ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ยุควสันตสารท"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Anonimeco (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
[[ไฟล์:Chinese plain 5c. BC-en.svg|thumb|500px|แผนที่แสดงที่ตั้งของนครรัฐต่าง ๆ ในยุควสันตสารท]]
{{ประวัติศาสตร์จีน}}
 
'''วสันตสารท''' หรือภาษาจีนว่า '''ชุนชิว''' ({{zh|s=春秋|t=春秋|p=Chūnqiū}}; {{lang-en|Spring and Autumn period}}) เป็นชื่อยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์จีนโบราณ กินระยะเวลาประมาณ 770 ปีก่อน[[คริสต์ศักราช]] – 453 ปีก่อนคริสต์ศักราช (บางข้อมูลถือ 365 ปีก่อนคริสต์ศักราช - 482 ปีก่อนคริสต์ศักราช<ref name=ยุค/>) เป็นยุคหนึ่งใน[[ราชวงศ์โจว]] ราชวงศ์ที่ยาวนานที่สุดใน[[ประวัติศาสตร์จีน]] นับเป็นยุคสมัยที่ได้รับการกล่าวขานอย่างมากในแง่ต่าง ๆ เนื่องจากเป็นยุคที่นครรัฐแต่ละรัฐรบด้วยด้วยกลอุบายที่แยบยล ก่อให้เกิดเป็นตำนานและเรื่องเล่าขานมากมายจนปัจจุบัน และเป็นต้นเรื่องที่ทำให้เกิด[[วรรณคดี]]จีนเรื่องสำคัญอีกเรื่อง คือ [[เลียดก๊ก]] ซึ่งถูกรวมไว้ด้วยกันกับยุค[[จ้านกว๋อ]] (หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อเลียดก๊ก) การรบในยุคชุนชิวนั้นหลายเรื่องได้อ้างอิงใน[[สามก๊ก]]ที่เกิดหลังจากนี้อีกนับพันปีต่อมา
 
อีกแง่หนึ่ง เป็นยุคที่นักปราชญ์บัณฑิตแต่ละสาขาได้ถือกำเนิดและมีชีวิตอยู่ ซึ่งได้แต่งตำราหรือคำสอนต่าง ๆ ที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน เช่น [[ขงจื๊อ]] [[เล่าจื๊อ]] [[เม่งจื๊อ]] [[ม่อจื๊อ]] เป็นต้น ในส่วนของปราชญ์แห่ง[[สงคราม]] ก็คือ [[ซุนวู]] นั่นเอง<ref name="มณีในอาทิตย์"/>
 
== กำเนิดยุควสันตสารท ==
[[ราชวงศ์โจว]]ปกครองด้วยกษัตริย์อย่างเข้มแข็งมากว่า 11 องค์ จนกระทั่งถึงรัชกาลของโจวอิวหวาง
รัชกาลที่ 12 อำนาจของราชวงศ์โจวก็เริ่มเสื่อมถอย เพราะโจวอิวหวางมัวแต่หมกมุ่นกับ[[สุรา]]และ[[ผู้หญิง|นารี]] จนกระทั่งถูกข้าศึกจับกุมตัวไป 7 ปีต่อมา กองทัพผสมของอ๋องต่าง ๆ ในแต่ละ[[รัฐ]]ได้รวมตัวกันขับไล่ข้าศึกออกไป และอัญเชิญโอรสของโจวอิวหวางขึ้นครองราชย์ มีพระนามว่า โจวผิงหวาง ได้มีการย้าย[[เมืองหลวง]]จากเมืองเฮ่าจิง มาอยู่ที่ลกเอี๋ยง ([[ลั่วหยาง]] ในปัจจุบัน) ซึ่งอยู่ทางตะวันออก ยุคนี้ต่อมานักประวัติศาสตร์จึงได้เรียกว่า '''ยุคราชวงศ์โจวตะวันออก''' (Eastern Zhou) หรือ '''ยุควสันตสารท''' นั่นเอง (ที่เรียกว่า วสันตสารท ที่หมายถึง ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงนั้นมาจากชื่อคำภีร์ของขงจื๊อที่บันทึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และเหตุการณ์ในยุคนี้ ที่ชื่อ '''บันทึกแห่งฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง''' หรือ วสันตสารท ซึ่งเป็นคำภีร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของขงจื๊อด้วย ผู้คนจึงเรียกชื่อยุคนี้ตามคำภีร์ และคำภีร์เล่มนี้ก็นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า วสันตสารท เช่นกัน โดยใช้คำว่า วสันตสารท เป็นการเปรียบเปรยเหมือนกับนครรัฐต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและดับไปเหมือนดั่งใบไม้ในช่วง[[ฤดูใบไม้ผลิ]]และ[[ฤดูใบไม้ร่วง]]<ref>หน้า 3, ''หมุดนั้น สำคัญฉะนี้''. "ชักธงรบ" โดย กิเลน ประลองเชิง. '''ไทยรัฐ'''ปีที่ 68 ฉบับที่ 21646: วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2560 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 6 ปีระกา</ref>) ซึ่งยุคนี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ยุคใหญ่ต่อเนื่องกัน ๆ คือ
 
