ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จิญจมาณวิกา"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Raphind (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Raphind (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 13:
ด้วยผลกรรมที่ใส่ร้ายพระศาสดา เมื่อออกจากวัดพระเชตวัน นางจึงถูกธรณีสูบลง[[อเวจีมหานรก]] สถานที่ที่นางถูกธรณีสูบอยู่ที่สระโบกขรณี ติดกับสถานที่ที่[[พระเทวทัต]]ถูกธรณีสูบ
==ข้อมูลที่ปรากฏในอรรรถกถา==
หลักฐานในคัมภีร์อรรถกถาธรรมบทที่ว่า
 
พระพุทธเจ้าขณะประทับที่ เชตุวันมหาวิหาร นครสาวัตถี เผยแผ่พระพุทธศาสนาจนเป็นที่ศรัทธาแก่มหาชนอย่างมาก ทำให้เกิดลาภสักการะในพระพุทธศาสนาอย่างมาก นักบวชในศาสนาอื่น ๆ ก็ได้รับผลกระทบเสื่อมลาภ ผู้คนนับถือน้อยลง เกิดความอิจฉา และคิดจะกำจัดพระพุทธเจ้าเสีย จึงคิดอุบาย โดยส่งสาวงามชื่อว่า "จิญจมาณวิกา" ให้ไปใช้กลอุบายตามที่พวกตนวางไว้ <ref> [ขุ.ธ.อ. (บาลี) ๑/๑๔๕/๑๓๘-๙/จิญฺจมาณวิกาวตฺถุ]</ref>
 
นางจิญจมาณวิกาทำทีเป็นศรัทธาในพุทธศาสนา จึงไปยังวัดพระเชตุวันมหาวิหาร ร่วมฟังธรรมพร้อมกับคนอื่น ๆ แต่พอถึงเวลากลับ ไม่กลับ ทำทีเดินลับหายไปยังที่ ๆ พระพุทธเจ้าประทับแล้วแอบออกไปทางอื่น พอรุ่งเช้านางมาวัดแต่เช้ามืดแล้วไปแอบซุ่มบริเวณที่ประทับ พอผู้คนมาฟังการแสดงธรรมนางก็จะแกล้งเดินออกไปเป็นกลลวงให้ใคร ๆ เห็น และเข้าใจว่านางค้างคืนที่วัด <ref>[ขุ.ธ.อ. (บาลี) ๑/๑๔๕/๑๓๙]</ref>
 
ผ่านไป ๓ เดือน นางได้นำผ้ามาพันผูกท้องให้นูนแล้วนุ่งผ้าปิดทับเอาไว้ให้แลดูคล้ายตั้ง ครรภ์อ่อนๆ พอถึงเดือนที่ ๘ นางก็นำท่อนไม้มาพันผ้าผูกให้แลดูเหมือนตั้งครรภ์แก่ใกล้คลอด
 
วันหนึ่งขณะที่พระพุทธเจ้ากำลังแสดงธรรม นางจิญจมาณวิกา ก็ทำทีเป็นหญิงท้องแก่เดินอุ้ยอ้ายเข้าไปยืนตรงหน้าที่ประทับพร้อมกับกล่าว เสียงดังให้ทุกคนได้ยิน
 
"ท่านสมณะ ท่านจะมาเสแสร้งนั่งแสดงธรรมจอมปลอมหลอกลวงผู้คนไปไย ด้วยเวลานี้ท้องฉันนั้นได้โตใหญ่จนยากจะปกปิดความลับระหว่างเราทั้งสองได้ อีกต่อไปแล้ว ท่านจงหันมาไยดีในตัวฉันซึ่งเป็นภรรยา และบุตรในครรภ์ฉัน ซึ่งเป็นลูกของท่านจะดีกว่า" <ref> [ขุ.ธ.อ. (บาลี) ๑/๑๔๕/๑๓๙]</ref>
 
พระพุทธองค์ทรงหยุดแสดงธรรมและกล่าวกับนางว่า
 
“ดูก่อนน้องหญิง เรื่องนี้เจ้ากับเราสองคนเท่านั้นรู้กันว่าจริงหรือไม่จริงตามคำของนาง” <ref> [ขุ.ธ.อ. (บาลี) เล่ม ๑/๑๔๕/๑๓๙] จิญจมาณวิกาจึงตอบว่า “จริงทีเดียว เพราะการที่ข้าพเจ้ามีครรภ์ขึ้นนี้ มีแต่ท่านกับข้าพเจ้าเท่านั้นที่รู้กัน” <ref> [ขุ.ธ.อ.(บาลี) ๑/๑๔๕/๑๓๙]</ref>
 
ผู้คนที่นั่งฟังธรรมได้ยิน นางจิญจมาณวิกา พูดก็ตกตะลึง หลายคนไม่เชื่อแต่บางคนก็เริ่มสงสัยเพราะเคยเห็นนางเดินเข้าออกที่ประทับจึง พากันซุบซิบแต่พระพุทธองค์ทรงนิ่งเฉย ชาวบ้านจึงกล่าวเตือนสติจิญจมาณวิกา ว่า
 
"จิญจมาณวิกาเอ๋ย การกล่าววาจาโป้ปดนั้นเป็นการผิดศีล แต่วาจาที่กล่าวเท็จใส่ร้ายต่อผู้ทรงศีลนั้น ผิดยิ่งกว่ามากมายนัก นางจงหยุดเถิด"
 
แต่แทนที่ นางจิญจมาณวิกา จะรู้สึก กลับจาบจ้วงดุด่าใส่ร้ายพระพุทธองค์ต่อ หาว่าพระพุทธองค์ทรงปัดและบ่ายเบี่ยงไม่รับผิดชอบต่อบุตรในครรภ์ เทพเทวดารู้เห็นการกระทำอันเป็นบาปของ นางจิญจมาณวิกา จึงแปลงกายเป็นหนู ปีนไต่ไปบนตัวนาง และกัดสายคาดผ้าที่ผูกท้องจนหลุดร่วงลงมากองที่พื้น <ref> [ขุ.ธ.อ. (บาลี) ๑/๑๔๕/๑๓๙-๑๔๐ (จิญฺจมาณวิกาวตฺถุ)]</ref>
 
== อ้างอิง ==