ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การเขียนโปรแกรมเชิงฟังก์ชัน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Vee (คุย | ส่วนร่วม)
แปลเพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
ใน[[วิทยาการคอมพิวเตอร์]] '''การเขียนโปรแกรมเชิงฟังก์ชัน'''เป็นกระบวนทัศน์การเขียนโปรแกรมที่รูปแบบการสร้างโครงสร้างและส่วนประกอบของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งปฏิบัติต่อการคำนวณว่าเป็นการประเมินผล[[ฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์]]และหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลง[[สถานะ]]และข้อมูล[[ที่เปลี่ยนแปลงได้]]
โดยเป็นกระบวนทัศน์การเขียนโปรแกรมเชิงประกาศซึ่งหมายความว่าการเขียนโปรแกรมทำได้โดย[[นิพจน์]]<ref name="expression style">{{cite web|url=https://wiki.haskell.org/Declaration_vs._expression_style#Expression_style|title=Declaration vs. expression style - HaskellWiki|publisher=}}</ref>หรือการประกาศ<ref name="declaration style">{{cite web|url=https://wiki.haskell.org/Declaration_vs._expression_style#Declaration_style|title=Declaration vs. expression style - HaskellWiki|publisher=}}</ref>แทนข้อความสั่ง ในโปรแกรมเชิงฟังก์ชัน ค่าผลลัพธ์ของฟังก์ชันขึ้นอยู่กับ[ อาร์กิวเมนต์]ที่นำเข้าสู่ฟังก์ชันเท่านั้น ดังนั้นการเรียกฟังก์ชัน f สองครั้งด้วยค่าอาร์กิวเมนต์ x เดียวกันจะให้ค่าผลลัพธ์ f(x) เท่ากันทุกครั้ง การกำจัดผลข้างเคียง ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสถานะที่ไม่ขึ้นกับสิ่งที่นำเข้าฟังก์ชัน สามารถทำให้ง่ายขึ้นที่จะทำความเข้าใจและพยากรณ์พฤฒิกรรมของโปรแกรมซึ่งเป็นหนึ่งในแรงจูงใจของการพัฒนาของการเขียนโปรแกรมเชิงฟังก์ชัน
 
การเขียนโปรแกรมเชิงฟังก์ชันมีรากฐานมาจาก[[แคลคูลัสแลมบ์ดา]]ซึ่งเป็น[[ระบบรูปนัย]]ที่พัฒนาในคริสต์ทศวรรษ 1930 เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับ[[ความคำนวณได้]] [[Entscheidungsproblem]] นิยามของฟังก์ชัน การประยุกต์ฟังก์ชัน และ[[การเวียนเกิด|การเรียกซ้ำ]] ภาษาเขียนโปรแกรมเชิงฟังก์ชันหลายภาษาสามารถมองว่าเป็นการใส่รายละเอียดเพิ่มจากแคลคูลัสแลมบ์ดา กระบวนทัศน์การเขียนโปรแกรมเชิงประกาศที่เป็นที่รู้จักอื่น ๆ ''[[การเขียนโปรแกรมเชิงตรรกะ]]'' มีพื้นฐานอยู่บน[[ความสัมพันธ์เชิงตรรกะ]]<ref name="hudak1989">{{cite journal | last = Hudak | first = Paul | authorlink = Paul Hudak | title = Conception, evolution, and application of functional programming languages | journal = [[Association for Computing Machinery|ACM]] Computing Surveys|volume=21|issue=3 | pages = 359–411 |date=September 1989 | url = http://www.dbnet.ece.ntua.gr/~adamo/languages/books/p359-hudak.pdf|format=PDF|doi=10.1145/72551.72554 }}</ref>
 
ในกลับกัน[[การเขียนโปรแกรมเชิงคำสั่ง|โปรแกรมเชิงคำสั่ง]]เปลี่ยนสถานะด้วยคำสั่งในภาษาต้นทาง ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดคือการกำหนดค่า [[การเขียนโปรแกรมเชิงคำสั่ง]]ไม่มีฟังก์ชันในความหมายแบบคณิตศาสตร์แต่มีในความหมายแบบ[[ซับรูทีน]] ซึ่งมี[[ผลข้างเคียง (วิทยาการคอมพิวเตอร์)|ผลข้างเคียง]]ที่อาจะเปลี่ยนค่าของสถานะของโปรแกรมได้ ฟังก์ชันที่ไม่คืนค่าจึงสมเหตุสมผลเพราะขาด[[ความโปร่งใสในการอ้างอิง]] ได้แก่นิพจน์เดียวกันทางภาษาสามารถให้ผลลัพธ์ที่มีค่าต่างกันได้ในเวลาที่ต่างกันขึ้นกับสถานะของโปรแกรมที่กำลังกระทำการ<ref name="hudak1989"/>
 
