ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ภูริต ภิรมย์ภักดี"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Secretmyeye (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 33:
บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด <ref>[http://www.komchadluek.net/detail/20110423/95493/%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B5.html กะเทาะเปลือก"เต้"สันต์ ภิรมย์ภักดี] คมชัดลึก</ref>
 
ภูริตจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสาธิตประสานมิตรถึงมัธยมศึกษาปีที่ 2 จากนั้นบินไปสหรัฐอเมริกาเพื่อศึกษาต่อระดับไฮสคูลที่ Wilbraham Monson Academy ถึงเกรด 12 และจบปริญญาตรีด้าน Business Management จากมหาวิทยาลัย Bentley College เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
 
หลังจบการศึกษาด้วยวัย 21 ปี ภูริตเริ่มเข้ามาช่วยธุรกิจครอบครัวครั้งแรกในตำแหน่งพนักงานดูแลถังเบียร์ จากนั้นออกไปศึกษาการปรุงและการผลิตเบียร์ Master of Brewing ที่ Doemens Institute of Technology ซึ่งเป็นสถาบันสอนด้านการปรุงเบียร์ที่เก่าแก่ของเยอรมัน และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับระดับโลก ถือเป็น Brewmaster คนที่ 3 ของตระกูลภิรมย์ภักดี ต่อจากคุณปู่ ประจวบ ภิรมย์ภักดี (Brewmaster ไทยคนแรก) และคุณปิยะ ภิรมย์ภักดี(ลุง) หลังสำเร็จการศึกษาภูริตเดินทางกลับประเทศไทยและเลือกฝึกงานกับบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ (ประเทศไทย) เพื่อเรียนรู้งานด้านโฆษณาและการตลาด ก่อนจะเข้ามาทำงานด้านการตลาดที่บุญรอดฯ อีกสักระยะ แล้วจึงศึกษาต่อระดับปริญญาโททางธุรกิจ Master of Business Administration และ Marketing and Entrepreneurship Major ณ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เส้น 43 ⟶ 44:
 
ภูริตยังมีอีกหนึ่งบทบาทในวงการบันเทิงกับการเป็นสมาชิกวงดนตรี กรุงเทพมาราธอน (Krungthep Marathon) ตำแหน่ง นักร้องนำ พร้อมสมาชิกวงอีก 3 คน ได้แก่ ปาย – กอบชัย ข่วงอารินทร์ (กีตาร์) , นะ – ธนวิตร พงษ์เจริญ (เบส) และ อู๋ – ยศทร บุญญธนาภิวัฒน์ (กลอง) มีผลงานออกมาแล้วสองอัลบั้ม คืออัลบั้ม The Winner และอัลบั้ม 7912 ภายใต้สังกัด สไปร์ซซี่ ดิสก์ (SPICY DISC) และยังมีผลงานร้องเดี่ยวที่เป็นที่รู้จักมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “เมื่อไหร่จะได้พบเธอ” เพลงประกอบละคร พรพรหมอลเวง, “หากความรักฟังอยู่” เพลงประกอบละคร บันไดดอกรัก และ "น้ำตา" เพลงที่ภูริต แต่งเนื้อร้องและขับร้องด้วยตัวเอง เพื่อถ่ายทอดจากความรู้สึก ต่อการจากไปของเพื่อนรุ่นน้อง ประชาธิป มุสิกพงศ์ (สิงห์) มือกีตาร์วง Sqweez Animal นอกจากนี้ยังมีเพลง“ปลายรุ้ง” เพลงประกอบละคร ตามรักคืนใจ ที่ได้ร้องร่วมกับน้องนิษา ลูกสาวของภูริตอีกด้วย
 
นอกจากนี้ภูริตยังเป็นที่รู้กันในวงกว้างว่าเป็นผู้หลงใหลในโลกความเร็วและเป็นนักแข่งรถตัวยง เคยลงแข่งขันและคว้าชัยมาแล้วหลายสนามทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ การคว้าแชมป์อันดับ 1 ของตารางคะแนนรวมตลอดฤดูกาลในการแข่งขันรถยนต์ GT Asia Series 2016 รุ่น GTC และรองแชมป์การแข่งขันรถยนต์ Audi LMS Cup สนามบุรีรัมย์ ทั้งยังจัดตั้งทีมรถแข่งสัญชาติไทย “สิงห์ มอเตอร์สปอร์ต ทีม ไทยแลนด์” ภายใต้การสนับสนุนของ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด มีทั้งสิ้น 3 ทีม ประกอบด้วย ทีม “สิงห์ ทีพี 12 เรซซิ่งทีม" และ “สิงห์ แพลน บี มอเตอร์สปอร์ต” เช่นเดียวกับกีฬามวยไทย ซึ่งภูริตยังเป็นเจ้าของค่ายมวย RSM Academy ธุรกิจส่วนตัวที่เป็นความฝันตั้งแต่วัยเด็ก