ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บาดทะยัก"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล ย้อนการแก้ไขที่อาจเป็นการทดลอง หรือก่อกวนด้วยบอต ไม่ควรย้อน? แจ้งที่นี่ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 13:
| DiseasesDB = 2829
}}
'''บาดทะยัก'''เป็น[[โรคติดเชื้อ]]อย่างหนึ่ง ผู้ป่วยจะมีอาการเด่นคืออาการ[[Spasm|กล้ามเนื้อเกร็ง]] ส่วนใหญ่การเกร็งจะเริ่มต้นที่กล้ามเนื้อกรามจากนั้นจึงลุกลามไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ การเกร็งแต่ละครั้งมักเป็นอยู่ไม่กี่นาที และเกิดขึ้นซ้ำๆ เป็นเวลา 3-4 สัปดาห์ การเกร็งอาจมีความรุนแรงมากจนทำให้[[กระดูกหัก]]ได้ อาการอื่นที่อาจพบร่วมได้แก่ [[ไข้]] [[เหงื่อออก]] [[ปวดศีรษะ]] [[Dysphagia|กลืนลำบาก]] [[ความดันเลือดสูง]] และ[[หัวใจเต้นเร็ว]] ผู้ป่วยส่วนใหญ่เริ่มมีอาการหลังจากติดเชื้อเป็นเวลา 3-21 วัน การรักษาอาจใช้เวลาหลายเดือน ผู้ป่วยประมาณ 10% จะเสียชีวิต
บาดทะยักเกิดจากการติดเชื้อ[[แบคทีเรีย]] ''[[Clostridium tetani]]'' ซึ่งพบได้ในดิน น้ำลาย ฝุ่น และปุ๋ยมูลสัตว์ เชื้อมักเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลเช่นแผลบาดหรือแผลตำที่เกิดจากวัตถุที่ปนเปื้อนเชื้อ เชื้อเหล่านี้ผลิต[[Tetanospasmin|สารพิษ]]ที่รบกวนกระบวนการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้มีอาการดังกล่าวข้างต้น การวินิจฉัยทำได้โดยการดูจากอาการและอาการแสดง โรคนี้ไม่ติดต่อจากคนสู่คน
การป้องกันการติดเชื้อทำได้โดย[[Immunization|การเสริมภูมิคุ้มกัน]]ด้วยการให้[[วัคซีนบาดทะยัก]] ผู้ที่มีบาดแผลที่เข้าข่ายจะติดเชื้อและได้รับวัคซีนมาไม่ถึง 3 ครั้ง ควรได้รับทั้งวัคซีนบาดทะยักและ[[Anti-tetanus immunoglobulin|ภูมิคุ้มกันบาดทะยักในรูปแบบของอิมมูโนกลอบูลิน]] ควรได้รับการล้างแผลและนำเอาเนื้อตายออก ผู้ป่วยที่มีอาการควรได้รับการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบาดทะยักแบบอิมมูโนกลอบูลิน หรืออาจ[[Immunoglobulin therapy|รักษาด้วยอิมมูโนกลอบูลินแบบรวม]]ได้ [[Muscle relaxant|ยาคลายกล้ามเนื้อ]]อาจช่วยควบคุมอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ และหากผู้ป่วยมีปัญหาของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจร่วมด้วยอาจต้องใช้[[การช่วยหายใจ]]ผ่านเครื่องช่วยหายใจ
บาดทะยักเป็นโรคที่พบได้ทั่วโลกแต่มักพบบ่อยในพื้นที่ที่มีภูมิอากาศแบบร้อนชื้นซึ่งมีดินและสารอินทรีย์อยู่มาก ในปี พ.ศ. 2558 มีรายงานว่ามีผู้ป่วยบาดทะยักประมาณ 209,000 คนและเสียชีวิตประมาณ 59,000 คนทั่วโลก ซึ่งลดลงเป็นอย่างมากจากจำนวนผู้เสียชีวิต 356,000 คน ในปี พ.ศ. 2533 มีการบรรยายถึงโรคนี้เอาไว้เก่าแก่ตั้งแต่สมัยแพทย์กรีกชื่อ[[ฮิปโปกราเตส]]เมื่อ 500 ปีก่อนคริสตกาล สาเหตุของโรคถูกค้นพบเมื่อ พ.ศ. 2427 โดย Antonio Carle และ Giorgio Rattone แห่งมหาวิทยาลัยทูริน ส่วนวัคซีนถูกผลิตขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2467
= ความเกี่ยวข้องกับสนิมเหล็ก =
|