ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ป้ายทะเบียนรถ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
PolaX3 (คุย | ส่วนร่วม)
สมัยนั้นเขียนว่า พระราชบัญญัติรถยนตร์ อาจจะมีบอตมาแก้เป็นรถยนต์นะครับ
บรรทัด 26:
# ป้ายเขียวอักษรขาว คือ ป้ายทะเบียนรถยนต์บริการธุรกิจ รถยนต์บริการทัศนาจร และรถยนต์บริการให้เช่า
# ป้ายแสดอักษรดำ คือ ป้ายทะเบียนรถพ่วง รถบดถนน รถแทรกเตอร์ และรถใช้งานเกษตรกรรม
# ป้ายขาวอักษรดำ หมวดอักษร TC กรุงเทพมหานคร คือ ป้ายทะเบียนรถทดสอบก่อนผลิต เริ่มมีใช้ใน พ.ศ. 2560<ref name=TCplates">[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/092/6.PDF ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อ งกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต การอนุญาต และระยะเวลาในการใช้รถ และเครื่องหมายแสดงการใช้รถที่ใช้เพื่อการทดสอบ พ.ศ. ๒๕๖๐]</ref> (โดยปกติจะเป็นหมวดอักษรที่เป็นอักษรไทย)
# ป้ายขาวอักษรดำ หมวดอักษร QC กรุงเทพมหานคร คือ ป้ายทะเบียนรถทดสอบคุณภาพ เริ่มมีใช้ใน พ.ศ. 2560<ref name=TCplates" />
# ป้ายทะเบียนที่บริเวณชื่อจังหวัดเป็นคำว่า THAILAND ตัวพิมพ์ใหญ่ ตามด้วยเลขรหัสจังหวัดสองหลัก และหมวดอักษรของทะเบียนเป็นอักษรอังกฤษ และ/หรือ ตัวเลข หมายถึงแผ่นป้ายทะเบียนรถที่กรมการขนส่งทางบกออกให้เป็นการชั่วคราวเพื่อนำรถออกไปใช้นอกราชอาณาจักร
 
สำหรับป้ายทะเบียนรถอีกประเภทหนึ่งคือป้ายทะเบียน[[กราฟิก]] ซึ่งมีขึ้นภายหลังป้ายทะเบียนแบบปกติ ป้ายทะเบียนนี้จะมีพื้นหลังเป็นรูปภาพ สำหรับเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ (เลขสวย) เช่น ฌร 9999 ซึ่งเลขทะเบียนเหล่านี้จะถูกเปิดประมูลโดย[[กรมการขนส่งทางบก]] ป้ายทะเบียนชนิดนี้จะมีภาพพื้นหลังป้าย ที่สื่อถึงจังหวัดนั้นๆ เช่น [[กรุงเทพมหานคร]] จะมีรูป[[วัดพระแก้ว]] [[อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย]] [[สะพานพระราม 8]] เป็นพื้นหลัง เป็นต้น ปัจจุบันในช่วงแรกมีการเปิดประมูลป้ายทะเบียนกราฟิกเฉพาะที่เป็นทะเบียนของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง เท่านั้น <ref>http://www.dailynews.co.th/businesss/157279</ref> แต่ต่อมาได้เปิดประมูลป้ายทะเบียนเลขสวยของรถตู้และรถกระบะเพิ่มด้วย แต่จะเป็นภาพพื้นหลังป้ายที่เหมือนกันหมดทั้งประเทศ โดยมีโทนสีเช่นเดียวกับสีและตัวอักษรของทะเบียนปกติ คือขาวฟ้าและขาวเขียวตามลำดับ ไม่ได้ใช้ภาพพื้นหลังป้ายตามแบบของจังหวัดต่างๆแต่อย่างใด
 
เดือนสิงหาคม 2557 ได้เริ่มมีการประมูลป้ายรถตู้ พื้นขาว อักษรฟ้า หมวด ฮล เฉพาะจังหวัดกรุงเทพมหานคร ในครั้งนั้นได้เงินไปจำนวน 25,273,969.- บาท<ref>http://www.tabienrod.com/?cat=8</ref>
 
