ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เอเธล์บาลด์ กษัตริย์แห่งเวสเซ็กซ์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
Darkydury (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{Infobox royalty|type=monarch|name=เอเธลบาลด์|succession=[[กษัตริย์แห่งเวสเซ็กซ์]]|image=Æthelbald - MS Royal 14 B VI.jpg|caption=เอเธลบาลด์ในม้วนวงศ์วานของกษัตริย์อังกฤษในช่วงต้นศตวรรษที่ 14|reign=13 มกราคม ค.ศ.858 – 20 ธันวาคม ค.ศ.860|predecessor=[[สมเด็จพระเจ้าเอเธล์วูลฟ์ แห่งเวสเซ็กซ์|เอเธลวูล์ฟ]]|successor=[[สมเด็จพระเจ้าเอเธล์เบิร์ท แห่งเวสเซ็กซ์|เอเธลเบิร์ต]]|house=[[ราชวงศ์เวสเซกซ์|เวสเซ็กซ์]]|birth_date=|birth_place=เวสเซ็กซ์ อังกฤษ|death_date=20 ธันวาคม ค.ศ.860|death_place=เวสเซ็กซ์|place of burial=เชอร์บอร์นแอบบีย์|consort=yes|spouse=[[จูดิธแห่งฟลานเดอส์]]|father=[[สมเด็จพระเจ้าเอเธล์วูลฟ์ แห่งเวสเซ็กซ์|เอเธลวูล์ฟ]]|mother=[[ออสเบอร์]]}}'''เอเธลบาลด์''' [ภาษาอังกฤษ Aethelbald หรือ Ethelbald] ขณะที่พระราชบิดาของเขาพระองค์ [[สมเด็จพระเจ้าเอเธล์วูลฟ์ แห่งเวสเซ็กซ์|เอเธลวูล์ฟ]] ไปจาริกแสวงบุญที่โรมในปีค.ศ.855 เอเธลบาล์ดวางแผนกับบิชอปแห่งเชอร์บอร์นและผู้นำท้องถิ่นของ[[ซัมเมอร์เซต|ซัมเมอร์เซ็ต]]ต่อต้านเขาพระองค์ รายละเอียดของแผนการไม่เป็นที่รู้ แต่เมื่อกลับมาจากโรม เอเธลวูล์ฟพบว่าพระราชอำนาจของเขาพระองค์ถูกจำกัดเหลือแค่กษัตริย์ย่อยแห่ง[[เคนต์]] ขณะที่เอเธลบาลด์ควบคุม[[ราชอาณาจักรเวสเซกซ์|เวสเซ็กซ์]]
 
เอเธลวูล์ฟตายสวรรคตในปีค.ศ.858 และอำนาจควบคุมเต็มรูปแบบถูกส่งต่อให้เอเธลบาลด์ที่แต่งงานอภิเษกสมรสกับภรรยาพระมเหสีของพระราชบิดา [[จูดิธแห่งฟลานเดอส์|จูดิธ]] ทว่าภายใต้แรงกดดันจากศาสนจักรการแต่งงานอภิเษกสมรสถูกประกาศเป็นโมฆะในปีต่อมา บางทีการคว้าอำนาจมาก่อนกำหนดของเอเธ,บาล์ดเธลบาล์ดอาจมีสาเหตุมาจากความใจพระทัยร้อน หรือความโลภ หรือการขาดความมั่นใจมั่นพระทัยในแผนการสืบทอดตำแหน่งสืบสันตติวงศ์ของพระราชบิดา ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใดก็ตาม เขาพระองค์มีความสุขอยู่กับมันได้ไม่นาน เขาตายพระองค์สวรรคตในปีค.ศ.860 ส่งต่อบัลลังก์ให้น้องชายพระอนุชา [[เอเธล์เบิร์ท กษัตริย์แห่งเวสเซ็กซ์|เอเธลเบิร์ต]]
 
== ชีวิตช่วงต้น ==
เอเธลบาลด์ ลูกชายโอรสที่ยังมีชีวิตอยู่คนองค์โตของกษัตริย์[[สมเด็จพระเจ้าเอเธล์วูลฟ์ แห่งเวสเซ็กซ์|พระเจ้าเอเธลวูล์ฟ]]กับภรรยาพระมเหสีคนแรก [[ออสเบอร์]] เกิดประสูติราวปีค.ศ.831-834 พระราชมารดาของเขาพระองค์ ออสเบอร์ เป็นลูกสาวธิดาของออสแล็ค พ่อบ้านของกษัตริย์พระเจ้าเอเธลวูล์ฟที่ถูกบรรยายได้ว่าเป็นผู้สืบเชื้อสายของหลานชายพระราชนัดดาชาวจุ๊ทของ[[กษัตริย์เซอร์ดิค|พระเจ้าเซอร์ดิค]] สตัฟและไวท์ก้าร์ ผู้พิชิต[[เกาะไวท์]]
 
