ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
แก้ไขหลักสุตร
ป้ายระบุ: ผู้ใช้ใหม่เพิ่มลิงก์ไปยังเว็บอื่น การแก้ไขแบบเห็นภาพ
→‎ประวัติ: เพิ่มเติมประวัติให้ชัดเจนขึ้น
บรรทัด 5:
| ภาพ = [[ไฟล์:Logo CMU.jpg|190px]]
| วันที่ก่อตั้ง = 25 มีนาคม 2549
| คณบดี = ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พรชัย วิสุทธิศักดิ์
| คณบดี = [http://www.law.cmu.ac.th/law2011/personnel.php?action=profile&p=teacher&id=UA06 ผศ.ชาตรี เรืองเดชณรงค์]
| สีประจำคณะ = {{color box|#9e76b5}} สีม่วงเม็ดมะปราง
| สัญลักษณ์คณะ = ตราชู
บรรทัด 11:
| เว็บ = [http://www.law.cmu.ac.th/ www.law.cmu.ac.th]
}}
'''คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่''' (อังกฤษ: [[คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่|Faculty of Law]], [[มหาวิทยาลัยเชียงใหม่|'''Chiang Mai University''']]) เป็นคณะใน[[มหาวิทยาลัยเชียงใหม่]]ลำดับที่ 20 (เรียงตามรหัส) โดยสภามหาวิทยาลัยอนุมัติให้ฐานะเป็น '''"[[คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่|คณะนิติศาสตร์]]"''' เมื่อวันที่ '''25 มีนาคม พ.ศ. 2549''' โดยได้รับฐานะเป็นคณะในปีเดียวกับ[[คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่|คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์]] ถือเป็นคณะล่าสุดในมหาวิทยาลัย
 
== ประวัติ ==
'''สาขาวิชานิติศาสตร์''' ได้รับการก่อตั้งขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2508 สังกัดอยู่ในภาควิชา[[คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่|รัฐศาสตร์]] [[คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่|คณะสังคมศาสตร์]] เป็นการแบ่งส่วนราชการตามระเบียบบริหารราชการของ[[มหาวิทยาลัยเชียงใหม่]] โดยเปิดสอนกระบวนวิชากฎหมายต่าง ๆ จำนวนไม่น้อยกว่า 24 กระบวนวิชาเอกส่วนหนึ่งของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต และนอกจากนั้นยังเป็นวิชาบังคับพื้นฐานวิชาโท และวิชาเลือกเสรีสำหรับนักศึกษาทั้ง[[มหาวิทยาลัยเชียงใหม่]]อีกด้วย
 
คณะนิติศาสตร์ จัดตั้งขึ้นตามมติสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ครั้งที่ 2/2549 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2549 เป็นคณะลำดับที่ 20 ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๑๒ ง เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2551 โดยมีความเป็นมาโดยสังเขป ดังนี้
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2535 สาขาวิชานิติศาสตร์ได้รับอนุมัติหลักสูตรจากสภามหาวิทยาลัยให้เปิดสอนหลักสูตร'''นิติศาสตรบัณฑิต (น.บ.)''' เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2534 ตามแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษาระยะที่ 7 (พ.ศ. 2535 – 2539) ซึ่งต่อมา เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2539 เนติบัณฑิตยสภาได้รับรองมาตรฐานการศึกษาให้บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาจากสาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สามารถสมัครเป็นสมาชิกประเภทวิสามัญของเนติบัณฑิตยสภาได้ ก่อนที่สภามหาวิทยาลัยจะอนุมัติให้ฐานะ'''เป็น[[คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่|คณะนิติศาสตร์]] เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2549''' ซึ่งปัจจุบันคณะนิติศาสตร์มีคณาจารย์ ซึ่งล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ พร้อมให้ความรู้แก่นักศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังได้ผลิตผลงานทางวิชาการออกมาสู่สาธารณะอย่างต่อเนื่อง
 
'''พ.ศ.2508''' เริ่มจัดการเรียนการสอนในฐานะสาขาวิชานิติศาสตร์ ซึ่งเป็นหน่วยจัดการศึกษาสังกัดภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ โดยเปิดสอนวิชากฎหมายเป็นวิชาเอกสำหรับนักศึกษาภาควิชารัฐศาสตร์ วิชาบังคับพื้นฐานวิชาโทและเลือกสำหรับนักศึกษาทุกหลักสูตรของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
นอกจากนี้ ตามแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษาระยะที่ 9 สาขาวิชานิติศาสตร์ ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์ก ที่บัฟฟาโล (State University of New York at Buffalo หรือ UB) เปิดสอนหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต (น.ม.) ในปีการศึกษา 2547 เป็นปีแรกแล้ว<br />
 
'''พ.ศ.2535''' เปิดสอนหลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิต โดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐในส่วนภูมิภาคแห่งแรกที่เปิดเรียนการสอนหลักสูตรดังกล่าว อนึ่ง เพื่อเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษาตามแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษาระยะที่๗ (ปีงบประมาณ ๒๕๓๕-๒๕๓๙)
 
'''พ.ศ.2538''' ดำเนินการจัดตั้งโครงการเพื่อให้บริการวิชาการแก่ชุมชน ภายใต้ชื่อ “โครงการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่ประชาชน”ซึ่งได้ดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน
 
