ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โคลนถล่ม"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ย้อนการแก้ไขที่ 7133377 สร้างโดย 125.24.129.190 (พูดคุย) |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
[[ไฟล์:Mudflow Utt 49.gif|right|200px|thumb|โคลนถล่มพัดสะพานและถนนขาด ใน [[อ.ท่าปลา]] [[อุตรดิตถ์]]]]
'''โคลนถล่ม'''
หลายคนเข้าใจว่า การย้ายมวลเกิดเฉพาะบนแผ่นดิน (Continents) เท่านั้น แต่จากการศึกษาทางธรณีฟิสิกส์และการลำดับชั้นหินตะกอนพบว่า บริเวณไหล่ทวีป
ของมหาสมุทรหลายแห่ง มีการเคลื่อนตัวของตะกอนเช่นเดียวกับบนแผ่นดิน และจัดเป็นการเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วลงมาตามความลาดชัน เรียกว่า กระแสน้ำขุ่นข้น (
== กระบวนการเกิดดินหรือโคลนถล่ม ==
บรรทัด 15:
หากจำแนกตาม ''Sharpe (1938)'' จะพิจารณาความเร็วของการย้ายมวล ปริมาณน้ำและความลาดชันของพื้นที่เป็นสำคัญ โดยเรียงลำดับจาก ปริมาณน้ำน้อยและมีการเคลื่อนตัวของมวลสารมาก ในพื้นที่ความลาดชันสูง – ปริมาณน้ำมากและมีการเคลื่อนตัวของมวลสารน้อย ในพื้นที่ความลาดชันต่ำ ดังนี้<ref name="Sharpe1960">{{cite book|author=Charles Farquharson Stewart Sharpe|title=Landslides and related phenomena: a study of mass-movements of soil and rock|url=http://books.google.com/books?id=LrFNAAAAMAAJ|accessdate=17 May 2011|year=1960|publisher=Pageant Books}}</ref>
# '''แผ่นดินถล่ม'''
# '''กองหินจากการถล่ม'''
# '''ดินเลื่อน'''
# '''น้ำหลากแผ่ซ่าน'''
# '''การกร่อนแบบพื้นผิว'''
# '''ธารน้ำ'''
== ข้อสังเกตหรือสิ่งบอกเหตุ ==
บรรทัด 26:
การย้ายมวลบางครั้งเกิดขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลหรือโอกาสการระมัดระวังน้อยมาก โดยส่วนใหญ่ การย้ายมวลมักเกิดจากเหตุการณ์ต่อไปนี้เป็นตัวกระตุ้น
* '''การสั่นไหวอย่างรุนแรง'''
* '''การเปลี่ยนความลาดชัน
* '''การกัดลึก'''
* '''ฝนตกหนัก'''
* '''การระเบิดของภูเขาไฟ'''
== โคลนถล่มในประเทศไทย ==
บรรทัด 43:
<gallery>
ภาพ:ลับแล 49.JPG|ลักษณะหมู่บ้านใน[[หุบเขา]]
ภาพ:Utt.001.JPG|โคลนจากภูเขาถล่มทับทางรถยนต์ในอำเภอลับแล
</gallery>
== โคลนถล่มที่
[[ไฟล์:พิปูน2.JPG|thumb|450px|พื้นที่ภัยพิบัติโคลนถล่ม ต.กะทูน อ.พิปูนประมาณ พ.ศ. 2532 สีขาวบนเขาคือพื้นที่ที่โคลนถล่ม สีขาวบนพื้นราบคือพื้นที่ตั้งถิ่นฐานเดิมของชาวบ้าน โปรดสังเกตทางน้ำออกที่ลูกศรชี้]]
ก่อนวันเกิดเหตุ 3- 4 วันได้เกิด[[พายุดีเพรสชั่น]] มีฝนตกปรอยๆ ต่อเนื่องมาหลายวัน ทำให้พื้นดินรวมทั้งเชิงเขาที่ชาวบ้านขึ้นไปปลูก[[ยางพารา]]บนพื้นที่เดิมที่เปรียบเสมือนฟองน้ำตั้งเอียงที่พอซับน้ำได้พอประมาณเท่านั้น หมดขีดความสามารถในการอุ้มน้ำ น้ำที่อุ้มไว้อย่างเอียงๆ เต็มที่แล้วนั้น นอกจากจะทำให้ดินมีน้ำหนักมากขึ้น ยังลดความฝืดของอณูดินเองกับหล่อลื่นรากพืชที่ช่วยกันต้านแรงดึงดูดของโลกไว้ เมื่อมีฝนระลอกใหญ่ตกเพิ่มเติมลงมาในวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 ดังกล่าว จึงทำให้พื้นที่ที่หมดขีดความสามารถในการอุ้มน้ำส่วนบนบางส่วนพังทลายลงมาในรูปของโคลนถล่มพร้อมกับต้นไม้เดิมและต้นยางพาราไหลทลายทับถมลงมาในลักษณะ[[โดมิโน]] พื้นที่ลาดชันบางส่วนแม้จะแข็งแรงรับนำหนักตัวเองได้พอควรอยู่ก่อน ย่อมไม่อาจรับน้ำหนักโคลนและท่อนไม้ที่ไหลทะลักที่มีความเร่งเพิ่มยกกำลังสองตาม[[กฎแรงดึงดูดของโลก]] นอกจากนี้น้ำส่วนบนที่เบากว่ายังยกระดับสูงได้อย่างรวดเร็วภายในเวลานับเป็นเพียงนาทีเท่านั้น บ้านเรือนที่ปกติปลูกสูงพอสมควรก็มักถูกทำลายได้มากมายในพริบตาเช่นกัน
|