ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระราเมศวร"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Protected "สมเด็จพระราเมศวร": การก่อกวนจำนวนมาก ([แก้ไข=ล็อกสำหรับผู้ที่ไม่ล็อกอิน] (ไม่มีกำหนด) [...
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 4:
| image =
| พระบรมนามาภิไธย = พระราเมศวร
| พระราชสมภพ = [[พ.ศ. 1882]]
| สวรรคต = [[พ.ศ. 1938]]<br>สิริรวมพระชนมายุ 56 พรรษา
| พระพุทธปฏิมาประจำรัชกาล = [[พระพุทธรูป]][[ปางพระเกศาธาตุ]] ณ หอราชกรมานุสรณ์
| พระอิสริยยศ = พระมหากษัตริย์แห่ง[[อาณาจักรอยุธยา]]
บรรทัด 14:
| พระราชโอรส/ธิดา = - [[สมเด็จพระรามราชาธิราช]]
| ราชวงศ์ = [[ราชวงศ์อู่ทอง]]
| ครองราชย์ = '''ครั้งที่ 1''' [[พ.ศ. 1912|พ.ศ. 1912]]<br> พระชนมายุ 37 พรรษา <br>'''ครั้งที่ 2''' [[พ.ศ. 1931|พ.ศ. 1931]]<br> พระชนมายุ 49 พรรษา
| พิธีบรมราชาภิเษก = ในปี พ.ศ.ที่ขึ้นครองราชย์ในแต่ละครั้ง
| ระยะครองราชย์ = '''ครั้งที่ 1''' 1 ปี <br>'''ครั้งที่ 2''' 7 ปี <br>รวม 8 ปี
| รัชกาลก่อนหน้า = '''ครั้งที่ 1''' [[สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1]] <br>'''ครั้งที่ 2''' [[สมเด็จพระเจ้าทองลัน]]
| รัชกาลถัดไป = '''ครั้งที่ 1''' [[สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1]] <br>'''ครั้งที่ 2''' [[สมเด็จพระพระเจ้ารามราชาธิราชราชา]]
| วัดประจำรัชกาล =
}}
บรรทัด 26:
พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์ได้เพียงปีเดียวก็สละราชสมบัติให้สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ผู้เป็นพระมาตุลา และเสด็จขึ้นครองราชสมบัติอีกครั้งภายหลังการสำเร็จโทษ[[สมเด็จพระเจ้าทองลัน]] พระราชโอรสของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ที่ครองราชสมบัติได้เพียง 7 วัน
 
แม้พระองค์จะเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงประหารพระญาติของพระองค์สำเร็จโทษพระเจ้าทองลันเพื่อแย่งชิงชิงราชสมบัติ แต่พระองค์ก็ทรงสร้างคุณูปการต่อกรุงศรีอยุธยาไว้หลายประการ ไม่ว่าจะด้าน[[ศาสนาพุทธ|พระศาสนา]]หรือการสงคราม ซึ่งพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่ควรยกย่องเชิดชูพระเกียรติที่ทรงปกครองบ้านเมืองให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขโดยที่ไม่มีเมืองต่างๆมารุกราน พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงขยายอาณาเขตให้อาณาจักรอยุธยายิ่งใหญ่ พระองค์ยังทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอยู่ตลอดเวลา แม้เวลาส่วนมากจะทำศึกสงคราม
 