'''พ.ศ.2539''' เริ่มโครงการยกระดับหน่วยจัดการศึกษาหลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิต จากสาขาวิชาขึ้นเป็นภาควิชา ตามแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษาระยะที่ 8 (ปีงบประมาณ 2540-2544)โดยได้ใช้อาคาร 2 ของคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นที่ตั้งสำนักงานโครงการจัดตั้งภาควิชานิติศาสตร์ และได้รับความเห็นชอบจากทบวงมหาวิทยาลัยแต่โครงการดังกล่าวได้ถูกชะลอไว้ตามมติคณะรัฐมนตรี เนื่องจากฐานะการเงิน การคลังและภาวะเศรษฐกิจของประเทศใน พ.ศ.2540 และแม้ว่าสาขาวิชานิติศาสตร์จะมีฐานะเพียงหน่วยจัดการศึกษาก็ตาม แต่ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับสภาวะที่เกิดขึ้น
 
ต่อมา เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2539 [[เนติบัณฑิตยสภา ในพระบรมราชูปถัมภ์|เนติบัณฑิตยสภา]]ได้รับรองมาตรฐานการศึกษาให้บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาจากสาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สามารถสมัครเป็นสมาชิกประเภทวิสามัญของเนติบัณฑิตยสภาได้
 
'''พ.ศ.2542''' ได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษาจากเนติบัณฑิตยสภา ส่งผลให้บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาจากสาขานิติศาสตร์ สามารถสมัครเป็นสมาชิกประเภทวิสามัญของเนติบัณฑิตยสภาได้
 
'''พ.ศ.2546''' ทำการปรับปรุงหลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิตเพื่อสนองต่อความต้องการของสังคม หน่วยงานและองค์กรที่ต้องการบุคลากรทางกฎหมาย และเพิ่มโอกาสในการศึกษาแก่บุคคลที่ต้องการศึกษากฎหมายหลังจากการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาอื่น
 
'''พ.ศ.2547''' เปิดสอนปริญญาโท หลักสูตรนิติศาสตร์มหาบัณฑิต เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม ซึ่งก่อให้ความสนใจในสาขาวิชานิติศาสตร์เป็นอันมาก จึงเปิดหลักสูตรเพื่อเป็นการเสนอทางเลือกให้แก่ผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
 
'''พ.ศ.2549''' สภามหาวิทยาลัยจะอนุมัติให้ฐานะ'''เป็น[[คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่|คณะนิติศาสตร์]] เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2549''' สถาปนาคณะนิติศาสตร์ เพื่อให้การบริหารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คล่องตัว และสามารถพึ่งพาตัวเองได้ สอดคล้องกับการที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ปรับเปลี่ยนสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ โดยยังคงใช้อาคาร 2 คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นที่ตั้ง คณะนิติศาสตร์
 
'''พ.ศ.2555''' จัดพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารเรียนและบริหาร คณะนิติศาสตร์ โดยพระเทพวิสุทธิคุณ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดบุปผาราม เป็นประธานในพิธีลงเสาเอก พร้อมด้วย รองอธิการบดี ผู้ช่วยอธิการบดี คณะผู้บริหาร คณาจารย์ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ บุคคลากร และนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าร่วมในพิธี เมื่อวันเสาร์ ที่ 2 มิถุนายน 2555
 
'''พ.ศ.2557''' อาคารเรียนและบริหาร คณะนิติศาสตร์ ดำเนินการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์และคณะนิติศาสตร์ได้ย้ายสำนักงาน มาเมื่อ เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๗ และเริ่มการเรียนการสอน ณ อาคารเรียนและบริหารเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๘
 
นอกจากนี้ ตามแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษาระยะที่ 9 สาขาวิชานิติศาสตร์ ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์ก ที่บัฟฟาโล (State University of New York at Buffalo หรือ UB) เปิดสอนหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต (น.ม.) ในปีการศึกษา 2547 เป็นปีแรกแล้ว โดยความร่วมมือกับ State University of New York at Buffalo หรือ UB จึงได้จัดทำหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิตที่มีทั้งองค์ประกอบด้านความรู้ทาง นิติศาสตร์ที่จำเป็นต่อการประกอบวิชาชีพกฎหมาย และองค์ประกอบด้านการศึกษาปัญหากฎหมายกับสังคม เพื่อให้ได้บัณฑิตที่มีคุณภาพ มีทัศนะที่กว้าง และมีความพร้อมที่จะออกไปรับใช้สังคม ทั้งนี้ อาจารย์จาก UB ซึ่งเป็นแกนหลักของกลุ่มนักกฎหมาย “Law and Society” จะมาช่วยสอนในบางกระบวนวิชารวมทั้งกระบวนวิชาระเบียบวิธีวิจัยทางกฎหมาย และจะร่วมควบคุมวิทยานิพนธ์และงานค้นคว้าอิสระของนักศึกษาร่วมกับอาจารย์ สาขาวิชานิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นอกจากนี้ ยังได้กำหนดทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับนักศึกษาที่มีความพร้อมด้านภาษาและงบ ประมาณ ให้สามารถที่จะใช้เวลาช่วงหนึ่งของการศึกษาหลักสูตรนี้ประมาณ 6 – 12 เดือน เพื่อศึกษาบางกระบวนวิชาในหลักสูตร LL.M. ของ UB ได้ โดยจะให้มีการถ่ายโอนหน่วยกิตได้ระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และ UB ซึ่งในกรณีที่นักศึกษาเลือกแนวทางที่สองนี้ นักศึกษาที่จบการศึกษาจะมีหน่วยกิตสะสมครบ 24 หน่วยกิตตามหลักสูตร LL.M. ของ UB และ 39 หน่วยกิตตามหลักสูตร LL.M. ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญานิติศาสตรมหาบัณฑิตของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และปริญญานิติศาสตรมหาบัณฑิตของ UB <br /> ซึ่งปัจจุบันคณะนิติศาสตร์มีคณาจารย์ ซึ่งล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ พร้อมให้ความรู้แก่นักศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังได้ผลิตผลงานทางวิชาการออกมาสู่สาธารณะอย่างต่อเนื่อง
 
== ทำเนียบคณบดี ==