ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ย็อนซันกุน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
คำผิด เดี๋ยว เป็น เดียว ,แหลวแหลก เป็น เหลวแหลก
บรรทัด 38:
เจ้าชายย็อนซันประสูติเมื่อค.ศ. 1476 เป็นพระโอรสของ[[พระเจ้าซองจงแห่งโชซอน|พระเจ้าซองจง]]กับพระมเหสีจากตระกูลยุน เรียกว่า ''วอนจา'' (원자, 元子) คือ พระโอรสองค์แรกที่ประสูติแต่พระมเหสี แต่พระราชมารดาทรงได้ชื่อว่ามีความหึงหวงอย่างมากและด้วยความกดดันจากพระพันปีอินซู พระอัยยิกาของ''วอนจา''จึงปลดพระมเหสียุนจากตำแหน่งและเนรเทศออกนอกวังไปในค.ศ. 1479 และถูกสำเร็จโทษไปในค.ศ. 1482 ''วอนจา''จึงทรงอยู่ภายใต้การเลี้ยงดูของพระมเหสีองค์ใหม่ คือ พระมเหสีจองฮย็อน (정현왕후, 貞顯王后) และในค.ศ. 1483 ''วอนจา''ก็ได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าชายรัชทายาท
 
เมื่อพระเจ้าซองจงสวรรคตในค.ศ. 1494 เจ้าชายรัชทายาทจึงขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป ขุนนางที่มีอำนาจมาตั้งแต่รัชสมัยของพระเจ้าซองจงได้แก่ยุนพิลซัง (윤필상, 尹弼商) ลีกึกดน (이극돈, 李克墩) และยูจากวาง (유자광, 柳子光) ก็ยังคงมีอำนาจต่อ ขณะเดี๋ยวกันเดียวกันต้องต่อสู้กับการโจมตีของขุนนางฝ่ายซาริม (사림파, 士林派)
 
ในค.ศ. 1498 ขณะมีการจัดทำบันทึกประวัติศาสตร์รัชกาลพระเจ้าซองจงนั้น คิมอิลซุน (김일손, 金馹孫) ขุนนางฝ่ายซาริมคนหนึ่ง ได้อ้างอิงข้อความจากหนังสือเรื่อง ''ความเสียใจต่อพระองค์ผู้ทรงธรรม'' (조의제문, 弔義帝文) ของคิมจงจิก (김종직, 金宗直) ขุนนางสมัยพระเจ้าซองจงและอาจารย์ของตน มาเขียนในบันทึกประวัติศาสตร์ว่าการยึดอำนาจของ[[พระเจ้าเซโจ]]จาก[[เจ้าชายโนซาน]] (노산군, 魯山君) นั้นไม่มีความชอบธรรม เป็นเหตุให้เจ้าชายย็อนซันถึงกับเปิดอ่านบันทึกประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องห้าม<ref>http://www.koreanhistoryproject.org/Ket/C10/E1002.htm</ref> ลีกึกดนและยูจากวางจึงทูลยุยงให้เจ้าชายย็อนซันทำการกวาดล้างขุนนางฝ่ายซาริมจากการกล่าวหาว่าพระเจ้าเซโจซึ่งเป็นพระปัยกานั้นขาดความชอบธรรมในการครองราชย์ เรียกว่า '''การสังหารหมู่ปราชญ์ปีมูโอ''' (무오사화, 戊午士禍) ขุนนางและนักปราชญ์ฝ่ายซานิมจำนวนมากถูกประหารชีวิตและเนรเทศ ส่วนคนที่ตายไปแล้วเช่นคิมจงจิกนั้นก็ได้ถูกขุดศพขึ้นมาทำลาย
บรรทัด 44:
พระเจ้าซองจงมีรับสั่งให้ปิดเรื่องการสำเร็จโทษอดีตพระมเหสียุนเป็นความลับ แต่ในค.ศ. 1504 ลิมซาฮง (임사홍, 任士洪) และชินซูกึน (신수근, 愼守勤) ได้ทูลเรื่องนี้แก่เจ้าชายย็อนซัน ทำให้พิโรธมากและสั่งประหารชีวิตทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้ร้ายพระราชมารดาแม้เพียงเล็กน้อย เรียกว่า '''การสังหารหมู่ปราชญ์ปีคัปจา''' (갑자사화, 甲子士禍) ขุนนางผู้ใหญ่ในสมัยพระเจ้าซองจงเช่นยุนพิลซังล้วนถูกสำเร็จโทษทั้งหมด คนที่เสียชีวิตไปแล้วเช่นฮันมยองฮีก็ถูกขุดศพขึ้นมาทำลาย พระสนมของพระเจ้าซองจง คือ พระสนมควีอิน ตระกูลจอง (귀인 정씨, 貴人 鄭氏) และพระสนมควีอิน ตระกูลออม (귀인 엄씨, 貴人 嚴氏) ถูกสำเร็จโทษและนำพระศพไปทำลาย<ref>http://www.koreanhistoryproject.org/Ket/C10/E1003.htm</ref> รวมทั้งเจ้าชายอันยาง (안양군, 安陽君) และเจ้าชายพงอัน (봉안군, 鳳安君) พระอนุชาที่เป็นพระโอรสของพระสนมจอง ก็ถูกสำเร็จโทษและทำลายพระศพเช่นกัน เจ้าชายย็อนซันสถาปนาพระราชมารดาขึ้นใหม่เป็น พระมเหสีเจฮอน (제헌왕후, 齊獻王后) ทำให้พระหมื่นปีอินซู (인수대왕대비, 仁粹大王大妃) ไม่พอพระทัยเป็นอย่างยิ่ง เกิดการวิวาทกันจนเจ้าชายย็อนซันทำร้ายพระวรกายของพระหมื่นปีอินซูจนสิ้นพระชนม์
 
