซคาร์เปนยาที่จตุรัสอักกาเดเมียซานลูคาดีซันลูกา และเป็นที่สะสมงานจิตรกรรมและประติมากรรมที่รวมทั้งภาพเหมือนประมาณ 500 ชิ้นและงานเขียนอื่นๆอื่น ๆ ที่รวมทั้งงานการวาดเส้น
 
== อ้างอิง ==
บรรทัด 22:
* [[สมาคมช่างนักบุญลูกา]] (Guild of Saint Luke)
 
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
* [http://www.accademiasanluca.it วิทยาสถานนักบุญลูกา]
* [http://www.roma2000.it/gasanlu.html หอศิลป์สถาบันเซนต์ลูค]
* [http://www.arte-argomenti.org/schede/sanluca/sanluca.htm วิทยาสถานนักบุญลูกา]
* [http://www.roma2000.it/gasanlu.html หอศิลป์สถาบันเซนต์ลูค]
 
{{เรียงลำดับ|อักกาเดเมียดีซันลูกา}}
[[หมวดหมู่:สมาคมศิลปิน]]
[[หมวดหมู่:ศิลปะตะวันตกสมาคมศิลปิน|อักกาเดเมียดีซันลูกา]]
[[หมวดหมู่:จิตรกรศิลปะตะวันตก|อักกาเดเมียดีซันลูกา]]
[[หมวดหมู่:สถาบันการศึกษาศิลปะจิตรกร|อักกาเดเมียดีซันลูกา]]
[[หมวดหมู่:สถาบันการศึกษาศิลปะ|อักกาเดเมียดีซันลูกา]]