ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Ponning001 (คุย | ส่วนร่วม) ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 30:
}}
'''จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย''' ([[จื๋อโกว๊กหงือ]]: {{lang|vi|Bảo Đại}}, [[จื๋อโนม]]: {{lang|vi|保大}},
[[ญี่ปุ่น]]ได้ขับไล่[[ฝรั่งเศส]]ออกจากดินแดนนี้ในปี [[ค.ศ. 1945]] และใช้อำนาจการปกครองผ่าน'''จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย''' ในช่วงนี้พระองค์ทรงเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น "เวียดนาม" อีกครั้ง พระองค์ทรงสละราช[[บัลลังก์]]ในเดือนสิงหาคมเมื่อญี่ปุ่นยอมแพ้สงคราม พระองค์ยังทรงเป็นประมุขรัฐ[[รัฐเวียดนาม|เวียดนาม]]ตั้งแต่ [[ค.ศ. 1949]] จนกระทั่ง [[ค.ศ. 1955]] '''จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย''' ทรงถูกวิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับ[[ฝรั่งเศส]]เกินไปและประทับอยู่นอกเวียดนามเป็นเวลานานในรัชสมัยของพระองค์ [[โง ดิ่ญ เสี่ยม]] นายกรัฐมนตรีได้ขับไล่พระองค์ในการลงประชามติปลดจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย ออกจากราช[[บัลลังก์]]เมื่อปี [[ค.ศ. 1955]]
บรรทัด 38:
==ช่วงต้นของพระชนม์ชีพ==
[[ไฟล์:Bao Dai nho.jpg|thumb|left|เจ้าชายเหงียน ฟุก หวิญ ถวิ ขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งเวียดนาม]]
สมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย ประสูติในพระยศเจ้าชายเหงียน ฟุก หวิญ ถวิ ({{lang|vi|Nguyễn Phúc Vĩnh Thụy, 阮福永瑞
เมื่อพระชนมายุ 9 พรรษา เจ้าชายเหงียน ฟุก หวิญ ถวิ ถูกส่งไปยัง[[ฝรั่งเศส]] เพื่อศึกษาที่[[ลีเซกงดอร์แซ|โรงเรียนมัธยมปลายกงดอร์แซ]] ({{lang|fr|''Lycée Condorcet''}}) และหลังจากนั้นเข้าศึกษาใน[[สถาบันรัฐศึกษาปารีส]] ({{lang|fr|''Institut d'Études Politiques de Paris''}}) ในปี [[ค.ศ. 1923]] ต่อมาในปี [[ค.ศ. 1926]] พระองค์ทรงครองราชสมบัติหลังจากการเสด็จสวรรคตของพระบิดา ในพระนาม ''บ๋าว ดั่ย'' ({{lang|vi|Bảo Đại}} "ร่องรอยแห่งความยิ่งใหญ่" หรือ "ผู้เก็บรักษาความยิ่งใหญ่") แต่พระองค์ทรงไม่ได้ขึ้นครองราชย์อย่างเต็มรูปแบบ ทรงต้องกับไปศึกษาที่ฝรั่งเศส
|