ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อำเภอศรีสงคราม"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 21:
 
== ประวัติ ==
ความเป็นมาของอำเภอศรีสงคราม เดิมชื่อเมืองอากาศอำนวย (เริ่มปรากฏหลักฐาน ในสมัยรัชกาลที่ 4) พ.ศ. 2396 สารตราเจ้าพระยาจักรี มาถึงอุปฮาด ราชวงศ์ ราชบุตร ท้าวเพี้ย เมืองนครพนม พระแก้วโกมลเรณูนคร พระอุทัยพระเทศเจ้าเมืองรามราช หลวงเอกอาษาเจ้าเมืองอาทมาต ความว่า เนื่องจากพระยาสุนทรราชวงศาเจ้าเมืองยศสุนทร เมืองนครพนม ได้พาท้าวศรีสุราช ท้าวจันทนาม ท้าวนามโคตร ครอบครัวท้าวติวซอยบ้านหอมท้าวลงไปกรุงเทพฯรับน้ำพิพัฒน์สัจจาและ เนื่องจากท้าวศรีสุราช ท้าวติวซอย ตั้งอยู่แขวงเมืองสกลนครไม่สมัครอยู่กับพระยาประเทศธานีเมืองสกลนคร ขอสมัครขึ้นต่อเมืองนครพนม พระสุนทรราชวงศา จึงให้ครอบครัวไปตั้งบ้านเรือนอยู่บ้านม่วงลำน้ำยามซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเขตแดนเมืองไชยบุรี สกลนคร นครพนม มีจำนวนพระสงฆ์ สามเณร คนชรา 109 คน ท้าวเพี้ย 109 คน ฉกรรจ์ 246 คน รวม 464 คน รวมชายหญิงใหญ่น้อย เป็นคน 2,339 คน พระสุนทรราชวงศา จึงขอยกบ้านม่วงเป็นเมืองอากาศอำนวย ขอท้าวศรีสุราชเป็นเจ้าเมือง ท้าวชาบัณฑิตเป็นอัครฮาด ท้าวจันทนามเป็นอัครวงศ์ ท้าวนามโคตรเป็นวรบุตร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านม่วงเป็นเมืองอากาศอำนวย และพระราชทานให้ท้าวศรีสุราชเป็นหลวงพลานุกูล ท้าวจันทนามเป็นราชวงศ์ ท้าวนามโคตรเป็นวรบุตร พร้อมทั้งเครื่องยศตามตำแหน่ง โปรดเกล้าฯให้มีสารถึงเมืองหนองหาร เมืองสกลนคร เมืองไชยบุรี ให้แบ่งเขตแดนให้เมืองอากาศอำนวย แล้วให้มีใบบอกรายงานไปยังกรุงเทพฯ
 
พ.ศ. 2400 พวกไทยโย้ย กรมการเมืองสกลนคร ได้แตกแยกออกเป็นสองพวก พวกหนึ่งไปร้องสมัครขอเป็นเมืองขึ้นเมืองยโสธร มีนายจารคำเป็นหัวหน้า อีกพวกหนึ่งขอเป็นเมืองขึ้นกับเมืองนครพนมมีเพี้ยติ้วซอยเป็นหัวหน้า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายจารคำเป็นหลวงประชาราษฎร์รักษา เพี้ยติ้วซอยเป็นหลวงพลานุกูล ยกบ้านม่วงน้ำยามเป็นเมืองอากาศอำนวย ขึ้นกับเมืองนครพนม หลวงพลานุกูลเป็นเจ้าเมือง