ภาษาโปรแกรมเชิงฟังก์ชันโดยเฉพาะ[[ภาษาโปรแกรมเชิงฟังก์ชันบริสุทธิ]] เช่น [[ภาษาโฮป]]ถูกในความสำคัญใน[[วงการวิชาการ]]มากกว่าในการพัฒนาซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตามภาษาโปรแกรมที่มีชื่อเสียงซึ่งสนับสนุนการเขียนโปรแกรมเชิงฟังก์ชัน เช่น [[ภาษาคอมมอนลิสป์]] [[ภาษา Scheme]]<ref name="clinger1987"/><ref name="hartheimer1987"/><ref name="kidd2007"/><ref name="cleis2006"/> [[ภาษา Clojure]]<ref name="useR"/><ref name="Chambers"/> [[ภาษา Wolfram]]<ref name="reference.wolfram.com">{{cite web | title = Wolfram Language Guide: Functional Programming | url = http://reference.wolfram.com/language/guide/FunctionalProgramming.html | year = 2015 | accessdate = 2015-08-24 }}</ref> (หรือ [[ภาษา Mathematica]]) [[ภาษา Racket]]<ref name="racket-video-games"/> [[ภาษาเออร์แลง]]<ref name="erlang-faq"/><ref name="armstrong2007"/><ref name="larson2009"/> [[ภาษา OCaml]]<ref name="minksy2008"/><ref name="leroy2007"/> [[ภาษา Haskell]]<ref name="haskell-industry"/><ref name="hudak2007"/> และ[[ภาษาเอฟชาร์ป]]<ref name='quantFSharp'>{{cite conference | last = Mansell | first = Howard | title = Quantitative Finance in F# | url = http://cufp.galois.com/2008/abstracts.html#MansellHoward | year = 2008 | conference = CUFP 2008 | accessdate = 2009-08-29 }}</ref><ref name='businessAppsFSharp'>{{cite conference | last = Peake | first = Alex | title = The First Substantial Line of Business Application in F# | url = http://cufp.galois.com/2009/abstracts.html#AlexPeakeAdamGranicz | year = 2009 | conference = CUFP 2009 | accessdate = 2009-08-29 }}</ref> ใช้ในโปรแกรมประยุกต์เชิงอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์โดยองค์กรอย่างกว้างขวาง การเขียนโปรแกรมเชิงฟังก์ชันยังได้รับการรองรับใน[[ภาษาเขียนโปรแกรมเฉพาะทาง]]บางภาษา เช่น [[ภาษาอาร์]] (สถิติ)<ref name="Amath-CO"/> [[ภาษาเจ]] [[ภาษาเค]] และ[[ภาษาคิวจาก Kx Systems]] (การวิเคราะห์ทางการคลัง) [[XQuery]]/[[XSLT]] ([[เอกซ์เอ็มแอล]])<ref name="Novatchev"/><ref name="Mertz"/> และ[[ภาษาโอปอล]]<ref name="Opal (programming language)"/> ภาษาเชิงประกาศเฉพาะทางที่ใช้งานอย่างกว้างขวางเช่น [[ภาษาสอบถามเชิงโครงสร้าง]] และ [[Lex]]/[[Yacc]] ใช้บางส่วนประกอบของการเขียนโปรแกรมเชิงฟังก์ชันโดยเฉพาะใน eschewing [[วัตถุที่เปลี่ยนแปลงได้]].<ref name="Chamberlin_Boyce"/>
บรรทัด 49:
<ref name="Chamberlin_Boyce">{{cite journal | title = SEQUEL: A structured English query language | author = [[Donald D. Chamberlin]] and [[Raymond F. Boyce]] | journal = Proceedings of the 1974 ACM SIGFIDET | pages = 249–264 | year = 1974 }}</ref>
}}
__NOINDEX__
[[หมวดหมู่:กระบวนทัศน์การเขียนโปรแกรม]]
__NONEWSECTIONLINK__