ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระมหาอุปราช"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
หน้าใหม่: '''มหาอุปราช'''<ref>''พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554'', หน้า 887</ref> เป...
(ไม่แตกต่าง)

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:28, 22 มีนาคม 2560

มหาอุปราช[1] เป็นตำแหน่งรัชทายาท พบในประเทศพม่า ล้านนา ลาว และสยาม

พม่า

ในประเทศพม่า เรียกตำแหน่งรัชทายาทว่ามหาอุปราชาอโนต์ระปะอินแซะมิน (မဟာဥပရာဇာအနောက်ရပအိမ်ရှေ့မင်း) เรียกโดยย่อว่า อินแซะมิน (အိမ်ရှေ့မင်း, สัทอักษรสากล: [èiɴʃḛ mɪ́ɴ]) อินแปลว่าวัง แซะแปลว่าหน้า มินแปลว่าเจ้า รวมความแปลว่าเจ้าวังหน้า[2] เป็นพระอิสริยยศสูงสุดรองจากพระมหากษัตริย์ และจะได้สืบราชสมบัติต่อไป

ล้านนา

ในล้านนา มีตำแหน่ง อุปราช หรือ เจ้าหอน่า[2] ปรากฏในพงศาวดารโยนกว่า พญามังรายสถาปนาขุนครามพระราชโอรสขึ้นเป็นเจ้าชัยสงครามและพระราชทานเครื่องยศอย่างมหาอุปราชให้ไปครองเมืองเชียงราย[3] การสถาปนาอุปราชยังมีสืบมา จนกระทั่งปี พ.ศ. 2318 (นับแบบปัจจุบัน) เมื่อล้านนามาสวามิภักดิ์ต่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจึงทรงตั้งนายก้อนแก้วเป็นพระยาอุปราชนครเชียงใหม่ นายน้อยต่อมต้อเป็นอุปราชลำพูน และเจ้าธรรมลังกาเป็นอุปราชนครลำปาง[4] ถึงปี พ.ศ. 2399 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงเปลี่ยนตำแหน่งเป็นพระยาอุปราชทั้งสามหัวเมืองนั้นเป็นเจ้าอุปราชมานับแต่นั้น[5]

สยาม

กฎมนเทียรบาลซึ่งตราขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถระบุว่าพระราชกุมารอันเกิดแต่แม่ยั่วเมืองเป็นพระมหาอุปราช[6] ในพระไอยการตำแหน่งนาพลเรือน นาทหาร หัวเมือง ที่ออกในปี พ.ศ. 1998 รัชกาลเดียวกันระบุว่าพระมหาอุปราชทรงศักดินา 100,000 ไร่ และพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ กล่าวถึงตำแหน่งพระมหาอุปราชครั้งแรกว่า ระหว่างที่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถครองเมืองพิษณุโลก สมเด็จพระเชษฐาธิราชเจ้าพระราชโอรสทรงลาผนวช แล้วได้รับสถาปนาเป็นพระมหาอุปราชในปี จ.ศ. 847 (พ.ศ. 2028)[7]

ถึงรัชสมัยสมเด็จพระเพทราชา โปรดให้ตั้งสมเด็จพระสรศักดิเป็นพระมหาอุปราชที่กรมพระราชวังบวรสถานมงคลเป็นครั้งแรก[8] ตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคลจึงอยู่ในฐานะพระมหาอุปราชรัชทายาทมานับแต่นั้นมา[9] จนกระะทั่ง พ.ศ. 2439 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้เลิกธรรมเนียมตั้งพระมหาอุปราช แล้วสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชขึ้นแทน[10]

อ้างอิง

เชิงอรรถ
  1. พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554, หน้า 887
  2. 2.0 2.1 ตำนานวังน่า, หน้า 1
  3. พงศาวดารโยนก, หน้า 292
  4. พงศาวดารโยนก, หน้า 420-421
  5. พงศาวดารโยนก, หน้า 458
  6. ประชุมพระนิพนธ์ ภาค ๒, หน้า 179
  7. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น, หน้า 400
  8. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น, หน้า 318
  9. พระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า), หน้า 24
  10. "ประกาศเฉลิมพระปรมาภิไธย สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าราชกุมารพระองค์ใหญ่ เป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 3 (ตอน 44): 368. 1 มีนาคม พ.ศ. 2429. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2560. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
บรรณานุกรม
  • กรมศิลปากรพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า). นนทบุรี : รุ่งศิลป์การพิมพ์, 2558. 127 หน้า. ISBN 978-616-283-232-1
  • ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. ตำนานวังน่า. พระนคร : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, 2462. [พิมพ์แจกในงานศพนางสุ่น ชาติโอสถ ปีมะแม พ.ศ. 2462]
  • ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. ประชุมพระนิพนธ์ ภาค ๒. กรุงเทพฯ : คลังวิทยา, 2494. 359 หน้า.
  • พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2553. 800 หน้า. ISBN 978-616-7146-08-9
  • ราชบัณฑิตยสถานพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554. พิมพ์ครั้งที่ ๒, กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2556. 1,544 หน้า. ISBN 978-616-7073-80-4