* ยุควสันตสารท (770 ปีก่อนคริสต์ศักราช – 453 ปีก่อนคริสต์ศักราช)
* [[ยุครณรัฐ]] หรือยุคจ้านกว๋อ (477 ปีก่อนคริสต์ศักราช - 222 ปีก่อนคริสต์ศักราช)
 
ซึ่งในยุควสันตสารทนั้น นครรัฐต่าง ๆ ที่เคยมีอย่างมากมายในยุคราชวงศ์โจวก่อนหน้านั้น เหลือเพียง 140 รัฐ จากการถูกผนวกรวมเป็นหนึ่งเดียวกับรัฐที่เข้มแข็งกว่า มีบันทึกว่า รัฐหลู่ทำลาย 58 รัฐ รัฐจิ้นทำลาย 24 รัฐ รัฐฉินทำลาย 15 รัฐ รัฐฉีทำลาย 14 รัฐ รัฐเจิ้งทำลาย 6 รัฐ รัฐอู๋ทำลาย 5 รัฐ และรัฐทั้ง 140 รัฐนี้ มีรัฐที่เรียกได้ว่าเป็นรัฐขนาดใหญ่ มีอำนาจที่แท้จริงไม่ถึง 10 รัฐ
เส้น 31 ⟶ 30:
ครั้งหนึ่งอู๋อ๋องเกิดมีอาการปวดท้อง บรรดาหมอหลวงทั้งหลายไม่สามารถให้การรักษาได้ เยว่อ๋องโกวเจี้ยนได้ชิมอุจจาระของอู๋อ๋องต่อหน้าเสนาธิการทั้งปวง และบอกว่าอู๋อ๋องเพียงแค่มีพระวรกายที่เย็นเกินไป หากได้ดื่มสุราและทำร่างกายให้อบอุ่นขึ้นก็จะมีอาการดีขึ้นเอง และเมื่ออู๋อ๋องได้ทำตามก็หายประชวร อู๋อ๋องเห็นว่าเยว่อ๋องโกวเจี้ยนมีความจงรักภักดีจึงปล่อยตัวกลับคืนสู่รัฐ เยว่ เมื่อกลับสู่รัฐเยว่ เยว่อ๋องโกวเจี๋ยนก็วางแผนที่จะกู้ชาติทันที โดยมีฟ่านหลี่เป็นอำมาตย์คอยให้คำปรึกษา ฟ่านหลี่ได้เสนอแผนการสามอย่าง คือ ฝึกฝนกองกำลังทหาร พัฒนาด้านกสิกรรม และ ส่งสาวงามไปเป็นเครื่องบรรณาการ พร้อมกับเป็นสายคอยส่งข่าวภายในให้ ไซซีเป็นหญิงสาวชาวบ้าน ลูกสาวคนตัดฟืนที่เขาจู้หลัวซาน (ภาษาฮกเกี้ยน กิวล่อซัว) นางถูกพบครั้งแรกขณะซักผ้าริมลำธาร นางมีหน้าตางดงามมาก พร้อมกับนางเจิ้งตัน (แต้ตัน) ซึ่งมีความงามไม่แพ้กัน ฟ่านหลี่ (เถาจูกง) เสนาบดีรัฐเยว่เป็นผู้ดูแลอบรมนางทั้ง 2 ให้มีอุดมการณ์เพื่อบ้านเมือง เป็นเวลานานถึง 3 ปี เพื่อที่จะไปเป็นบรรณาการให้กับรัฐอู่ เพื่อมอมเมาให้อู่อ๋องฟูซา เจ้านครรัฐอู่ ลุ่มหลงอยู่กับเสน่ห์ของนาง จนไม่บริหารบ้านเมือง ซึ่งอู๋อ๋องฟูซาหลงใหลนางไซซีมากกว่านางเจิ้งตัน ทำให้นางเจิ้งตันน้อยใจจนผูกคอตาย ขณะที่มาอยู่ได้เพียง 2 ปีเท่านั้น ผ่านไป 13 ปี เมื่อรัฐอู่อ่อนแอลง รัฐเยว่ก็สามารถเอาชนะได้สำเร็จในที่สุด
 
