ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เอบราแฮม ลิงคอล์น"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Thucydides49 (คุย | ส่วนร่วม) |
Thucydides49 (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 59:
ลินคอล์นเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.1861 จนกระทั่งถูกลอบสังหารเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 1865 ลินคอล์นประสบความสำเร็จในการนำพาประเทศผ่านพ้น[[สงครามกลางเมืองอเมริกา]] ซึ่งเป็นวิกฤตการณ์ทางรัฐธรรมนูญ ทางทหารและศีลธรรมครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ<ref>{{cite book|author=William A. Pencak|title=Encyclopedia of the Veteran in America|url=https://books.google.com/?id=yyvmcMsNnB4C&pg=PA222|year=2009|publisher=ABC-CLIO|page=222|isbn=978-0-313-08759-2|access-date=June 27, 2015}}</ref><ref>{{cite book|author1=Paul Finkelman|author2=Stephen E. Gottlieb|title=Toward a Usable Past: Liberty Under State Constitutions|url=https://books.google.com/books?id=xJuXT1sVhFcC&pg=PA388|year=2009|publisher=U of Georgia Press|page=388|isbn=978-0-8203-3496-7|access-date=June 27, 2015|archive-url=https://web.archive.org/web/20150905115453/https://books.google.com/books?id=xJuXT1sVhFcC&pg=PA388|archive-date=September 5, 2015}}</ref> ด้วยความสำเร็จดังกล่าว ลินคอล์นจึงสามารถรักษาความเป็นสหภาพของสหรัฐอเมริกาเอาไว้ได้ นอกจากนี้เขายังนำทางไปสู่[[การเลิกทาส]], สร้างความมั่งคงแข็งแกร่งให้กับรัฐบาลกลาง ตลอดจนส่งเสริมการเศรษฐกิจและการเงินให้ทันสมัย
ลินคอล์นเกิดในครอบครัวยากจน ณ เมืองฮ็อดเจนวิลล์ รัฐ[[เคนทักกี]] ซึ่งสมัยนั้นเป็นพรมแดนทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ส่วนใหญ่ลินคอล์นศึกษาด้วยตนเอง และได้รับอนุญาตให้ประกอบอาชีพทนายความใน
ลินคอล์นกลายเป็นตัวแทนผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งของ[[พรรคริพับลิกัน (สหรัฐอเมริกา)|พรรคริพับลิกัน]] ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ปึ 1860 ในฐานะนักการเมืองผู้มีทัศนะทางการเมืองเป็นกลาง (moderate) และมาจากรัฐที่คะแนนเสียงไม่แน่นอน (swing state) แต่แม้จะแทบไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเลยในทางใต้ ลินคอล์นก็กวาดคะแนนเสียงในทางเหนือและได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาใน ค.ศ. 1860 ชัยชนะการเลือกตั้งของลินคอล์นกระตุ้นให้เจ็ดรัฐทาสทางใต้ตัดสินใจประกาศแยกตัวออกจากสหภาพ และก่อตั้ง[[สมาพันธรัฐอเมริกา|สมาพันธรัฐ]]ทันทีโดยไม่รอให้มีพิธีเข้ารับตำแหน่งเสียก่อน การถอนตัวของนักการเมืองฝ่ายใต้ ทำให้พรรคของลินคอล์นกุมที่นั่งในรัฐสภาคองเกรสได้อย่างเด็ดขาด แต่ความพยายามที่จะประนีประนอมต่างจบลงด้วยความล้มเหลว และเหลือเพียงสงครามเป็นทางเลือกสุดท้าย
สงครามกลางเมืองเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 12 เมษายน ค.ศ. 1861 เมื่อกองกำลังของนายพลโบริการ์ด แห่งฝ่ายสมาพันธรัฐเปิดการยิงโจมตี[[ยุทธการที่ฟอร์ตซัมเทอร์|ฟอร์ตซัมเทอร์]] รัฐฝ่ายเหนือให้การตอบรับการเรียกระดม
ลินคอล์นให้ความสนใจต่อมิติ
ลินคอล์นไม่เพียงแต่ใช้สงครามเพื่อนำไปสู่การเลิกทาส เขายังดำเนินกิจกรรมทางนโยบายอื่นๆ เช่น การออก[[การประกาศเลิกทาส]]ใน ค.ศ. 1863, การเกลี้ยกล่อมให้รัฐชายแดนประกาศให้สถาบันทาสเป็นสิ่งผิดกฎหมาย, การออกกฎหมาย Confiscation Act เพื่อยึดและปลดปล่อยทาสจากผู้ที่ถูกศาลพิพากษาว่าให้การสนับสนุนฝ่ายสมาพันธรัฐ<ref>Donald (1996), p. 314</ref><ref>Carwardine (2003), p. 178.</ref> และช่วยผลักดัน[[การแก้ไขรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกาครั้งที่สิบสาม]]จนผ่านสภาคองเกรส ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1865 ซึ่งห้ามการมีและซื้อขายทาสตลอดไป ในทุกๆพื้นที่ที่อยู่ใต้การปกครองของสหรัฐอเมริกา
ลินคอล์นเป็นนักการเมืองที่ฉลาดหลักแหลม และเข้าพัวพันอย่างลึกซึ้งในสถานการณ์อำนาจในแต่ละรัฐ เขาพยายามเกลี้ยกล่อมระหว่างสมาชิก[[พรรคเดโมแครต (สหรัฐอเมริกา)|พรรคเดโมแครต]]สายสงครามซึ่งต้องการให้มีการประนีประนอมในประเด็นเรื่องสถาบันทาส และสมาชิกริพับลิกันหัวก้าวร้าว ซึ่งต้องการกำจัดกบฏฝ่ายใต้และสถาบันทาสให้สิ้นซากโดยเร็วที่สุด<ref>Tagg, p. xiii.</ref><ref>Donald (1996), pp. 315, 331–333, 338–339, 417.</ref> ยิ่งไปกว่านั้น เขายังบริหารแคมเปญจ์การลงเลือกตั้งใหม่ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ค.ศ. 1864 ด้วยตนเอง ช่วงปลายสงคราม ลินคอล์นถือมุมมองการฟื้นฟูบูรณะ (Reconstruction) สายกลาง โดยแสวงการรวมประเทศอย่างรวดเร็วผ่านนโยบายการปรองดองอย่างเอื้อเฟื้อ ในสภาวะที่ความแตกแยกอย่างขมขื่นยังไม่ลดลงไป อย่างไรก็ดี เพียงห้าวันหลังการยอมจำนนของ[[โรเบิร์ต อี. ลี]] ผู้บัญชาการกองทัพของฝ่ายสมาพันธรัฐ ลินคอล์นถูกลอบยิงในโรงละคร โดยนักแสดงผู้ฝักใฝ่สมาพันธรัฐ [[จอห์น วิลค์ส บูธ]] (John Wilkes Booth) และเสียชีวิตในวันต่อมา การลอบสังหารลินคอล์นเป็นการลอบสังหารประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก และทำให้ทั้งประเทศตกอยู่ในความโศกเศร้า นักวิชาการและสาธารณชนชาวอเมริกันจัดให้ลินคอล์นเป็นหนึ่งในประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมาจวบจนปัจจุบัน<ref name="Ranking Our Presidents">[http://history-world.org/pres.pdf "Ranking Our Presidents"]. James Lindgren. November 16, 2000. International World History Project.</ref><ref name=gallup>[http://www.gallup.com/poll/146183/Americans-Say-Reagan-Greatest-President.aspx "Americans Say Reagan Is the Greatest President"]. Gallup Inc. February 28, 2011.</ref>
|