ป้ายทะเบียนรถเกิดข้นขึ้นพร้อมกับกฎหมายว่าด้วย รถยนต์ฉบับแรก คือ พระราชบัญญัติรถยน์โกสินทร์รถยนตร์ รัตนโกสินทร์ศก. 128 (พ.ศ. 2452) ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมี เจตนารมณ์เพื่อต้องการควบคุมรถและทราบว่าใครเป็น เจ้าของรถ และเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษี
 
ถึงแม้ว่าจะมีป้ายทะเบียนรถเกิดข้นขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลท่ที่ 5 แต่ตาม หลักฐานได้มีการออกกฎหมายของกระทรวงคร้งแรกเริ่มครั้งแรกเริ่ม มีป้ายทะเบียนรถตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 โดยรูปแบบเป็นแบบ กท.เรียงดิ่ง มีหมวดตัวอักษรและตัวเลขอยู่ในแผ่นป้าย ขนาดมาตรฐานกว้าง 11 ซม. ยาว 39 ซม. พื้นหลังเป็นสีดำ
 
ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 มีการเปลี่ยนจากรูปแบบ กท. เรียง ดิ่งเป็นแบบเรียงตามแนวนอน มีการเปลี่ยนขนาดแผ่นป้าย เป็นกว้าง 15 ซม. ยาว 30 ซ ม . และพื้นหลังเป็นสีขาว
 
ในปี พ.ศ. 2526 กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการเปลี่ยนจาก ตราโล่ เป็นตัวย่อ ขส อย่างงที่เราเห็นกันในปัจจุบัน และไดมีการเปลี่ยนงานรับผิดชอบดูแลป้ายทะเบียนรถจาก กระทรวงมหาดไทยมาเป็นของกระทรวงคมนาคม ในปี พ.ศ. 2531 ซึ่งรูปแบบทะเบียนรถยังคงเหมือนเดิมทุกประการ
ซึ่งรูปแบบทะเบียนรถยังคงเหมือนเดิมทุกประการ
 
การเปลี่ยนแปลงคร้งสำคัญครั้งสำคัญ เร่มข้นเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 โดยมีการเพิ่มตัวอักษรเป็น 2 ตัว เช่น กก - 9999 รวมทั้งเปลี่ยนขนาดแผ่นป้ายให้ยาวข้นขึ้น จากขนาด ยาว 30 ซม. เป็นยาว 34 ซม. เนื่องจากมีการเพิ่มตัวอักษร ข้นขึ้นมาอีก 1 ตัว ต่อมามีการแก้ไขชื่อจังหวัด จากชื่อเต็ม เช่น กรุงเทพมหานคร เป็น กทม / จังหวัดเชียงใหม่ เป็น ชม ในปี พ.ศ. 2540 แต่ใช้ได้เพียง 1 ปี ก็ต้องกลับมาใช้ชื่อจังหวัดแบบเดิม เนื่องจากมีปัญหาในด้านการมองเห็น เช่น ตัวอักษรตัวเล็กไปบ้าง มองเห็นไม่ชัดบ้าง และบางทีไม่ทราบว่าตัวอักษรย่อนั้นเป็นตัวย่อของจังหวัดใด
 
ต่อมามีการแก้ไขชื่อจังหวัด จากช่อเต็ม เช่น กรุงเทพมหานคร เป็น กทม / จังหวัดเชียงใหม่ เป็น ชม ในปี พ.ศ. 2540
แต่ใช้ได้พียง 1 ปี ก็ต้องกลับมาใช้ชื่ออจังหวัดแบบเดิม เนื่องจากมีปัญหาในด้านการมองเห็น เช่น ตัวอักษรตัวเล็กไปบ้าง มองเห็นไม่ชัดบ้าง และบางทีไม่ ทราบว่า ตัวอักษรย่อนั้น เป็นตัวย่อ ของจังหวัดใด
 
=== ประเทศลาว ===