ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดมีตรี อุสตีนอฟ"

ในปี พ.ศ. 2522 [[ฮะฟีซอลลาห์ อะมีน]] ได้ลอบสังหารผู้นำของอัฟกานิสถาน [[นูร์ มูฮัมหมัด ตะรากี]] ในเดือนตุลาคม อุสตีนอฟและ[[ยูริรี อันโดรปอฟ|อันโดรปอฟ]]มีความเชื่อมั่นสำหรับการแทรกแซงทางทหารของสหภาพโซเวียตในอัฟกานิสถานจะเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งในโซเวียตโปลิตบูโร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหภาพโซเวียตAndrei Gromyko ให้การสนับสนุนสำหรับการแทรกแซง

หลังการเข้ามาของกองกำลังสหรัฐในอ่าวเปอร์เซียหลังจาก[[วิกฤตการณ์ตัวประกันอิหร่าน]]ยิ่งทำให้เกิดความตื่นตระหนกในโซเวียต อุสตีนอฟ คิดว่า "ถ้าชาวอเมริกันทำเตรียมการทั้งหมดเหล่านี้ใต้จมูกของเราแล้วทำไมเราควรจะเข้าแทรกเพื่อปกป้องการสูญเสียอัฟกานิสถาน?" ในเดือนพฤศจิกายน อุสตีนอฟและ[[ยูริรี อันโดรปอฟ|อันโดรปอฟ]]เริ่มที่จะกำหนดแผนการอุสตีนอฟ-อันโดรปอฟ ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2522 โปลิตบูโร ได้รับการอนุมัติแผนการอุสตีนอฟ-อันโดรปอฟ วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2522 [[สงครามโซเวียตในอัฟกานิสถาน|สหภาพโซเวียตได้ส่งกองทัพเข้ามาในอัฟกานิสถาน]]

ในปี พ.ศ. 2535 [[บอริส เยลต์ซิน]] ประธานาธิบดีรัสเซียเปิดเผยบันทึกลับสุดยอด 5 ฉบับสืบมาจากปลายปี พ.ศ. 2526 บันทึกที่ได้รับการเขียนภายในสัปดาห์เดียวกับที่เครื่องบิน[[โคเรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 007]] ถูกยิงตก บทบันทึกเหล่านี้ถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Izvestia จำนวน 228 บน 16 ตุลาคม พ.ศ. 2535 ตามที่บันทึกเหล่านี้สหภาพโซเวียตก็สามารถที่จะกู้คืน "กล่องดำ" จากโคเรียนแอร์ไลน์ 007 และถอดรหัสเทป หลังจากนั้นเป็นต้นมา อุสตีนอฟพร้อมกับวิคตอร์ เชบรีคอฟ (Viktor Chebrikov) หัวหน้าเคจีบีแนะนำให้[[ยูริรี อันโดรปอฟ]] ครอบครองกล่องสีดำเอาไว้และไม่บอกแก่ประชาชน เพื่อเอาไว้ในการต่อสู้กับสหรัฐในเหตุการณ์โคเรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 007