ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กฎหมายเนือร์นแบร์ค"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 5:
เพราะความกังวลด้านนโยบายต่างประเทศ การบีฑาชาวยิวตามกฎหมายทั้งสองฉบับจึงมิได้เริ่มต้นจนกระทั่งเสร็จสิ้นการจัด[[โอลิมปิกฤดูร้อน 1936]] ในกรุง[[เบอร์ลิน]]แล้ว หลัง[[มัคท์แอร์ไกรฟุง|ยึดอำนาจการปกครอง]]ไว้ได้ใน ค.ศ. 1933 พรรคนาซีก็เริ่มดำเนินนโยบายของตน ซึ่งรวมถึงการจัดตั้ง "[[Volksgemeinschaft|ประชาคม]]" (people's community) โดยมีเชื้อชาติเป็นพื้นฐาน [[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]] ผู้เป็นทั้ง[[นายกรัฐมนตรีเยอรมนี|นายกรัฐมนตรี]]และ[[Führer|ประมุข]] (Führer) ได้ประกาศ[[การคว่ำบาตรกิจการชาวยิวโดยนาซี|คว่ำบาตรกิจการของชาวยิวทั่วประเทศ]]เมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1933 และตรา[[Law for the Restoration of the Professional Civil Service|กฎหมายฟื้นฟูราชการวิชาชีพ]] (Law for the Restoration of the Professional Civil Service) เมื่อวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1933 เพื่อห้าม[[เชื้อชาติอารยัน|ผู้มิใช่อารยัน]]รับราชการหรือประกอบวิชาชีพทางนิติศาสตร์ หนังสือซึ่งมองว่า "ไม่เป็นเยอรมัน" (un-German) เป็นต้นว่า บรรดาที่ชาวยิวเป็นผู้แต่งนั้น ก็สั่งให้[[การเผาหนังสือโดยนาซี|เผาทำลาย]]ทั่วประเทศในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1933 ทั้งมีการกลั่นแกล้งรังแกพลเมืองยิวอย่างหนักหน่วง มีการปราบปรามอย่างแข็งขัน ปลดความเป็นพลเมืองและสิทธิพลเมือง จนที่สุดก็กำจัดชาวยิวออกจากสังคมเยอรมันโดยสิ้นเชิง
กฎหมายเนือร์นแบร์กนี้มีผลให้ชุมชนชาวยิวอ่อนแอลง
{{โครง-ส่วน}}
|