ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 4:
== งานสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ ==
== '''งานสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์
== นักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ ==
จัดเป็นส่วนหนึ่ง
งานของนักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ จัดเป็นงานที่สำคัญ และไม่ค่อยมีผู้รับรู้บทบาทเท่าใดนัก เนื่องจากมักเป็นผู้ทำงานอยู่เบื้องหลังคความสำเร็จต่างๆในการเชื่อมโยง"ภายในองค์กรการแพทย์"กับ"องค์กรภายนอก" เปรียบเสมือน “ผู้ปิดทองหลังพระ” นักสังคมสงเคราะห์ไม่ได้ถูกกล่าวขานในฐานะ “ผู้มีพระคุณ” แต่มักจะอยู่ในฐานะ “เพื่อน” หรือ “พี่-น้อง” มากกว่า ปรัชญาของการสังคมสงเคราะห์ คือ การช่วยเหลือผู้รับบริการให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ Help them to help themselves
ความจำเป็นของงานสังคมสงเคราะห์ในโรงพยาบาล
1.จากสถานการณ์ปัญหาด้านสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและรุนแรง ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพผู้ป่วยให้มีความซับซ้อนมากขึ้น การบำบัดรักษาทางการแพทย์เพียงมิติเดียวไม่เพียงพอ บริการสุขภาพจึงต้องครอบคลุมบริการด้านสุขภาพ แบบองค์รวม
2.นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ในเรื่องของการเตรียมการดูแลปัญหาสุขภาพและปัญหาสังคมผู้สูงอายุ การดูแลกลุ่มวัย การดูและเด็กและสตรีที่ถูกกระทำรุนแรง การดูแลคนพิการ การประคับประคองดูแลผู้ป่วยที่อยู่ในระยะสุดท้าย ผู้ติดยาเสพติดและจิตเวช การเพิ่มคุณภาพระบบหลักประกันสุขภาพ ฯลฯ
3.กฎหมายหลายฉบับตามกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญและมีผลกระทบต่อระบบบริการสุขภาพที่งานสังคมสงเคราะห์ร่วมดำเนินการเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขตามสิทธิอย่างเสมอภาค เหมาะสม และเป็นธรรม
- พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐
- พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖และพ.ร.บ.คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐
- พ.ร.บ. ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545
- พ.ร.บ.สุขภาพจิต ๒๕๕๑
- พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑
- พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖
- พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕
- พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ และพ.ร.บ.กองทุนเงินทดแทน พ.ศ. ๒๕๓๗
- พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. ๒๕๓๕
- พ.ร.บ.ส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. ๒๕๔๖
- พ.ร.บ ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา - ฯลฯ
สถาบันที่ผลิตนักสังคมสงเคราะห์ มี 6 สถาบัน ประมาณ 800 คน/ปีดังนี้
•ม.ธรรมศาสตร์ หลักสูตรสังคมสงเคราะห์ศาสตร์บัณฑิต จำนวน 330 คน /ปี
•ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติหลักสูตรสังคมสงเคราะห์ศาสตร์บัณฑิตจำนวน 150 คน /ปี
•มหามกุฎราชวิทยาลัย หลักสูตรสังคมสงเคราะห์ศาสตร์บัณฑิต จำนวน 50 คน/ปี
•มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยหลักสูตรสังคมสงเคราะห์ศาสตร์บัณฑิต จำนวน 50 คน/ปี
•ม.เกริก หลักสูตรสังคมสงเคราะห์ศาสตร์บัณฑิต จำนวน 30 คน/ปี
•ม.สงขลานครินทร์ หลักสูตรสังคมสงเคราะห์ศาสตร์บัณฑิต จำนวน 50 คน /ปี
•สถาบันอื่น ตาม กพ กำหนด(จิตวิทยา และสังคมวิทยา ฯลฯ )จำนวน 200 คน /ปี
สมรรนะนักสังคมสงเคราะห์ ด้านต่าง ๆ ดังนี้
1.ปฏิบัติงานตามมาตรฐาน จริยธรรม วิชาชีพสังคมสงเคราะห์ : รักงาน รักผู้ป่วย
2.การพัฒนาตนเอง : การเข้าร่วมประชุม อบรม สัมนา เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพิ่มพูนทักษะ (แลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในหน่วยงาน ระหว่างรพ.)
3.การให้บริการ : สามารถให้บริการ 1.) เฉพาะราย (Social Case Work) 2.) กลุ่มชน (Social Group Work) 3.) สังคมสงเคราะห์ชุมชน / การจัดระเบียบและการพัฒนาชุมชน (Community Organization and Community Development เพื่อสร้างความยั่งยืนทางสวัสดิการด้านสาธารณสุขให้แก่ชุมชน/สังคม)
4.เครือข่าย : สร้างและมีสัมพันธภาพที่ดีกับเครือข่ายการให้บริการ : สหสาขาวิชาชีพ ภาคีเครือข่ายที่รับ/ส่งต่อ ชุมชน องค์กรภาครัฐและเอกชน
5.การทำงานเป็นทีม : สามารถประสานการทำงานร่วมกับวิชาชีพอื่นๆ (แพทย์ พยาบาล จิตแพทย์ นักจิตวิทยา นักกายภาพบำบัด แลนักโภชนาการ) รวมทั้งผู้ป่วย/ครอบครัว ุ
6.ผลงานการพัฒนาคุณภาพการบริการ / การวิจัย/R2R ทางสังคมสงเคราะห์ : สร้าง/ต่อยอดองค์ความรู้ เกิด Good / Best Practice เผยแพร่ เป็นแบบอย่าง ชี้นำสังคม ฯลฯ
▲== นักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ในงานเวชศาสตร์ฟื้นฟู ==
เนื่องจากงาน[[เวชศาสตร์ฟื้นฟู]] เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ หรือผู้ป่วยที่สูญเสียสมรรถภาพทางกายโดยตรง จึงทำให้นักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู ต้องมีภาระหน้าที่เพิ่มเติมจากที่กล่าวมาข้างต้น โดยเกี่ยวโยงไปถึงการวางแผนการรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ ทักษะสังคม ทักษะชีวิต ผู้ป่วยภายในโรงพยาบาล การวางแผนในการส่งต่อเพื่อพักฟื้นหรือฝึกอาชีพผู้พิการ การประสานงานเพื่อจัดหางานให้ผู้พิการ การเยี่ยมบ้านผู้ป่วยและปรับปรุงที่พักอาศัย การให้การสงเคราะห์ต่างๆ การติดต่อกับองค์กรการกุศล องค์กรผู้พิการ องค์กรกีฬาต่างๆ การจัดหาอุปกรณ์เครื่อวช่วยผู้พิการต่างๆ การจัดสถานศึกษาแก่เด็กพิการ เป็นต้น
|