ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระนางเชงสอบู"

'''พระนางเชงสอบู''' เป็นพระราชธิดาใน[[พระเจ้าราชาธิราช]] แห่งกรุง[[หงสาวดี]] [[อาณาจักรมอญ]] เมื่อพระราชบิดาคือพระเจ้าราชาธิราชสวรรคต ผู้ที่ได้สืบราชสมบัติต่อมาคือ พระธรรมราชา แต่พระอนุชาของพระองค์พระยารามและพระยาแคงไม่พอใจพอพระทัย จึงไปสวามิภักดิ์กับพระเจ้าสีหสู แห่งกรุงอังวะ พระธรรมราชาไม่ปรารถนาที่จะรบพุ่งกับพม่า พระองค์จึงได้ประนีประนอมกับพระอนุชาโดยให้พระยารามเป็นมกุฎราชกุมารไปครองเมือง[[พะสิม]] และพระยาแคงไปครองเมือง[[เมาะตะมะ]] ภายหลังครั้นถึงสมัยรัชกาลของพระยาราม พระองค์ได้นำพระขนิษฐาของพระองค์คือพระนางเชงสอบูส่งไปถวายแก่พระเจ้าสีหสู แห่งกรุงอังวะ ซึ่งเป็นการตอบแทนที่ได้ช่วยเหลือให้พระองค์ได้ขึ้นเสวยในการครองราชย์ที่กรุงหงสาวดี ขณะนั้นพระนางมีพระชนมายุ 29 พรรษา เป็นแม่ม่ายมีพระโอรส 1 พระองค์ และพระธิดา 2 พระองค์ ได้แก่พระยาพารู (Byinnya Paru), เนตาคาตอ (Netaka Taw) และเนตาคาถิ่นเนตาคาถิน (Netaka Thin)<ref name=my-2-58>Kala Vol. 2 2006: 58</ref>

พระเจ้าสีหสูได้มีความหลงใหลเสน่หาแก่พระนางเป็นอย่างยิ่ง ทำให้พระนางเชงโบเม (Shin  '''Bo Mai-Me''') พระมเหสีเก่าซึ่งมีสายสัมพันธ์กับทางไทใหญ่เกิดความอาฆาตริษยา พระนางเชงโบเมจึงไปสมคบคิดกับไทใหญ่ให้ยกทัพมาตีอังวะกลายเป็นสงครามที่รุนแรง พระเจ้าสีหสูทรงออกรบเองจนสวรรคตใน [[พ.ศ. 19691968]] พระโอรสที่เกิดกับพระชายาองค์เก่าจึงได้ครองราชสมบัติ แต่สงครามยังไม่สิ้นสุดลง กษัตริย์องค์ต่อมาก็สวรรคต ต่อมามีคนชื่อมังตราคุมพระเจ้าโมฮยินธะโด (Mohnyin Thado)ได้พระเจ้ากะเลเจตองนโย

สมัครพรรคพวกฆ่าพระนางเชงพระน

างเชงโบเมทิ้งแล้วตั้งตนเป็นพระเจ้ากรุงอังวะ<ref>'''งานค้นคว้าเรื่องชนชาติไทย'''. หน้า 214</ref>