ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บราซิลเลียนยิวยิตสู"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
บรรทัด 1:
[[ไฟล์:GABRIEL VELLA vs ROMINHO 51.jpg|thumb|250px|บราซิลเลี่ยน ยูยิสสู]]
[[ไฟล์:Kyragracie1.jpg|thumb|250px|[[คีรา กราซี]] หนึ่งในผู้หญิงเพียงไม่กี่คนของตระกูลกราซี ที่ได้รับสายดำ]]
'''บราซิลเลี่ยน ยูยิสสู''' ({{lang-en|Brazillian Jiu-jitsu}}) เป็นศิลปะการต่อสู้สมัยใหม่ซึ่งมีลักษณะเด่นในการต่อสู้จับล็อคล็อกบนพื้น แต่ก็มีจุดเด่นทั้งการทุ่มและการควบคุมคู่ต่อสู้จากทางด้านบน คล้ายกับการเอากีฬายูโดมาผสมกับมวยปล้ำแล้วมีการฝึกท่าจับล็อคล็อกบนพื้นเข้าไปนั่นเอง
 
วิชาBrazilian jiujitsu ถือว่าเป็นพื้นฐานของกีฬาต่อสู้ผสมผสาน Mixed Martial Arts(เรียกสั้นๆว่าMMA คือกีฬาต่อสู้ที่สู้กันโดยใช้เทคนิคอะไรก็ได้ขอเพียงให้ฝ่ายตรงข้ามยอมแพ้หรือสลบไป) ซึ่งจะพบว่านักสู้มีชื่อเสียงอย่างในรายการMMA ชื่อดัง UFCนั้นจะต้องผ่านการฝึก Brazilian jiujitsu มาแล้วทั้งสิ้น
 
== Brazilian jiujitsu คืออะไร ==
Brazilian jiujitsu คือศิลปะการต่อสู้ที่เน้นในการจับล็อคล็อกโดยเกิดได้ทั้งจากยืนหรือมักจะพบเห็นที่ไปเล่นบนภาคพื้น โดยหลักของศิลปะการต่อสู้นี้คือการทำให้ลงศัตรูลงไปต่อสู้บนground game โดยอาจจะทำให้อีกฝ่ายล้มโดยการทุ่ม หรือ ลงไปเล่นposition guard ซึ่งเป็นposition ที่มีเอกลักษณ์มากของกีฬานี้ โดยจุดมุ่งหมายของการต่อสุ้คือพยายามทำsubmissionให้อีกฝ่ายตบเบาะยอมแพ้จากการรัดคอ,หักข้อต่อต่างๆในร่างกาย(หากไม่ยอมแพ้ก็คือตายหรือไม่ก็แขนขาหัก) ท่าที่มีชื่อเสียงก็คือ Triangle choke , Arm-bar , Guillotine ,Omoplata นอกจากsubmissionแล้วนั้นก็ยังมีการทำให้ตนไปอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบเรียกsweep เช่นไปขึ้นคล่อมตัวศัตรู หรือไปอยู่ข้างหลังเตรียมรัดคอศัตรู
 
โดยBrazilian jiujitsu นั้นแบ่งเป็นได้2แบบคือ 1.Gi คือการใส่ชุดเล่น ซึ่งชุดกิโมโนที่ใส่นั้นจะมีลักษณะคล้ายชุดยูโด 2.no-GI คือการเล่นแบบใส่ชุดอะไรเล่นก็ได้โดยอาจจะมีการเพิ่มกฎที่อันตรายเพิ่มขึ้นมา เช่นหักขา
บรรทัด 26:
 
== เสน่ของกีฬา ==
เสน่ห์ของ BJJ อีกอย่างคือ ผู้เล่น จะใช้ความเข้าใจในสรีระสัดส่วนของร่างกาย เน้นการเคลื่อนไหวบนพื้น ใช้หลักคานดีดคานงัด เล่นกับการทรงตัวของคู่ต่อสู้ เพื่อนำมาซึ่งการล็อคล็อกที่สมบูรณ์แบบ อีกทั้งเวลาเล่นยังต้องเล่นไปคิดไป คล้ายกับการเล่นหมากรุกโดยใช้ร่างกายตัวเองเป็นหมากในการต่อสู้ ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีความแข็งแรง และมีไหวพริบที่พร้อมจะรับมือกับสถานการณ์ป้องกันตัวแบบจริงจังมากที่สุด
 
BJJ ยังมีระบบการฝึกซ้อมที่ปลอดภัย เกิดการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมต่ำ (ยิมที่มีผู้ฝึกสอนตามมาตรฐาน BJJ) เวลาเข้าคู่ซ้อม (sparring) สามารถใช้แรงได้เต็มที่ แม้อายุมากแล้วก็ยังเล่นได้ หน่วยทหาร ตำรวจในต่างประเทศก็นิยมเรียนรู้ศาสตร์ชนิดนี้เนื่องจากประโยชน์ของมันนั่นเอง
 
ในแง่ของการป้องกันตัว หลายคนอาจจะมองว่าการลงไปปล้ำล็อคล็อกบนพื้น อาจจะทำให้เสียเปรียบคู่ต่อสู้จำนวนมาก ซึ่งนั่นก็ถูก เพราะถือเป็นจุดอ่อนของตัววิชา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนในการป้องกันตัว ถ้ามีจำนวนน้อยกว่าก็ย่อมเสียเปรียบอยู่แล้ว ยังไม่รวมถึงการนำเครื่องทุ่นแรงต่างๆมาใช้เป็นอาวุธอีกด้วย
 
นอกจากนั้นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ส่วนใหญ่ก็มักจะเรียนรู้ การต่อสู้ในมิติต่างๆมากกว่าหนึ่งอย่างอยู่แล้ว แต่ถ้ามองถึงข้อดี กลับมีมากกว่าไม่ว่าจะเป็น การป้องกันตัวของสุภาพสตรี ในลักษณะโดนข่มขืน หรือผู้ชายตัวเล็กที่อยู่ในสถานการณ์คับขัน รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ ที่จำเป็นต้องควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยโดยให้อยู่ในสภาพบาดเจ็บน้อยที่สุดด้วย