ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อาน เซือง เวือง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Shoshui (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Shoshui (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 35:
กษัตริย์แห่งราชวงศ์ถุก พยายามขอเจ้าหญิงจาก[[ราชวงศ์ห่งบ่าง]] ซึ่งปกครองอาณาจักรวันลางแต่งงาน กษัตริย์ทุกข์ระทมเพราะเจ้าหญิงปฎิเสธ เขาจึงสาบานว่าจะทำลายล้างราชวงศ์ห่งบ่างให้ได้ แต่กลับเสียชีวิตไปก่อนโดยมิอาจได้ชำระแค้น จึงมอบภารกิจนี้ให้แก่ผู้สืบบัลลังก์ต่อไป นี่คือจุดกำเนิดของสงครามระหว่างอาณาจักรถุกกับอาณาจักรวันลาง ราชวงศ์ห่งบ่างมีชัยชนะติดต่อกันหลายปี แต่อำนาจและความสำเร็จทำให้บรรดาลูกหลานมั่นใจเกินไป เหล่าราชวงศ์ขาดความรอบคอบ ใช้ชีวิตอย่างเกียจคร้านเฉยเมย ส่วนฝ่ายศัตรูคือ ถุก ฟ้าน ได้เริ่มฝึกทหารอย่างยาวนานและเลือกช่วงเวลาอันเหมาะสมเพื่อรุกรานอาณาจักรวันลางของราชวงศ์ห่งบ่าง กษัตริย์ถุก ฟ้าน รวมสองอาณาจักรคือ ถุกและวันลางเข้าด้วยกันได้ ขึงได้ตั้งชื่ออาณาจักรใหม่ว่าเอิว หลัก และเรียกตนเองว่า อาน เซือง เวือง พระองค์ได้สร้างนครหลวง และกำแพงแน่นหนาทางด้านเหนือเพื่อป้องกันอาณาจักรจากกองโจร แต่เมื่อสร้างกำแพงเสร็จมีพายุพัดกระหน่ำ ฝนตกไหลจนน้ำเชี่ยว ลมแรงพัดโหมจนกำแพงพังโ่นเสียงสนั่นหวั่นไหว
กษัตริย์อาน เซือง เวือง ได้สร้างกำแพงขึ้นอีกสามครั้ง แต่ก็ถูกทำลายในทำนองเดียวกันทุกครั้ง ในที่สุดพระองค์ก็ได้เรียกบรรดาอำมาตย์เข้าเฝ้า อำมาตย์จึงแนะนำให้ อาจจะเป็นเพราะเทพไม่โปรดปราน และควรตั้งศาลถวายเครื่องเซ่นไหว้เพื่อขอคำแนะนำและความช่วยเหลือจากเทพเจ้า กษัตริย์ อาน เซือง เวือง จึงให้ตั้งศาลขึ้นริมฝั่งแม่น้ำนอกประตูเมืองตะวันออก มีการเซ่นสรวงโค กระบือ และสวดภาวนาหมอบกราบเพื่อขอพรจากเทพเจ้า
ในวันขึ้นเจ็ดค่ำเดือนสาม มีภูตแปลงเป็นเต่าสีทองตัวโตมาปรากฎในฝันของกษัตริย์ เต่าได้บอกวิธีสร้างกำแพงที่เหมาะสมว่า "วิญญาณเป็นผู้พังกำแพงของท่าน ซึ่งเป็นวิญญาณที่ชอบหลอกพวกมนุษย์เพื่อแสดงพลังของตน" เมื่อ อาน เซือง เวือง ตื่นเช้าวันรุ่งขึ้น พระองค์ได้จำสิ่งที่เต่าทองบอกได้หมด จึงปฎิบัติตามคำสอนทุกประการและได้สร้างกำแพงป้อมปราการใหญ่เป็นรูปหอยสังข์ ได้เรียกป้อมปราการนี้ว่า ป้อมโก๋ลวา หรือ "ป้อมหอยสังข์" และตั้งชื่อเมืองว่า เมืองโก๋ลวา หรือ นครหอยสังข์<ref>{{Cite book|url=https://books.google.co.th/books?id=XF-ICAAAQBAJ&pg=PA19&lpg=PA19&dq=%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B8%96%E0%B8%B8%E0%B8%81&source=bl&ots=8oRqFExGBA&sig=evuGxhIcFm-N4PeeiauQEGY7mRg&hl=en&sa=X&ved=0ahUKEwiMotCtjsfUAhVHtY8KHRxaAbgQ6AEINDAC#v=onepage&q&f=false|title=ตำนานและนิทานพื้นบ้านเวียดนาม|last=รศ. ดร.สุนทร โคตรบรรเทา (แปล)|first=จิตพาชื่น มุสิกานนท์|date=2014-03|publisher=Thé̂ Giới Publishersนานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์|isbn=9786160423811|language=th}}</ref>
 