พระราชบิดาของเอเธลลาลด์เธลบาลด์ กษัตริย์พระเจ้าเอเธลวุล์ฟ เดินทางไปจาริกแสวงบุญอย่างยาวนานที่โรมซึ่งเขาที่พระองค์ได้พาลูกชายคนโอรสองค์เล็กคนองค์โปรด [[พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช|อัลเฟรด]] ที่เขาหวังพระองค์ประสงค์จะประกาศชื่อเป็นทายาทรัชทายาทไปด้วย ในช่วงที่กษัตริย์ไม่อยู่ [[ราชอาณาจักรเวสเซกซ์|เวสเซ็กซ์]]ถูกบริหารราชการโดยสภารัฐมนตรีภายใต้การเป็นผู้นำร่วมกันของเอเธลบาลด์, นักบุญสวิธิน บิชอปแห่งวินเชสเตอร์ และบิชอบเอลสตานแห่งเชอร์บอร์น การขึ้นครองตำแหน่งก่อนกำหนดทำให้เอเธลบาลด์ได้รับการสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์แห่งเวสเซ็กซ์ที่คิงสตันเหนือเธมส์ก่อนที่พระราชบิดาของเขาพระองค์จะกลับมา
 
ระหว่างทางกลับจากโรมในปีค.ศ.856 เอเธลวูล์ฟพักที่ราชสำนักของจักรพรรดิ[[จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์|โรมันอันศักดิ์สิทธิ์]] [[จักรพรรดิคาร์ลที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์|ชาร์ลผู้หัวล้าน]] ในเดือนกรกฎาคมปีนั้นเขาพระองค์ได้ทรงหมั้นหมายกับลูกสาวธิดาของชาร์ล [[จูดิธแห่งฟลานเดอส์|จูดิธ]] ที่อายุพระชนมายุไม่เกิน 14 ปีพรรษา ขณะที่เอเธลวูล์ฟอายุพระชนมพรรษาราว 50 ปีพรรษาในเวลานั้น ในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.856 คู่แต่งงานอภิเษกสมรสได้แต่งงานอภิเษกสมรสกันที่แวร์บรีในฝรั่งเศสตอนเหนือ การแต่งงานอภิเษกสมรสเป็นการผูกสัมพันธ์สัมพันธไมตรีทางการทูต กษัตริย์ทั้งสองทุกข์ทนจากการโจมตีของ[[ชาวไวกิง|ไวกิ้ง]] และสำหรับเอเธลวูล์ฟ การแต่งงานอภิเษกสมรสเป็นการเพิ่มข้อได้เปรียบในการเชื่อมโยงตนเองพระองค์เองเข้ากับความเกรียงไกรของ[[ราชวงศ์การอแล็งเฌียง|การอแล็งเฌียง]] ในเวสเซ็กซ์ไม่มีธรรมเนียมให้ภรรยาพระมเหสีของกษัตริย์เป็นราชินี แต่ชาร์ลยืนกรานให้ลูกสาวธิดาของตนพระองค์ได้สวมมงกุฎราชินี
 
เอเธลบาลด์ตรงกันข้ามกับบิดาผู้ศรัทธาในศาสนาและสุภาพอ่อนโยนของตนพระองค์มาก เขาทรงเป็นนักรบที่แข็งกร้าวและแกร่งกล้าเหมือนปู่พระอัยกา เอ็กเบิร์ต แทนที่จะปกครองลูกชายโอรสที่ชอบโปรดปรานการทำสงคราม เอเธลวูล์ฟยับยั้งโอกาสที่จะเกิดสงครามกลางเมืองด้วยการยอมรับสถานะของตัวเองพระองค์เองและสละราชสมบัติ
 
