ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อำเภอศรีเมืองใหม่"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: เพิ่มข้อความไม่เป็นวิกิขนาดใหญ่ การแก้ไขแบบเห็นภาพ
บรรทัด 27:
 
== ประวัติศาสตร์ ==
[[อำเภอศรีเมืองใหม่]] เดิมมีฐานะเป็นเมือง ชื่อ "เมืองโขงเจียม" พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2364 ช่วง พ.ศ. 2443-2445
อำเภอศรีเมืองใหม่ เดิมมีฐานะเป็นเมือง ชื่อ "เมืองโขงเจียม"  ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่ออำเภอใหม่ ใน ปี 2500 เมืองโขงเจียม เป็นอำเภอที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน  มีกลุ่มคนดังเดิม เผ่าชนพื้นเมือง เผ่าบลู ส่วย ข่า ลาว เมื่อปลายปี พ.ศ.2314 กลุ่มคนอพยพหนีจากเมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน ลงมาทางใต้โดยแยกออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเดินทางมาทางบก ได้มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอนมดแดงอันเป็นที่ตั้งของเมืองอุบลราชธานีในปัจจุบัน อีกกลุ่มหนึ่งอพยพลงมาตามลำแม่น้ำโขงมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ดอนหินตั้ง เพื่อประกอบอาชีพทำไร่ทำนา ทำสวน เดิมทีชื่อ "บ้านโขลงเจียง" โดยมี สมมุติฐานจาก ประวัติศาสตร์ลาว เขตนครจำปาศักดิ์ ในสมัยเจ้าสร้อยศรีสมุทร พุทธางกรู(เจ้าหน่อกษัตริย์) ได้แต่งตั้งให้ท้าวหลวง ซึ่งเป็นบุตรพระละงุมให้เป็นขุนนักเฒ่า ไปรักษา "บ้านโขลงเจียง" ประมาณ พ.ศ.2256 โดยทั่วไปชาวบ้านเรียกบ้านโขลงเจียงว่า บ้ามเจียมใต้ มีผู้ปกครองกี่คนในช่วงต่อมาไม่ปรากฏ ครั้นถึงสมัยของขุนนักราชมาอินทร์ผู้รักษา "บ้านโขลงเจียง" ได้กระทำความผิดฉกรรจ์ เจ้าเมืองนครจำปาศักดิ์ (โย่) จึงจับมาลงโทษปลดออก แล้วจึงมีหนังสือกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ขอตั้งท้าวมหาอินทร์บุตรขุนนักอินทวงษ์ ให้เป็นพระกำแหงสงคราม แล้วยกฐานะ "บ้านโขลงเจียง" ขึ้นเป็นเมือง "โขงเจียม" ในปี พ.ศ.2364 ขึ้นตรงต่อนครจำปาศักดิ์
* ประมาณ พ.ศ. 2446 แขวงเมืองโขงเจียม ได้ย้ายที่ทำการจากบ้านนาคอไปตั้งที่บ้านนาโพธิ์กลาง(เขตอำเภอโขงเจียม ในปัจจุบัน) โดยมีท้าวบุญธิสาร วงษ์เจียม เป็นนายแขวง
 
* ประมาณ พ.ศ. 2455 แขวงเมืองโขงเจียมใต้ ได้ย้ายจากบ้านนาโพธิ์กลาง ไปตั้งที่บ้านนาเอือด ตำบลนาคำ (อำเภอศรีเมืองใหม่ ในปัจจุบัน)
           ต่อมาในปี พ.ศ.2369 เกิดขบถอนุวงศ์แห่งนครเวียงจันทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ปราบขบถ เสร็จสิ้นแล้ว ในปี พ.ศ. 2371 จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้เมืองโขงเจียมขึ้นตรงต่อเมืองเขมราฐในคราวปรับปรุงการปกครอง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ระหว่างปี พ.ศ.2443-2445 ได้มีการลดฐานะจากเมืองโขงเจียมเป็นอำเภอโขงเจียมขึ้นกับจังหวัดอุบลราชธานี
* ประมาณ พ.ศ. 2457 แขวงเมืองโขงเจียมใต้ ได้ย้ายจากบ้านนาเอือด ไปตั้งที่บ้านด้านปากมูล ตำบลสุวรรณวารี (อำเภอโขงเจียม ในปัจจุบัน)
 