[[Image:Co loa Citadel.jpg|thumb|แผนที่ของเมืองโก๋ลวา]]
อาน เซือง เวือง คือว่า กำแพงคงป้องกันสิ่งต่างๆในเมืองให้ปลอดภัยได้ แต่ก็ทราบดีว่าหากถูกศัตรูที่มีกำลังกล้าแข็งล้อมรอบก็คงไม่อาจป้องกันเมืองไว้ได้ตลอดไป เต่าสีทองทราบความกังวลของ อาน เซือง เวือง จึงปรากฎให้เห็นในความฝันอีกครั้ง "ความเจริญรุ่งเรืองหรือความเสื่อมสลายขึ้นอยู่กับเจตจำนงของสวรรค์ แต่สวรรค์จะช่วยผู้ที่เหมาะสม บัดนี้ท่านได้แสดงให้เห็นแล้วว่าไว้ใจข้ามาก ข้าจะทำของขวัญจากเล็บของข้ามอบให้ ท่านจงนำไปใช้เป็นหน้าไกของหน้าไม้ มันจะช่วยขับวิญญาณชั่วร้ายออกไปและปราบได้ทั้งกองทัพ แต่ท่านต้องไม่ลืมว่าความมั่นคงของอาณาจักรขึ้นอยู่กับความระมัดระวังของท่านเองด้วย เต่าดึงเล็บข้างหนึ่งออกมามอบให้ อาน เซือง เวือง แล้วกลับคืนลงสู่แม่น้ำ" อาน เซือง เวือง พอใจมากเมื่อตื่นมาพบเล็บวิเศษในมือ จึงสั่งให้ช่างอาวุธทำหน้าไม้ล้ำค่าซึ่งใช้เล็บวิเศษเป็นไกและกล่องผลึกงดงามไว้สำหรับบรรจุลูกศร อาน เซือง เวือง รำลึกถึงพระคุณของเต่าเสมอ พระองค์เชื่อมั่นว่าอาณาจักรของพระองค์จะมีสันติภาพและสงบเรียบร้อยเป็นเวลาหลายปี<ref>{{Cite book|url=https://books.google.co.th/books?id=XF-ICAAAQBAJ&pg=PA19&lpg=PA19&dq=%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B8%96%E0%B8%B8%E0%B8%81&source=bl&ots=8oRqFExGBA&sig=evuGxhIcFm-N4PeeiauQEGY7mRg&hl=en&sa=X&ved=0ahUKEwiMotCtjsfUAhVHtY8KHRxaAbgQ6AEINDAC#v=onepage&q&f=false|title=ตำนานและนิทานพื้นบ้านเวียดนาม|last=รศ. ดร.สุนทร โคตรบรรเทา (แปล)|first=จิตพาชื่น มุสิกานนท์|date=2014-03|publisher=Thé̂ Giới Publishersนานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์|isbn=9786160423811|language=th}}</ref>
 
ในเวลานั้นประเทศจีนอยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิ[[จิ๋นซีฮ่องเต้]] แห่ง[[ราชวงศ์ฉิน]] ซึ่งจิ๋นซีฮ่องเต้ได้ปราบปรามอาณาจักรรอบๆมาเป็นเมืองขึ้นได้ทั้งหมดและยกกองทัพมาถึง[[ทะเลจีนใต้]] ในปีเดียวกันกับที่ อาน เซือง เวือง เริ่มสร้างกำแพง จิ๋นซีฮ่องเต้ส่งไพร่พลและทัพม้าขนาดใหญ่ลงมาจากจีนตอนใต้พื่อรุกรานอาณาจักรเอิวหลัก แต่ก็พ่ายแพ้หลายต่อหลายครั้ง และในที่สุดก็ถูกทำลายด้วยธนูวิเศษก่อนที่จะยกทัพมาประชิดพระนครโก๋ลวา สามปีต่อมา จิ๋นซีฮ่องเต้ได้ส่งกองทหารห้าแสนนาย นำโดยนายพล[[เจี่ยวด่า]] ทำให้ภาคเหนือของอาณาจักรเอิวหลักตกอยู่ในมือของจีนอย่างง่ายดาย กองทหารจีนยกมาเป็นสามขบวนคือ พลม้า พลเท้า พลเรือ กองทัพนั้นยกมาพร้อมธงปลิวไสวในอากาศ เสียงอาวุธกระทบกันดังสนั่นหวั่นไหว นายพลเจี่ยวด่าสั่งให้ยกทัพไปตั้งบนภูเขา ให้กองเรือเทียบรอในแม่น้ำ ปิดล้อมพระนครไว้ กษัตริย์อาน เซือง เวือง เฝ้าสังเกตุการณ์อย่างสุขุมจากหน้าต่างของป้อมปราการ ขณะที่กองทหารทั้งสามขบวนหลั่งไหลเข้าล้อมพระนครโก๋ลวา พระองค์กลับปล่อยให้กองทัพจีนเข้ามาโดยไม่ยกทัพออกไปต้านและไม่สั่งให้เตรียมกำลังป้องกันพระนครแต่อย่างใด เมื่อทหารรายงานว่า ทหารจีนมากันมืดฟ้ามัวดิน พระองค์กลับกล่าวอย่างพอใจว่า "พวกเขาคงจะลืมหน้าไม้วิเศษของข้าแล้วกระมัง" แล้วพระองค์ก็เล่นหมากรุกต่อโดยไม่แยแส เมื่อข้าศึกมาประชิดประตูเมืองโก๋ลวา อาน เซือง เวือง ยืนขึ้นไปหยิบหน้าไม้ แต่หลังจากยิงครั้งแรก ก็ยิงไม่ออก เมื่อยิงอีก ข้าศึกก็ยังคงหลั่งไหลเหมือนกระแสน้ำบ่าท่วมเข้ามา<ref>{{Cite book|url=https://books.google.co.th/books?id=XF-ICAAAQBAJ&pg=PA19&lpg=PA19&dq=%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B8%96%E0%B8%B8%E0%B8%81&source=bl&ots=8oRqFExGBA&sig=evuGxhIcFm-N4PeeiauQEGY7mRg&hl=en&sa=X&ved=0ahUKEwiMotCtjsfUAhVHtY8KHRxaAbgQ6AEINDAC#v=onepage&q&f=false|title=ตำนานและนิทานพื้นบ้านเวียดนาม|last=รศ. ดร.สุนทร โคตรบรรเทา (แปล)|first=จิตพาชื่น มุสิกานนท์|date=2014-03|publisher=Thé̂ Giới Publishersนานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์|isbn=9786160423811|language=th}}</ref>
 