== พระราชประวัติ ==
สมเด็จพระราเมศวร เสด็จพระราชสมภพในปี พ.ศ. 1882<ref name="นามา53">''นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย'', หน้า 53</ref> เป็นพระราชโอรสใน[[สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1]] (พระเจ้าอู่ทอง) ประสูติแต่พระมเหสีซึ่งเป็นพระกนิษฐาใน[[สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1]] (พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงศรีอยุธยา) เดิมมีพระอิสริยยศเป็น''สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระราเมศวร'' เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา ได้โปรดเกล้าฯ ให้พระราเมศวรไปครองราชสมบัติใน[[อำเภอเมืองลพบุรี|เมืองลพบุรี]]<ref name="พันจัน38">''พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)'', หน้า 38</ref>
{{แม่แบบ:พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์อู่ทอง}}
สมเด็จพระราเมศวร เสด็จพระราชสมภพในปี พ.ศ. 1882<ref name="นามา53">''นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย'', หน้า 53</ref> เป็นพระราชโอรสใน[[สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1]] (พระเจ้าอู่ทอง) ประสูติแต่พระมเหสีซึ่งเป็นพระกนิษฐาใน[[สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1]] (พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงศรีอยุธยา) เดิมมีพระอิสริยยศเป็น''สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระราเมศวร'' เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา ได้โปรดเกล้าฯ ให้พระราเมศวรไปครองราชสมบัติใน[[อำเภอเมืองลพบุรี|เมืองลพบุรี]]<ref name="พันจัน38">''พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)'', หน้า 38</ref>
 
หลังจากสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 เสด็จสวรรคตในปี [[พ.ศ. 1912]] พระองค์จึงเสด็จฯ จากเมืองลพบุรีมาเสวยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา<ref name="พันจัน42">''พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)'', หน้า 42</ref> ขณะนั้นมีพระชนมายุได้ 37 พรรษา แต่พระองค์ทรงครองราชสมบัติได้เพียงปีเดียว สมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้าก็ยกทัพจากเมืองสุพรรณบุรีเข้ามา พระองค์จึงออกไปรับเสด็จฯ เข้าพระนคร แล้วถวายราชสมบัติให้ครองกรุงศรีอยุธยาแทน ส่วนพระองค์กลับไปครองเมืองลพบุรีดังเดิม<ref name="พันจัน43">''พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)'', หน้า 43</ref>
 
ภายหลังสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 เจ้าเสด็จสวรรคตในปี [[พ.ศ. 1931]] [[สมเด็จพระเจ้าทองลัน]] พระราชโอรสในสมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้า เสด็จขึ้นครองราชสมบัติกรุงศรีอยุธยาได้เพียง 7 วัน สมเด็จพระราเมศวรได้ยกพลจากเมืองลพบุรีมายึดกรุงศรีอยุธยา โปรดให้สำเร็จโทษสมเด็จพระเจ้าทองลัน ณ [[วัดโคกพระยา]]<ref name="พันจัน46">''พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)'', หน้า 46</ref> แล้วขึ้นครองราชสมบัติกรุงศรีอยุธยาเป็นครั้งที่ 2 ขณะมีพระชนมายุได้ 49 พรรษา<ref name="นามา53"/>
 
ในปี [[พ.ศ. 1938]] เย็นวันหนึ่งสมเด็จพระราเมศวรเสด็จไปพระที่นั่งมังคลาภิเษก ระหว่างทางมีวิญญาณของท้าวมลมาปรากฏนั่งขวางทางเสด็จอยู่แล้วหายไป พระองค์ก็สวรรคต<ref name="พันจัน48">''พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)'', หน้า 48</ref> สิริพระชนมายุ 56 พรรษา<ref name="นามา54">''นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย'', หน้า 54</ref> ทรงครองราชสมบัติรวม 2 ครั้งเป็นระยะเวลา 8 ปี โดย[[สมเด็จพระพระเจ้ารามราชาธิราชราชา]] พระราชโอรสของพระองค์ได้สืบราชสมบัติ
 