นับแต่นั้นมาราชสำนักก็เข้าสู่กลียุค ใครก็ตามที่ขัดพระทัยของเจ้าชายย็อนซัยแม้เพียงน้อยนิดล้วนถูกประหารชีวิต เจ้าชายย็อนซันทรงเลิกสนพระทัยกิจการบ้านเมืองและประพฤติตนแหลวแหลกเหลวแหลกใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ทรงให้นางโลมหรือคีแซงเข้ามาอยู่ในพระราชวังเพื่อหลับนอนและสรรหาหญิงงามจากทั่วอาณาจักร โดยเฉพาะนางโลมที่ชื่อว่า จางนกซู (장녹수, 張綠水) ซึ่งเจ้าชายย็อนซันแต่งตั้งให้เป็นพระสนม เจ้าชายย็อนซันทรงล่วงเกินภรรยาของขุนนางทั้งหลาย รวมทั้งพระชายาซึงพยอง (승평부부인, 昇平府夫人) พระชายาของเจ้าชายโวลซานพระปิตุลา จนพระชายาต้องทำอัตวินิบาตกรรมเพื่อหนีความอัปยศ
 
ในค.ศ. 1506 กลุ่มขุนนางประกอบด้วย พัควอนจง (박원종, 朴元宗 เชษฐาของพระชายาซึงพยอง) ซองฮีอัน (성희안, 成希顔) ยูซุนจอง (유순정, 柳順汀) ฯลฯ กระทำการยึดอำนาจนำทัพเข้าบุกพระราชวังคยองบก ปลดเจ้าชายย็อนซันลงจากบัลลังก์ ลดพระยศให้เป็นเจ้าชายธรรมดามีพระนามว่า '''เจ้าชายย็อนซัน''' แล้วเนรเทศไปเกาะคังฮวาพร้อมกับอดีตพระมเหสี คณะรัฐประหารจึงยกเจ้าชายจินซอง (진성대군, 晉城大君) พระอนุชาต่างพระราชมารดาของเจ้าชายย็อนซัน พระโอรสของพระมเหสีจองฮย็อน ขึ้นครองราชย์เป็น[[พระเจ้าจุงจง]] เรียกเหตุการณ์นี้ว่า '''รัฐประหารพระเจ้าจุงจง''' (중종반정, 中宗反正) ไม่นานนักเจ้าชายย็อนซันก็สิ้นพระชนม์