อาน เซือง เวือง ตัดสินใจหลบหนี เขาแทบไม่มีเวลาเตรียมม้าจึงให้เจ้าหญิงหมิเจิวประทับนั่งซ้อนหลัง ทั้งสองควบม้าไปอย่างรวดเร็วสู่ทิศใต้ ทิ้งเมืองหลวงและอาณาจักรไว้เบื้องหลัง อาน เซือง เวือง ควบม้าผ่านทุ่งนาและหนองบึงหลายแห่ง เมื่อถึงทางแยก เจ้าหญิงหมีเจิว ได้โปรยขนห่านเพื่อให้จ่องถวีตามมาถูก ส่วนที่พพระราชวัง จ่องถวีพบว่ากษัตริย์กับเจ้าหญิงหลบหนีไปแล้วจึงออกติดตามทันที และได้ตามรอยขนห่านที่เจ้าหญิงโปรยไว้เป็นเครื่องนำทาง ม้าของอาน เซือง เวือง วิ่งต่อไปเรื่อยๆพาทั้งสองไกลไปจนถึงทะเลกว้างใหญ่ ที่นั่นไม่มีเรือแม้แต่ลำเดียวและไม่มีวิธีอื่นที่จะข้ามน้ำได้ อาน เซือง เวืองแหงนหน้าขึ้นท้องฟ้าและร้องออกมาด้วยความสิ้นหวัง ทันใดนั้นเต่าสีทองก็โผล่หัวขึ้นมาจากใต้ทะเลสีครามแล้วร้องขึ้นด้วยเสียงอันทางพลังว่า "จงระวังศัตรูทรยศที่นั่งอยู่หลังพระองค์" อาน เซือง เวืองหันไปจับจ้องเจ้าหญิง หมิเจิว เจ้าหญิง หมิเจิวตัวสั่นเทิ้มน้ำตาไหลพราก อาน เซือง เวืองจึงชักดาบออกมาตัดศรีษะของเจ้าหญิงทันที อาน เซือง เวืองหวดกลัวและละอายในการกระทำของพระองค์ จึงกระโดดลงทะเลตามเต่าสีทองหายไป เมื่อจ่องถวีตามมาถึงพบร่างของเจ้าหญิงหมิเจิว จึงร้องไห้เสียใจเป็นอันมากและนำร่างของเจ้าหญิงกลับไปยังพระนครเพื่อทำพิธีฝัง<ref>{{Cite book|url=https://books.google.co.th/books?id=XF-ICAAAQBAJ&pg=PA19&lpg=PA19&dq=%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B8%96%E0%B8%B8%E0%B8%81&source=bl&ots=8oRqFExGBA&sig=evuGxhIcFm-N4PeeiauQEGY7mRg&hl=en&sa=X&ved=0ahUKEwiMotCtjsfUAhVHtY8KHRxaAbgQ6AEINDAC#v=onepage&q&f=false|title=ตำนานและนิทานพื้นบ้านเวียดนาม|last=รศ. ดร.สุนทร โคตรบรรเทา (แปล)|first=จิตพาชื่น มุสิกานนท์|date=2014-03|publisher=Thé̂ Giới Publishersนานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์|isbn=9786160423811|language=th}}</ref>
 
{{ประวัติศาสตร์เวียดนาม}}
 
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
=== สื่อวิดิโอ ===