==พระราชกรณีกิจ==
===ราชการสงคราม===
เมื่อปี [[พ.ศ. 1895]] ขณะที่พระองค์ยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 อยู่นั้น สมเด็จพระราชบิดาโปรดให้เชิญพระองค์ลงมาจากเมืองลพบุรีและตรัสว่า[[ขอม]]แปรพักตร์ต้องปราบปรามเสีย จึงโปรดให้พระองค์ยกพล 5,000 ไปยัง[[นครธม|กัมพูชาธิบดี]] พระยาอุปราชพระราชโอรสใน[[พระบรมลำพงษ์ราชา]] พระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดี ได้เข้าโจมตีทัพหน้าของกรุงศรีอยุธยาจนแตกพ่าย แล้วจึงเข้าปะทะกับทัพหลวงต่อ เมื่อความทราบถึงสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 พระองค์จึงมีพระราชโองการให้ขุนตำรวจออกไปเชิญสมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้าที่ประทับอยู่ ณ เมืองสุพรรณบุรี ขึ้นไปทำศึกช่วยพระราเมศวร การศึกดำเนินไปเป็นระยะเวลา 1 ปีโดยประมาณ จึงสามารถเอาชนะกรุงกัมพูชาธิบดีได้สำเร็จและได้กวาดต้อนชาวกัมพูชาธิบดีเข้ามาอยู่ยังกรุงศรีอยุธยาเป็นจำนวนมาก<ref name="พันจัน38"/>
 
หลังจากที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชสมบัติในครั้งที่ 2 แล้วนั้น พระองค์ทรงทำสงครามแผ่ขยายราชอาณาเขตกรุงศรีอยุธยาออกไปยังหัวเมืองทางตอนเหนือและแถบเมืองกัมพูชา ดังนี้
เส้น 46 ⟶ 45:
====สงครามกับเมืองเชียงใหม่====
 
เมื่อปี [[พ.ศ. 1933]] พระองค์ทรงยกกองทัพขึ้นไปยัง[[เวียงเชียงใหม่|เมืองเชียงใหม่]] ในชั้นแรกนั้นพระเจ้าเชียงใหม่ได้ขอสงบศึก โดยขอเวลา 7 วันแล้วจะนำเครื่องราชบรรณาการมาถวายเพื่อเจริญพระราชไมตรี ในการนี้มุขมนตรีนายทัพนายกองได้ปรึกษาหารือว่า อาจจะเป็นกลอุบายของพระเจ้าเชียงใหม่เพื่อจะได้เตรียมการรับมือกองทัพของกรุงศรีอยุธยา แต่พระองค์ตรัสว่าเมื่อเขาไม่รบแล้วเราจะรบนั้นดูมิบังควรและถึงแม้ว่าพระเจ้าเชียงใหม่จะไม่รักษาสัตย์ก็ใช่ว่าจะสามารถรอดพ้นจากทหารของกรุงศรีอยุธยาไปได้ เมื่อผ่านไป 7 วัน พระเจ้าเชียงใหม่ไม่ได้นำเครื่องราชบรรณาการมาถวาย พระองค์จึงยกกำลังเข้าตีเมืองเชียงใหม่ เจ้าเมืองเชียงใหม่ต้านไม่ได้จึงหนีออกไป แต่สามารถจับนักสร้างพระโอรสพระเจ้าเชียงใหม่ได้ พระองค์ทรงพระกรุณาให้นักสร้างขึ้นครองราชสมบัติอยู่ ณ เมืองเชียงใหม่ และได้กวาดต้อนผู้คนลงมาทางใต้โดยให้ไปอยู่ที่[[อำเภอเมืองจันทบุรี|เมืองจันทบูร]] [[อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช|เมืองนครศรีธรรมราช]] [[อำเภอเมืองพัทลุง|เมืองพัทลุง]] และ[[อำเภอเมืองสงขลา|เมืองสงขลา]]<ref name="พันจัน47">''พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)'', หน้า 47</ref>
 