== การขึ้นครองราชย์ ==
หลังการตายสวรรคตของพระราชบิดาในอีกสองปีต่อมา เอเธลบาลด์ทำให้ตัวเองพระองค์เองไม่เป็นที่นิยมโปรดปรานของศาสนาเป็นอย่างมากอย่างโง่เขลาด้วยการแต่งงานอภิเษกสมรสที่ฉาวโฉ่กับแม่เลี้ยงพระมารดาเลี้ยงวัยสิบหก จูดิธแห่งฝรั่งเศส ความสัมพันธ์ถูกมองว่าเป็นการร่วมประเวณีของญาติที่ใกล้ชิดกันและฝ่าฝืนกฎหมายของศาสนา และถูกประณามอย่างรุนแรงโดย[[แอสเซอร์]]ในพระราช''ชีวประวัติประวัติของพระเจ้าอัลเฟรดมหาราช'' ของเขา
[[ไฟล์:Memorial_to_Ethelbald_and_Ethelbert_in_Sherborne_Abbey.jpg|link=https://en.wikipedia.org/wiki/File:Memorial_to_Ethelbald_and_Ethelbert_in_Sherborne_Abbey.jpg|left|thumb|อนุสรณ์สถานในเชอร์บอร์นแอบบีย์]]
<blockquote>'ครั้นเมื่อกษัตริย์พระเจ้าเอเธลวูล์ฟตายเธลวูล์ฟสวรรคต เอเธลบาลด์ บุตรชายโอรสของเขาพระองค์ ฝ่าฝืนข้อห้ามของพระเจ้าและเกียรติของชาวคริสต์ และยังขัดแย้งกับธรรมเนียมของเหล่าคนนอกรีตทั้งหลาย รับช่วงต่อเตียงอภิเษกสมรสของพระราชบิดาและแต่งงานอภิเษกสมรสกับจูดิธ ลูกสาวธิดาของชาร์ล กษัตริย์ของพวกชาวแฟรงก์ ก่อเกิดความไม่เห็นด้วยครั้งใหญ่จากทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้'</blockquote>แม้จะมีเรื่องฉาวโฉ่กับแม่เลี้ยงพระมารดาเลี้ยง แต่เอเธลบาลด์เป็นกษัตริย์ที่ได้รับความนิยม เขาตายพระองค์สวรรคตที่เชอร์บอร์นใน[[ดอร์เซต|ดอร์เซ็ต]]ในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ.860 อายุพระชนมพรรษาราว 35 ปีพรรษา หลังครองราชย์ได้สี่ปี เขาพระองค์ถูกฝังที่เชอร์บอร์นแอบบีย์ หลุมฝังพระศพของเขาพระองค์และของน้องชายพระอนุชา เอเธลเบิร์ตแห่งเวสเซ็กซ์ อยู่ในนอร์ธไคร์ไอส์เอลของแอบบีย์
 
เขาพระองค์ดูเหมือนจะเป็นที่อาลัยอย่างมากของประชาชน แม้บิชอปแอสเซอร์จะบรรยายถึงเขาพระองค์ไว้ว่า "หัวแข็งและเผด็จการ" การถูกจดจำว่านำมาซึ่งการติเตียนของศาสนาจักรจากการแต่งงานอภิเษกสมรสที่ขัดต่อหลักศาสนาทำให้แอสเซอร์มีความคิดเห็นที่เป็นอคติกับกษัตริย์คนพระองค์นี้
 
== จูดิธแห่งฝรั่งเศส ==
หลังเอเธลบาลด์ตายเธลบาลด์สวรรคต จูดิธแห่งฝรั่งเศสขายทรัพย์สมบัติในเวสเซ็กซ์และกลับไปฝรั่งเศสบ้านเกิด ที่ซึ่งพระบิดาผู้เจ็บแค้นของเธอพระนาง ชาร์ลผู้หัวล้าน ส่งเธอพระนางเข้าอารามที่ซ็องลิส ช่วงราวคริสต์มาสของปีค.ศ.861 จูดิธหนีไปกับบาลด์วินที่ต่อมาได้เป็นเคานท์แห่งฟลานเดอส์ พระบิดาของจูดิธโกรธมากและสั่งให้เหล่าบิชอปตัดทั้งคู่ออกจากศาสนา ต่อมาพวกเขาพระนางหนีไปอยู่ที่ราชสำนักของลูกพี่ลูกน้องพระญาติของจูดิธ โลแธร์ที่ 2 แห่ง[[โลทาริงเกีย|โลแธริงเกีย]]เพื่อขอการคุ้มกัน ก่อนจะไปหาโป๊ปนิโคลัสที่ 1 เพื่อขอความเมตตา โป๊ปขอให้พระบิดาของจูดิธยอมรับการแต่งงานเสกสมรสว่าเป็นการผูกพันที่ถูกต้องตามกฎหมายและต้อนรับทั้งคู่เข้าสู่ศาสนจักรของเขาพระองค์ ซึ่งสุดท้ายเขาพระองค์ก็ยอมทำตาม หลังจากนั้นทั้งคู่กลับสู่ฝรั่งเศส และจูดิธได้แต่งงานเสกสมรสอย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่สามที่[[โอแซร์]]ในปีค.ศ.863
 
จากการแต่งงานเสกสมรสครั้งสาม จูดิธกลายเป็นบรรพบุรุษของราชินีแห่งอังกฤษอีกคนพระองค์ [[มาทิลดาแห่งแฟลนเดิร์ส สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ|มาทิลด้าแห่งฟลานเดอส์]] (ค.ศ.1031-2 พฤศจิกายน ค.ศ.1083) ลูกสาวธิดาของบาลด์วินที่ 5 เคานท์แห่งฟลานเดอส์ และคู่อภิเษกสมรสของกษัตริย์นอร์มันคนพระองค์แรก [[พระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ|วิลเลี่ยมผู้พิชิต]] บาลด์วินที่ 2 เคานท์แห่งฟลานเดอส์ (ตายสิ้นพระชนม์ปีค.ศ.918) หนึ่งในลูกชายโอรสของจูดิธกับบาลด์วินแต่งงานเสกสมรสกับเอลฟ์ธริธ ลูกสาวธิดาของน้องชายพระอนุชาของเอเธลบาลด์ [[พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช|อัลเฟรดมหาราช]]
 
== แหล่งข้อมูล ==