ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สัญญาณดิจิทัล"

'''สัญญาณดิจิทัล''' หรือ ({{lang-en|Digitaldigital Signalsignal}}) เป็นสัญญาณทางกายภาพที่เป็นตัวแทดับของค่าที่แยกจากกัน (สัญญาณที่มีปริมาณไม่ต่อเนื่องในแกนเวลา) เช่น กระแสบิตที่ไม่มีหลักเกณฑ์หรือสัญญาณอนาล็อกแอนะล็อกที่ถูกทำเป็นบิทบิตสตรีม ({{lang-en|digitized}}) (ถูกสุ่มเลือกและแปลงจากอนาล็อกแอนะล็อกให้เป็นดิจิตอลดิจิทัล ) สัญญาณดิจิตอลดิจิทัลสามารถอ้างถึงอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

#รูปคลื่นสัญญาณตามแกนเวลาที่ต่อเนื่องใดๆใด ๆ ที่ใช้ในการสื่อสารแบบดิจิตอลดิจิทัลโดยเป็นตัวแทนของกระแสบิตหรือลำดับอื่นๆอื่น ๆ ของค่าไม่ต่อเนื่อง

#ขบวนสัญญาณกระตุกที่สลับไปมาระหว่างจำนวนไม่ต่อเนื่องของระดับแรงดันไฟฟ้า หรือ ระดับของความเข้มของแสง ที่รู้กันว่าเป็นสัญญาณที่เข้ารหัส({{lang-en|line coded signal}})หรือการส่งสัญญาณเบสแบนด์ ตัวอย่างเช่น สัญญาณที่พบในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ดิจิตอลดิจิทัลหรือในการสื่อสารแบบอนุกรม หรือ pulse code modulation (PCM) ที่เป็นตัวแทนของสัญญาณแอนะล็อกที่ถูก digitized

สัญญาณที่ถูกสร้างขึ้นโดยวิธี[[การกล้ำสัญญาณ]] ({{lang-en|modulation}}) แบบดิจิตอลดิจิทัลแบบหนึ่ง (การส่งผ่านแบบ passband ดิจิตอลดิจิทัล) ที่จะถูกโอนย้ายระหว่างโมเด็มจะอยู่ในกรณีแรกและจะถือได้ว่าเป็นสัญญาณดิจิตอลดิจิทัล ส่วนในกรณีที่สองเป็นการแปลงสัญญาณจากแอนะล็อกให้เป็นดิจิตอลดิจิทัล

==รูปคลื่นในระบบดิจิตอลดิจิทัล==

[[ไฟล์:S digital.PNG|thumb|รูปคลื่นสัญญาณดิจิตอลดิจิทัล: (1) ระดับต่ำ, (2) ระดับสูง, (3) ขอบกำลังขึ้น, และ (4) ขอบกำลังลง]]

ในสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์และระบบดิจิตอลอื่นๆดิจิทัลอื่น ๆ รูปคลื่นที่สลับระหว่างสองระดับแรงดันไฟฟ้าที่เป็นตัวแทนของทั้งสองสถานะของค่าบูลีน (0 และ 1) จะถูกเรียกว่าเป็นสัญญาณดิจิตอลดิจิทัล ถึงแม้ว่ามันจะเป็นรูปคลื่นแรงดันอนาล็อกแอนะล็อก เพราะมันจะถูกแปลในรูปของสองระดับเท่านั้น

สัญญาณนาฬิกาเป็นสัญญาณดิจิตอลดิจิทัลพิเศษที่ใช้ในการซิงโครไนส์กับวงจรดิจิตอลต่างๆดิจิทัลต่าง ๆ ภาพประกอบจะแสดงรูปคลื่นของสัญญาณนาฬิกา การเปลี่ยนแปลงแบบลอจิกจะถูกกระตุ้นโดยขอบที่กำลังขึ้นหรือขอบที่กำลังลงอย่างใดอย่างหนึ่ง

ถึงแม้ว่าในรูปแบบของวงจรดิจิตอลดิจิทัลที่ง่ายและในอุดมคติมากๆมาก ๆ ที่เราอาจจะต้องการให้การเปลี่ยนผ่านในระดับแรงดันให้เกิดขึ้นในทันทีทันใดเพื่อให้ได้รูปคลื่นที่ขึ้นลงทันทีทันใด โลกแห่งความจริงไม่มีวงจรที่สามารถเปลี่ยนระดับแรงดันไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วอย่างนั้น ซึ่งหมายความว่าในช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านระยะสั้น เอาต์พุตอาจจะไม่สะท้อนอย่างเหมาะสมกับอินพุท และ แน่นอนอาจไม่สอดคล้องกับระดับแรงดันไฟฟ้าลอจิกไม่ว่าที่ระดับสูงหรือระดับต่ำ

ในวงจรหนึ่งๆหนึ่ง ๆ มีการวัดคุณสมบัติทางไฟฟ้าเป็นสองสถานะโดยใช้: แรงดันไฟฟ้า ซึ่งพบมากที่สุด หรือใช้กระแส ที่ถูกนำมาใช้ในบางครอบครัวของลอจิก เกณฑ์อันหนึ่งจะถูกออกแบบมาสำหรับแต่ละครอบครัวลอจิกนั้น ถ้าต่ำกว่าเกณฑ์นั้นถือว่า"ต่ำ" ถ้าสูงกว่าถือว่า"สูง" วงจร ดิจิตอลดิจิทัลสร้าง"พื้นที่ว่างเปล่า"หรือ"เขตยกเว้น" ที่กว้างกว่าความอดทนของชิ้นส่วน วงจรต่างๆต่าง ๆ จะหลีกเลี่ยงพื้นที่นั้นเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงผลที่ไม่แน่นอน

มันเป็นเรื่องปกติที่จะยอมให้มีความอดทนบางอย่างในระดับแรงดันไฟฟ้าที่ถูกใช้ ตัวอย่างเช่น 0-2 โวลต์อาจเป็นตัวแทนของลอจิก 0 และ 3 ถึง 5 โวลต์เป็นลอจิก 1 แรงดันไฟฟ้าของ 2 ถึง 3 โวลต์จะไม่ถูกต้องและจะเกิดขึ้นเฉพาะในสภาพผิดปรกติหรือในระหว่างการเปลี่ยนผ่าน ระดับลอจิกเท่านั้น อย่างไรก็ตาม วงจรลอจิกไม่กี่วงจรสามารถตรวจสอบเงื่อนไขดังกล่าวและอุปกรณ์ส่วนใหญ่จะตีความสัญญาณเพียงเป็นสูงหรือต่ำในลักษณะที่ไม่ได้กำหนดไว้หรือลักษณะเฉพาะของอุปกรณ์นั้นๆนั้น ๆ บางอุปกรณ์ลอจิกประกอบด้วยอินพุทแบบชมิตต์ทริกเกอร์ที่มีพฤติกรรมที่กำหนดเกณฑ์การอดทนได้ดีกว่าและได้เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับอินพุตที่มีแรงดันไฟฟ้าขนาดเล็ก