====สงครามกับเมืองกัมพูชาธิบดี====
เส้น 54 ⟶ 53:
===การพระศาสนา===
 
หลังจากศึก ณ เมืองเชียงใหม่เสร็จสิ้น พระองค์เสด็จยัง[[อำเภอเมืองพิษณุโลก|เมืองพิษณุโลก]] ในการนี้พระองค์เสด็จนมัสการ[[พระพุทธชินราช]]และเปลื้องเครื่องต้นทำสักการบูชาสมโภช 7 วัน แล้วจึงเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา สำหรับการพระพุทธศาสนาภายในกรุงศรีอยุธยานั้น พระองค์โปรดให้สถาปนาพระมหาธาตุสูง 17 วา ยอดสูง 3 วา ณ บริเวณที่พระองค์ทอดพระเนตรเห็น[[พระบรมสารีริกธาตุ]]แสดงปาฎิหารย์ โดยพระราชทานชื่อว่า[[วัดมหาธาตุ พระนครศรีอยุธยา|วัดพระมหาธาตุ]]<ref name="พันจัน47"/> นอกจากนี้ พระองค์ยังโปรดให้สถาปนา[[วัดภูเขาทอง]]ขึ้นเมื่อปี [[พ.ศ. 1930]]<ref name="พันจัน48"/>
 
== ราชตระกูล ==
เส้น 93 ⟶ 92:
; บรรณานุกรม
{{เริ่มอ้างอิง}}
* {{อ้างหนังสือ | ผู้แต่ง = มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา | ชื่อหนังสือ = นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย | urlURL = httphttps://www.sactmd.orgo.th/main/pdf/Thai_king_directories.pdf| พิมพ์ที่ = มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา | จังหวัด = กรุงเทพฯ | ปี = 2554 | ISBN = 978-616-7308-25-8| จำนวนหน้า = 264}}
* {{อ้างหนังสือ| ผู้แต่ง = | ชื่อหนังสือ = พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น| จังหวัด = นนทบุรี| พิมพ์ที่ = ศรีปัญญา| ปี = 2553| ISBN = 978-616-7146-08-9| จำนวนหน้า = 800}}
{{จบอ้างอิง}}
เส้น 106 ⟶ 105:
|สี3 = #E9E9E9
|รูปภาพ = Seal of Ayutthaya (King Narai).png
|ตำแหน่ง = พระมหากษัตริย์แห่ง[[อาณาจักรกรุงศรีอยุธยา]] (ครั้งที่ 1)<br>([[ราชวงศ์อู่ทอง]])
|ช่วงเวลา = [[(สมัยที่ 1) พ.ศ. 1912| - พ.ศ. 1912]]1913<br/ ->(สมัยที่ 2) [[พ.ศ. 1913|1931 - พ.ศ. 1913]]1938
|ก่อนหน้า = [[สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1]] <br>(ก่อนสมัยที่ 1)<br>[[ราชวงศ์อู่สมเด็จพระเจ้าทองลัน]] <br>(ก่อนสมัยที่ 2)
|วาระก่อนหน้า = ([[พ.ศ. 1893|พ.ศ. 1893]] - [[พ.ศ. 1912|พ.ศ. 1912]])
|ถัดไป = [[สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1]] <br>(หลังสมัยที่ 1)<br>[[ราชวงศ์สุพรรณภูมิสมเด็จพระเจ้ารามราชา]] <br>(หลังสมัยที่ 2)
|วาระถัดไป = ([[พ.ศ. 1913|พ.ศ. 1913]] - [[พ.ศ. 1931|พ.ศ. 1931]])
}}
{{สืบตำแหน่ง
|สี1 = #E9E9E9
|สี3 = #E9E9E9
|รูปภาพ = Seal of Ayutthaya (King Narai).png
|ตำแหน่ง = พระมหากษัตริย์แห่ง[[อาณาจักรอยุธยา]] (ครั้งที่ 2)<br>([[ราชวงศ์อู่ทอง]])
|ช่วงเวลา = [[พ.ศ. 1931|พ.ศ. 1931]] - [[พ.ศ. 1938|พ.ศ. 1938]]
|ก่อนหน้า = [[สมเด็จพระเจ้าทองลัน]]<br>([[ราชวงศ์สุพรรณภูมิ]])
|วาระก่อนหน้า = ([[พ.ศ. 1931|พ.ศ. 1931]])
|ถัดไป = [[สมเด็จพระรามราชาธิราช]]<br>([[ราชวงศ์อู่ทอง]])
|วาระถัดไป = ([[พ.ศ. 1938|พ.ศ. 1938]] - [[พ.ศ. 1952|พ.ศ. 1952]])
}}
{{จบกล่อง}}