ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มัสยิดกรือเซะ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 4:
| ภาพ = OAT 6396.jpg
| คำบรรยายภาพ =
| สิ่งก่อสร้าง = [[มัสยิด]]
| เมืองที่ตั้ง = หมู่ 3 บ้านกรือเซะ [[ตำบลตันหยงลุโละ]] [[อำเภอเมืองปัตตานี]] [[จังหวัดปัตตานี]]
| ประเทศที่ตั้ง = {{ธง|ไทย}} [[ประเทศไทย]]
บรรทัด 27:
| หมายเหตุ =
}}
'''มัสยิดกรือเซะ''' ({{lang-ms|Masjid Kerisek}}) หรือ '''มัสยิดสุลต่านมูซัฟฟาร์ชาห์'''<ref name= "ทวีพร">{{cite web |url= http://prachatai.com/journal/2016/06/66072 |title= รายงานพิเศษ: ภาษามลายู-รัฐไทยนิยม การกลืนชาติทางภาษา แกะปมขัดแย้งชายแดนใต้ |author= ทวีพร คุ้มเมธา |date= 1 มิถุนายน 2559 |work= สำนักข่าวอิศรา |publisher=|accessdate= 3 ตุลาคม 2559}}</ref> เป็น[[มัสยิด]]เก่าแก่อายุกว่า 200 ปีใน[[จังหวัดปัตตานี]] สันนิษฐานได้ว่าเป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 22 ร่วมสมัย[[กรุงศรีอยุธยา]] มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า '''มัสยิดปิตูกรือบัน''' ชื่อนี้เรียกตามรูปทรงของประตูมัสยิด ซึ่งมีลักษณะเป็นวงโค้งแหลมแบบ[[กอทิก]]ของชาวยุโรป และแบบสถาปัตยกรรมของชาวตะวันออกกลาง (คำว่า ปิตู แปลว่า ประตู กรือบัน แปลว่า ช่องประตูที่มีรูปโค้ง) <ref>[http://www.pattani.go.th/saratourpai/satanteesamkan/tuarid_madsayidkrueseh.htm มัสยิดกรือเซะ]</ref>
 
ช่วงเวลาที่มัสยิดกรือเซะถูกสร้างนั้นยังเป็นที่ถกเถียง บ้างว่าสร้างในรัชสมัย[[สุลต่านมูซัฟฟาร์ชาห์]]<ref name= "ทวีพร"/><ref name= "เล็ก"/> บ้างก็ว่าสร้างในรัชสมัย[[รายาบีรู]]<ref>{{cite web |url= http://www.openbase.in.th/node/9318 |title= แหล่งโบราณคดีภาคใต้ - มัสยิดกรือเซะ |author=|date= 19 พฤษภาคม 2552 |work= คลังเอกสารสาธารณะ |publisher=|accessdate= 26 กันยายน 2560}}</ref> ส่วนกรณีที่มัสยิดสร้างไม่สำเร็จนั้น ก็มีการยึดโยงกับตำนาน[[เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว]]ซึ่งมีสุสานอยู่ใกล้กับมัสยิดกรือเซะ ที่ถูกเล่าต่อเติมภายหลังว่าเจ้าแม่ได้สาปให้มัสยิดนี้สร้างไม่สำเร็จ จนกลายเป็นปัญหากินแหนงแคลงใจระหว่าง[[ชาวไทยเชื้อสายมลายู]]และ[[ชาวไทยเชื้อสายจีน]]ในพื้นที่<ref>{{cite web |url= http://www.jr-rsu.net/article/1171 |title= มัสยิดกรือเซะ ปมขัดแย้งไฟใต้ |author=|date= 26 พฤษภาคม 2557 |work= วารสารศาสตร์ดิจิทัล มหาวิทยาลัยรังสิต |publisher=|accessdate= 26 กันยายน 2560}}</ref><ref>{{cite web |url= http://www.peace.mahidol.ac.th/th/index.php?option=com_content&task=view&id=873&Itemid=162 |title= สร้างเรื่องเล่าสมานฉันท์ กรณีตำนานลิ้มกอเหนี่ยว-กรือเซะ |author= งามศุกร์ รัตนเสถียร |date=|work= ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล |publisher=|accessdate= 26 กันยายน 2560}}</ref> แต่จากการสำรวจและบูรณะของ[[กรมศิลปากร]] พบว่าโครงสร้างโดมนั้นมีลักษณะไม่แข็งแรงและขาดความสมดุลจึงทำให้พังทลาย ทั้งยังไม่พบร่องรอยถูกเผาหรือถูกฟ้าผ่าตามตำนานที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เพราะหลังราชวงศ์กลันตันปกครองปัตตานีถัดจากราชวงศ์ศรีวังสา ได้ย้ายศูนย์กลางเมืองไปยังจะบังติกอ มัสยิดกรือเซะจึงถูกทิ้งให้โรยราไป<ref>{{cite web |url= http://www.psu10725.com/joomla/index.php?option=com_content&view=article&id=815:-30-&catid=36:2011-06-18-10-54-39&Itemid=71 |title= “นักวิชาการภูมิประวัติศาสตร์” เสนอหลักฐานใหม่ ชี้ชัดว่า ชั้นดินของกรือเซะ ไม่มีองค์ประกอบทางเคมีที่ระบุว่ามัสยิดถูกไฟไหม้หรือฟ้าผ่า แต่“โครงสร้างที่ไม่แข็งแรง” เป็นสาเหตุที่ส่วนยอดโคมพังทลาย |author=|date= 23 มีนาคม 2558 |work= สถานีวิทยุ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี |publisher=|accessdate= 26 กันยายน 2560}}</ref>