ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 30:
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์ ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 60 ใน[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเหม เมื่อวันศุกร์ เดือน 8 แรม 7 ค่ำ ปีจอจัตวาศก จ.ศ. 1224 ตรงกับวันที่ [[18 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2405]] ทรงเป็นต้นราชสกุลโศภางค์
 
พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์ ทรงรับราชการหลายตำแหน่ง ทรงเป็นเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอักษรพิมพการ (โรงพิมพ์หลวงอักษรพิมพการ สำนักงานพิมพ์หนังสือ[[ราชกิจจานุเบกษา]]) และอธิบดีกรมพยาบาล ทรงเป็นกำลังสำคัญในการก่อตั้ง[[โรงพยาบาลศิริราช|โรงศิริราชพยาบาล]]ร่วมกับ[[พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร]]
 
เมื่อครั้งที่พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์ ทรงจัดตั้งโรงโรงพยาบาลศิริราชพยาบาล ทรงอยู่ในลำดับที่ได้รับกรมเป็นลำดับต่อจาก กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงให้เจ้ากรมพระอาลักษณ์คิดชื่อกรมไว้ว่า '''กรมหมื่นศุภกาพย์กวีการ''' แต่สิ้นพระชนม์เสียก่อนรับกรม ชื่อกรมนี้จึงสูญไป
 
เนื่องจากการทรงงานอย่างหนักในหลายหน้าที่ทั้งงานประจำและงานจร ทำให้พระพลานามัยของพระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์ทรุดลง แม้กรมหมื่นดำรงราชานุภาพและบรรดาเจ้านายที่ทรงเป็นพี่น้องด้วยกันจะเคยทูลตักเตือนว่าทรงงานเกินพระกำลัง ควรแบ่งเบางานด้านอื่นที่ไม่เกี่ยวกับกิจการของกรมพยาบาลให้ผู้อื่นทำแทน แต่พระองค์ไม่ทรงรับฟังและตั้งพระทัยจะทรงงานถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวต่อไป กระทั่งเมื่อพระอาการทรุดหนักลงและแพทย์ตรวจพบว่าพระองค์ประชวรด้วย[[วัณโรค]]เนื่องจากพระปัปผาสะ (ปอด) พิการ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์จึงเสด็จประทับรักษาพระองค์ที่โรงโรงพยาบาลศิริราชพยาบาล และตั้งพระทัยไว้ว่าหากรักษาไม่หายก็จะขอสิ้นพระชนม์ในโรงพยาบาล เพราะทรงผูกพันกับโรงโรงพยาบาลศิริราชพยาบาลมาตั้งแต่ทรงเริ่มจัดตั้ง
 
เมื่อประชวรครั้งที่จะสิ้นพระชนม์นั้นเอง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ออกพระโอษฐ์ด้วยความตกพระทัยว่า "ไม่รู้เลยว่าใช้ศรีเกินกำลัง" เป็นพยานแห่งพระเกียรติยศสูงสุดที่ได้ถวายงานสนองพระเดชพระคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว