ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อาญาสี่"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Depanom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 6:
ภายหลังเมื่อดินแดนของอาณาจักรล้านช้างบางส่วนตกเป็นประเทศราชของสยามในปี [[พุทธศักราช ๒๓๒๒]] แล้ว ทางรัฐบาลส่วนกลางของสยามก็ยังคงปล่อยให้ดินแดนลาวทั้งหมดและดินแดนภาคอีสานเกือบทั้งหมดใช้การปกครองด้วยระบบอาญาสี่ต่อไป ยกเว้นหัวเมืองบางส่วนในเขตเมือง[[นครราชสีมา]] และดินแดนที่เรียกว่าเขมรป่าดง อันได้แก่ พื้นที่บางส่วนในจังหวัด[[บุรีรัมย์]] [[สุรินทร์]] และ[[ศรีสะเกษ]] และเมืองขึ้นบางเมืองของเมืองเหล่านี้เท่านั้น ที่ใช้การปกครองระบบ[[จตุสดมภ์]] เช่นเดียวกับสยาม ระบบเหล่านี้ได้ใช้มาจนถึงช่วงกลางของรัชกาลที่ ๕ จึงมีการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารราชการแผ่นดินเป็นระบบการรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง ในกรณีหัวเมืองลาวฝั่งขวาได้ยกเลิกระบบอาญาสี่หลังปฏิรูปการปกครองพุทธศักราช ๒๔๔๔ ส่วนกรณีหัวเมืองลาวฝั่งซ้ายนั้นได้ถูกใช้เรื่อยมา จนถึงยุคสถาปนาราชอาณาจักรลาวในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ จากนั้นมีการแต่งตั้งพระราชอิสริยยศมกุฏราชกุมารขึ้นเพื่อสืบทอดรัชทายาทจากฝ่ายวังหลวง ตำแหน่งอุปฮาตจึงลดความสำคัญลง และระบบอาญาสี่ได้ถูกยกเลิกไปโดยปริยายหลังการประกาศสละราชบัลลังก์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนาเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๑๘ ระบบอาญาสี่ แบ่งชั้นการปกครองออกเป็น ๔ ระดับ คือ
*'''เจ้าเมือง หรือ อาชญาหลวง'''
*'''อุปฮาต หรือ อุปฺปหาส''' (เจ้าพระยาอุปราชาหอหน้า)
*'''ราชวงศ์ หรือ ราสชวง''' (เจ้าพระยาราชวงสา)
*'''ราชบุตร หรือ ราสบุด''' (เจ้าย่ำกระหม่อมสมเด็จพระเปนเจ้าราชบุตอุตตมโอรสส พระราชวังบวรสถานมงคลหอคำฝ่ายหลัง)
*'''ราชบุตร หรือ ราสบุด'''
 
== วิธีการเขียนคำในสมัยโบราณ ==