* เมืองโขงเจียม ได้ถูกลดฐานะเป็นอำเภอ จังหวัดอุบลราชธานี ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอ สุวรรณวารี ในปี พ.ศ. 2460
           ในสมัยพระกำแหงสงครามเป็นผู้ปกครองเมืองโขงเจียม ได้ไปตั้งบ้านใหม่ขึ้นอีกบ้านหนึ่งชื่อว่าบ้านเจียมเหนือ สันนิษฐานว่าเป็นบ้านนาแวง ตำบลนาแวง อำเภอเขมราฐ ในปัจจุบัน ทั้งนี้อาจสืบเนื่องมาจากการเก็บส่วย ในเขตรับผิดชอบมีอาณาเขตกว้างขวางไม่สะดวกในการเก็บส่วย พระกำแหงสงครามได้อยู่รักษาบ้านเจียมเหนือตลอด ส่วนบ้านเจียมใต้ได้มีผู้รักษาบ้านเจียมใต้สืบต่อมา พอสืบเรื่องราวได้ว่ามีชื่อดังต่อไปนี้
และเมื่อปี พ.ศ. 2500 ได้ย้ายที่ทำการจากบ้านด้านปากมูล มาตั้งที่ร่องคำหมาจอก (ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ว่าการอำเภอศรีเมืองใหม่ ในปัจจุบัน)
 
ซึ่งที่ว่าการอำเภอตั้งอยู่ที่ร่องคำหมาจอก เปลี่ยนเป็นอำเภอศรีเมืองใหม่ ส่วนที่ตั้งอำเภอเดิมเปลี่ยนนามเป็น [[กิ่งอำเภอบ้านด่าน]] และเมื่อ พ.ศ. 2502
            1. หลวงเจ้าก่ำ
ได้ยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอบ้านด่าน ต่อมาในวันที่ 25 กันยายน 2514 ทางราชการได้เปลี่ยนชื่ออำเภอโขงเจียมเป็น "อำเภอศรีเมืองใหม่" ส่วนอำเภอบ้านด่าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของอำเภอโขงเจียมตั้งแต่เดิม ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "อำเภอโขงเจียม"
 
อีกครั้งจนถึงปัจจุบัน คำว่า "ศรีเมืองใหม่" หมายถึง "ที่อยู่อาศัย (เมือง) ที่สร้างขึ้นใหม่ ที่เพรียบพร้อมด้วยความสุขความเจริญและความสง่างาม"
            2. พระคง
 
            3. อุปฮาดจันทา
 
            ต่อมาในปี พ.ศ.2444 ได้เกิดขบถผีบุญ ซึ่งขณะนั้นเจ้าอุปฮาดจันทา เป็นผู้รักษาเมืองถูกฆ่า เมื่อบ้านเมืองสงบ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ท้าวบุญธิสารวงษ์เจียม เป็นนายอำเภอคนแรกของอำเภอโขงเจียม ในปี พ.ศ.2454
 
            ในปีพ.ศ.2450 ไทยเสียดินแดนฝั่งขวาของแม่น้ำโขงให้ฝรั่งเศส ชาวบ้านที่รักความเป็นไทได้พากันอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนที่บ้านคันนกหอ ให้ชื่อว่าเมืองสุวรรณวารี โดยการนำของเจ้าอุปฮาด(คำพัน) และพระอุบลกิจประชากร ช่วงนั้นอำเภอโขงเจียมได้แบ่งการปกครองออกเป็น 3 ส่วนคือ
 
            ส่วนที่ 1. ท้าวบุญธิสาร วงษ์เจียม อยู่บ้านนาคอ มีหน้าที่เก็บส่วย 7 ตำบล คือ ตำบลสำโรง (ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี) ตำบลนาโพธิ์กลาง ตำบลหนามแท่ง ตำบลลาดควาย ตำบลสงยาง ตำบลวาริน ตำบลเอือดใหญ่ ตำบลนาคำ (รายชื่อ 5 ตำบลช่วงท้ายนี้ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอศรีเมืองใหม่)
 
            ส่วนที่ 2. พระราชพงศา อยู่ที่บ้านคำไหล บ้านจารย์ทัย หรือเมืองวารินชำราบ ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตอำเภอศรีเมืองใหม่ มีหน้าที่เก็บส่วย ตำบลวาริน และตำบลคำไหล
 
            ส่วนที่ 3. เจ้าอุปฮาด (คำพัน) อยู่ที่บ้านคันนกหอ ถูกยกฐานะเป็นเมืองสุวรรณวารี มีหน้าที่เก็บส่วย ตำบลบ้านด่าน และตำบลห้วยยาง
 
            ในปี พ.ศ.2457 ท้าวบุญธิสาร วงษ์เจียม กระทำความผิดทางราชการจึงสั่งปลดหลวงศรีอาชญาซึ่งอยู่บ้านสุวรรณวารี ได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายอำเภอโขงเจียม จากนั้นจึงได้ย้ายที่ว่าการจากบ้านนาคอ ไปตั้งที่ทำการอยู่เมืองสุวรรณวารีและเปลี่ยนชื่ออำเภอโขงเจียมว่าอำเภอสุวรรณวารี ในปีพ.ศ.2458 เกิดฟ้าผ่ากุฏิวัดบ้านสุวรรณวารี ทำให้พระมี พระพันธ์ และสามเณรศรีจันทร์ ถึงแก่มรณภาพไปพร้อมกับไฟไหม้กุฏิ ในปีเดียวกันนั้นหลวงศรีอาชญา ผู้เป็นนายอำเภอชรามากจึงได้ถึงแก่กรรม พวกชาวบ้านพากันขวัญเสียหาว่าเป็นเมืองอาถรรพ์จึงพากันอพยพหนีและเห็นว่าสถานที่ตั้งอำเภอสุวรรณวารี ที่เดิมไม่เหมาะสมจะเป็นที่ตั้งอำเภอต่อไป จึงพิจารณาเลือกเอาบ้านด่านปากมูลเป็นที่ตั้งที่ทำการอำเภอแห่งใหม่ แต่ยังคงเรียกว่า อำเภอสุวรรณวารี เช่นเดิม
 