ภายหลังจากที่อู่อ๋องฟูซา ฆ่าตัวตายไปแล้ว นางกับอำมาตย์ฟ่านหลี่ที่ว่ากันว่า ได้ผูกสัมพันธ์ทางใจไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว ก็ได้หายตัวไปพร้อมกันหลังเหตุการณ์นี้ บ้างก็ว่าทั้งคู่ได้เดินทางท่องเที่ยวไปเรื่อย ๆ และไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่ทะเลสาบไซ้โอว ([[ทะเลสาบซีหู]]) เป็นต้น<ref name="มณีในอาทิตย์">{{อ้างหนังสือ
|ผู้แต่ง=พีรยุทธ สุเทพคีรี
* |ชื่อหนังสือ =เถาจูกง เทพเจ้าแห่งการค้าขายของจีน โดย พีรยุทธ สุเทพคีรี ISBN 974-8437-87-6
|URL=
|จังหวัด=กรุงเทพฯ
|พิมพ์ที่=สร้อยทอง
|ปี=2550
|ISBN=9748437876
|จำนวนหน้า=141
}}</ref>
 
== สิ้นสุดราชวงศ์โจว ==
ราชวงศ์โจวและยุควสันตสารทยุคสุดท้าย คือ ยุครณรัฐ หรือ เลียดก๊ก ซึ่งเป็นยุคที่แต่ละรัฐรบกันอย่างต่อเนื่อง ในปี 246 ก่อนคริสต์ศักราช ฉินหวังเจิ้ง (ต่อมาคือ ฉินสื่อหวง หรือ [[จิ๋นซีฮ่องเต้]] [[ฮ่องเต้]]องค์แรกของจีน) ได้สืบราชบัลลังก์รัฐฉินต่อมา โดยมีที่ปรึกษาเช่น เว่ยเหลียว, หลี่ซือ เป็นต้น ช่วยเหลือในการรวบรวมแผ่นดิน บ้างใช้เงินทองล่อซื้อบรรดาขุนนางของ 6 รัฐที่เหลือ แทรกซึมเข้าไปก่อความวุ่นวายในการปกครองของนครรัฐทั้ง 6 บ้าง อีกทั้งส่งกองกำลังรุกเข้าประชิดดินแดนปีแล้วปีเล่า เมื่อถึงปี 230 ก่อนคริสต์ศักราช รัฐฉินโจมตีนครรัฐหานแตกพ่ายไป เมื่อถึงปี 221 ก่อนคริสต์ศักราชกำจัดรัฐฉีสำเร็จ จากนั้น 6 นครรัฐต่างก็ทยอยถูกรัฐฉินกลืนตกไป แผ่นดินจีนจึงรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ในยุคใหม่ คือ [[ราชวงศ์ฉิน]]<ref name=ยุค>{{cite web|url=http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=4644559914469|title= ยุคชุนชิว |work=[[ผู้จัดการออนไลน์|เว็บไซต์ผู้จัดการ]]}}</ref>
 
== อ้างอิง ==
{{ต้องการรายการอ้างอิง}}
* หนังสือ เถาจูกง เทพเจ้าแห่งการค้าขายของจีน โดย พีรยุทธ สุเทพคีรี ISBN 974-8437-87-6
* [http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=4644559914469 ยุคชุนชิว จาก[[ผู้จัดการออนไลน์|เว็บไซต์ผู้จัดการ]]]
 
{{วิกิคำคม}}