ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไมเคิล แจ็กสัน"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
--Titanica-- (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 26:
}}
'''ไมเคิล โจเซฟ แจ็กสัน''' ({{Lang-en|
เขาเป็นลูกคนที่ 8 ของครอบครัวแจ็กสัน ปรากฏตัวครั้งแรกในระดับอาชีพด้านดนตรีตั้งแต่อายุ 5 ปี โดยเป็นหนึ่งในสมาชิกวง[[เดอะแจ็กสันไฟฟ์]]ในปี 1964 เขาเริ่มมีผลงานเดี่ยวในปี 1971 ขณะที่ยังคงเป็นสมาชิกของวงอยู่ ต้นคริสต์ทศวรรษ 1980 เขากลายเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมเพลงป็อป และถือเป็นศิลปินชาว[[แอฟริกัน-อเมริกัน]]คนแรกที่มีผลงานออกอากาศผ่านทางช่องเอ็มทีวี [[มิวสิกวิดีโอ]]ของเขา ประกอบด้วยเพลง "[[Beat It]]", "[[Billie Jean]]" และ "[[ทริลเลอร์ (เพลง)|Thriller]]" ได้รับการยกย่องสำหรับการทำลายอุปสรรคทางเชื้อชาติ และเปลี่ยนแปลงรูปแบบมิวสิกวิดีโอจากอุปกรณ์การประชาสัมพันธ์ไปเป็นรูปแบบของงานศิลปะ ความนิยมของมิวสิกวิดีโอเหล่านี้ได้ช่วยให้ช่อง[[เอ็มทีวี]]ที่เพิ่งเปิดใหม่นี้มีชื่อเสียง อัลบั้ม ''[[Bad (album)|Bad]]'' ของเขาในปี 1987 นับเป็นอัลบั้มเพลงแรกในประวัติศาสตร์ที่มีเพลงอันดับ 1 ถึง 5 เพลงบนบิลบอร์ดฮ็อต 100 จากอัลบั้มเดียว มิวสิกวิดีโอในรูปแบบใหม่อย่างเพลง "[[Black or White]]" และ "[[สกรีม/ไชลด์ฮูด|Scream]]" ก็ยังออกอากาศบ่อยทางช่องเอ็มทีวี เขายังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ตลอดคริสต์ทศวรรษ 1990 ด้วยชื่อเสียงที่เลื่องลือในฐานะศิลปินเดี่ยวกับลีลาบนเวทีและการแสดง แจ็กสันสร้างความโด่งดังให้กับเทคนิคการเต้นที่ซับซ้อนโดยใช้ร่างกายมากมายหลายๆท่า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่หลายอย่างมาก อย่างเช่นท่าเต้นหุ่นยนต์และท่าเต้น[[มูนวอล์ก]] เอกลักษณ์ทางด้านดนตรีและเสียงร้องอันโดดเด่นของเขายังมีอิทธิพลต่อศิลปินหลายแนวเพลง อิทธิพลของเขาได้แพร่กระจายไปสู่คนหลายรุ่นทั่วโลก
บรรทัด 203:
มีศิลปินมาร่วมงานอย่าง [[สตีวี วันเดอร์]] [[ไลโอเนล ริชชี]] [[มารายห์ แครี]] [[เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน]] [[อัชเชอร์]] เจอร์เมน แจ็กสัน และชาฮีน จาฟาร์โกลี ที่ร้องเพลงในงาน ส่วนเบอร์รี กอร์ดี และ[[สโมกี โรบินสัน]] กล่าวคำสรรเสริญ ขณะที่[[ควีน ลาติฟาห์]] อ่านกลอน "พวกเรามีเขา" ประพันธ์โดยมายา อันเกลู<ref>Allen, Nick.[http://www.telegraph.co.uk/culture/music/michael-jackson/5771156/Michael-Jackson-memorial-service-the-biggest-celebrity-send-off-of-all-time.htmlMichael Jackson memorial service: the biggest celebrity send-off of all time], ''The Daily Telegraph'', July 7, 2009.</ref> บาทหลวงอัล ชาร์ปตัน ทำให้ผู้คนยืนลุกปรบมือเมื่อเขาพูดกับลูก ๆ ของแจ็กสันว่า " ไม่มีอะไรแปลกเกี่ยวกับพ่อของหนู ที่น่าแปลกคือสิ่งที่เขาต้องเผชิญต่างหาก แต่เขาก็รับมือกับมันได้ "<ref>[http://www2.macleans.ca/2009/07/07/there-was-nothing-strange-about-your-daddy/ Video of Sharpton's eulogy], Macleans, July 7, 2009.</ref> สิ่งที่น่าจดจำได้ดีที่สุดเมื่อ บุตรสาวของแจ็กสัน แพรีส แคเทอรีน แจ็กสัน อายุ 11 ปี ร่ำไห้และบอกกับผู้คนทั้งโลกว่า "ตั้งแต่ที่หนูเกิดมา พ่อเป็นพ่อที่ดีที่สุดเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการได้... หนูแค่อยากจะบอกว่า หนูรักเขามากเหลือเกิน"<ref>[http://www.guardian.co.uk/news/blog/2009/jul /07/michaeljackson Liveblogging Michael Jackson's funeral and memorial service], ''The Guardian'', July 7, 2009.</ref>
ในเวลาต่อมาสำนักข่าวหลายแหล่งข่าวให้ข้อมูลไม่ระบุที่มาว่าเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพลอสแอนเจลิสตัดสินใจระบุว่าการเสียชีวิตของไมเคิล แจ็กสันเป็นการถูก[[ฆาตกรรม]]<ref>{{cite news|url=http://www.timesonline.co.uk/tol/news/world/us_and_americas/article6808546.ece|title=LA coroner to treat Michael Jackson's death as a homicide|publisher=[[The Times]]|date=2009-08-24|accessdate=2009-08-24|first=Kaya|last=Burgess }}</ref><ref>{{cite news|url=http://news.bbc.co.uk/2/hi/americas/8219362.stm|title=Jackson 'had lethal drug levels'|date=2009-08-25|accessdate=2009-08-25|publisher=[[BBC News]]}}</ref> ในเวลาที่เสียชีวิต แจ็กสันถูกให้โปรโพฟอล ยานอนหลับที่ชื่อว่า
=== ผลตามหลัง ===
|