            ในปี พ.ศ.2458 ทางราชการได้แต่งตั้งให้หลวงแกล้วกาญจนเขต (ม.ร.ว.คอย อรุณวงศ์ ณ อยุธยา) เป็นนายอำเภอสุวรรณวารี ครั้นถึง พ.ศ.2482 ทางราชการได้เปลี่ยนชื่ออำเภอสุวรรณวารีเป็นอำเภอโขงเจียม เพื่อรักษาชื่อเมืองโขงเจียมเดิมไว้
 
            มูลเหตุที่เลือกเอาบ้านด่านปากมูล เป็นที่ตั้งอำเภอเพราะบ้านด่านปากมูล ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำมูล ซึ่งไหลมาบรรจบแม่น้ำโขงอันเป็นเส้นทางคมนาคม ที่เข้าสู่จังหวัดอุบลราชธานี สะดวกแก่การตรวจตราบุคคล และสินค้าที่ผ่านเข้าออกระหว่างประเทศไทยกับประเทศลาว
 
            ในปีพ.ศ.2500 นายผล ไตรสาร ซึ่งเป็นนายอำเภอขณะนั้น ได้ย้ายที่ว่าการอำเภอโขงเจียมไปตั้งที่บ้านคำบอน (ร่องคำหมาจอก) ตำบลนาคำ  ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ว่าการอำเภอศรีเมืองใหม่ ในปัจจุบัน จัดการการปกครองเป็น 7 ตำบลคือ ตำบลนาคำ ตำบลวาริน ตำบลคำไหล ตำบลสงยาง ตำบลเอือดใหญ่ ตำบลลาดควาย และตำบลหนามแท่ง
 
            สาเหตุที่ย้ายที่ทำการอำเภอไปตั้งที่บ้านคำบอน เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าที่ตั้งอำเภอเดิมไม่ได้เป็นศูนย์กลางในการปกครองหมู่บ้าน ไม่สะดวกต่อการติดต่อประสานงานในระดับอำเภอและจังหวัด
 
ที่ว่าการอำเภอตั้งอยู่ที่ร่องคำหมาจอก อำเภอโขงเจียม แห่งใหม่ ขณะเดียวกันที่ตั้งอำเภอโขงเจียมเดิมซึ่งตั้งอยู่ ณ บ้านด่านปากมูล ทางราชการประกาศตั้งให้เป็น กิ่งอำเภอบ้านด่าน มีเขตปกครองแบ่งได้ 3 ตำบล คือ ตำบลโขงเจียม ตำบลห้วยยาง และตำบลนาโพธิ์กลาง มีนายจิตร สุวรรณไลละ ทำหน้าที่เป็นปลัดอำเภอหัวหน้ากิ่ง ต่อมาในปีพ.ศ.2502 ได้รับยกฐานะให้เป็นอำเภอบ้านด่าน มีเขตการปกครองแบ่งได้ 6 ตำบล คือ ตำบลโขงเจียม ตำบลคำเขื่อนแก้ว ตำบลหนองแสงใหญ่ ตำบลห้วยไผ่ ตำบลห้วยยาง และตำบลนาโพธิ์กลาง
 
เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ.2514 ทางราชการได้พิจารณาเห็นว่า คำว่าโขงเจียมเป็นชื่อดั้งเดิมของอำเภอบ้านด่าน เพื่อความเหมาะสม จึงได้เปลี่ยนชื่ออำเภอโขงเจียมให้เป็นอำเภอศรีเมืองใหม่ แล้วคืนชื่อโขงเจียมให้กับชาวอำเภอบ้านด่าน จึงเปลี่ยนชื่ออำเภอโขงเจียมเป็น "อำเภอศรีเมืองใหม่" ส่วนอำเภอบ้านด่าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านด่านปากมูล ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "อำเภอโขงเจียม" อีกครั้งจนถึงปัจจุบัน
 
อีกครั้งจนถึงปัจจุบัน คำว่า "ศรีเมืองใหม่" หมายถึง "ที่อยู่อาศัย (เมือง) ที่สร้างขึ้นใหม่ ที่เพรียบพร้อมเพียบพร้อมด้วยความสุขความเจริญและความสง่างาม"
 
== ภูมิศาสตร์ ==