ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าช็องโจแห่งโชซ็อน"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Beersongphon (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
Beersongphon (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
{{ปรับภาษา}}
{{
{{กล่องข้อมูล เชื้อพระวงศ์
| ชื่อ = พระเจ้าช็องโจแห่งโชซ็อน
| native_name =
| native_language =
| ภาพ = ไฟล์:
| ภาพกว้าง = 250px
| คำบรรยาย = พระ
| พระราชลัญจกร =
| พระลัญจกร =
| พระบรมนามาภิไธย =
| พระนามาภิไธย =
| พระปรมาภิไธย = '''พระเจ้า
| พระนาม =
| พระนามเดิม =
เส้น 30 ⟶ 29:
| ฐานันดร =
| ราชวงศ์ = [[ราชวงศ์โชซ็อน|โชซ็อน]]
| ครองราชย์ =
| ทรงราชย์ =
| บรมราชาภิเษก =
| ราชาภิเษก =
| ระยะครองราชย์ =
| ระยะเวลาครองราชย์ = {{อายุปีและวัน|1776|
| รัชกาลก่อนหน้า = [[พระเจ้า
| รัชกาลถัดไป = [[พระเจ้าซุนโจ]]
| รัชกาลถัดมา =
เส้น 50 ⟶ 49:
| พระบรมศพ =
| พระศพ =
| พระราชสมภพ = {{
| วันพระราชสมภพ =
| ราชสมภพ =
เส้น 60 ⟶ 59:
| ราชสมภพที่ =
| ประสูติที่ =
| สวรรคต = {{
| วันสวรรคต =
| สิ้นพระชนม์ =
เส้น 77 ⟶ 76:
| พระราชบิดา = [[องค์ชายรัชทายาทซาโด]]
| พระบิดา =
| พระราชมารดา = [[
| พระมารดา =
| พระอัครมเหสี =
| พระมเหสี = [[พระมเหสีฮโยอึย]]
| พระสนม = [[พระสนมอึยพิน แห่งตระกูล
| พระชายา =
| ชายา =
เส้น 106 ⟶ 105:
| mrborn = Yi San
}}
[[ไฟล์:Pilgukhwado.jpg|thumb|right|ภาพดอกไม้ภาพวาดฝีพระหัตถ์ของ [[พระเจ้า
'''พระเจ้า
▲'''พระเจ้าช็องโจ''' (28 ตุลาคม ค.ศ. 1752 — 18 สิงหาคม ค.ศ. 1800) เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 22 แห่งราชอาณาจักรโชซ็อน (ค.ศ. 1776–1800) ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในพระมหากษัตริย์ที่ทรงคุณประโยชน์ที่สุดแห่งอาณาจักรโชซ็อนคู่กับพระอัยกาคือ [[พระเจ้าย็องโจ]] รัชสมัยของพระเจ้าช็องโจเป็นสมัยแห่งความเปลี่ยนแปลงทางความคิดและสังคมของเกาหลี ทรงสนับสนุนวิทยาการสมัยใหม่และทรงมีโครงการใหญ่มากที่จะย้ายเมืองหลวงไปที่ฮวาซ็อง โดยทรงสร้างป้อมขนาดใหญ่ คือ [[ป้อมฮวาซ็อง]]
== องค์ชายรัชทายาทซาโด ==
พระเจ้าช็องโจมีพระอัตชีวประวัติค่อนข้างละเอียดในหนังสือ ''บันทึกในความเงียบ'' (한중록, 閑中錄) ของพระราชมารดา<ref>JaHyun Kim Haboush, ''The Memoir of Lady Hyegyong: The Autobiographical Writings of a Crown Princess of Eighteenth-Century Korea''.</ref> ([[ฮเย-กย็องกุง|พระชายาฮเยบิน ตระกูลฮง]]) โดยพระเจ้าช็องโจ ประสูติเมื่อปี [[ ค.ศ. 1752]] พระนามว่า '''อี ซัน''' (Yi san) เป็นพระโอรสของ [[องค์ชายรัชทายาทซาโด]] (사도세자, 思悼世子) และ[[ฮเย-กย็องกุง|พระชายาฮเยบิน ตระกูลฮง]] พระเจ้าช็องโจมีพระเชษฐา คือ พระนัดดารัชทายาทอึยโซ (의소세손, 懿昭世孫) ซึ่งสิ้นพระชนม์ไปก่อนพระเจ้าช็องโจประสูติหกเดือน พระเจ้าช็องโจได้รับแต่งตั้งเป็นพระนัดดารัชทายาท (왕세손, 王世孫) เมื่อปี ค.ศ. 1759 จากพระเจ้าย็องโจ▼
▲พระเจ้าช็องโจมีพระอัตชีวประวัติค่อนข้างละเอียดในหนังสือ ''บันทึกในความเงียบ'' (한중록, 閑中錄) ของพระราชมารดา<ref>JaHyun Kim Haboush, ''The Memoir of Lady Hyegyong: The Autobiographical Writings of a Crown Princess of Eighteenth-Century Korea''.</ref> ([[
พระราชบิดา คือ องค์ชายรัชทายาทซาโด เกิดมีอาการทางพระสติไล่เข่นฆ่าผู้คน จนถูกพระเจ้าย็องโจลงพระอาญาปลดจากตำแหน่งและขังไว้ในกล่องไม้เจ็ดวันสิ้นพระชนม์เมื่อปี ค.ศ. 1762 โดยเหตุการณ์สำเร็จโทษองค์ชายรัชทายาทซาโดนั้นทำให้เกิดการแตกแยกในหมู่ขุนนาง คือ ฝ่ายที่เห็นชอบกับการสำเร็จโทษขององค์ชายรัชทายาทยาทซาโด เรียกว่า '''ฝ่ายพย็อกพา''' (벽파, 僻派) และฝ่ายที่ไม่เห็นชอบกับการสำเร็จโทษองค์ชาย และควรจะคืนตำแหน่งและเกียรติยศให้ดังเดิม เรียกว่า '''ฝ่ายชิพา''' (시파, 時派) และเหตุการณ์นี้ยังทำให้ความชอบธรรมในราชบัลลังก์ของพระนัดดารัชทายาทเสื่อมลงเพราะเป็นพระโอรสของอาชญากร พระเจ้าย็องโจจึงทรงให้พระนัดดารัชทายาทไปเป็นพระโอรสบุญธรรมของ [[องค์ชายรัชทายาทฮโยจัง]] (พระปิตุลาที่สิ้นพระชนม์ไปแล้ว) เมื่อปี ค.ศ. 1764▼
▲พระราชบิดา คือ องค์ชายรัชทายาทซาโด เกิดมีอาการทางพระสติไล่เข่นฆ่าผู้คน จนถูกพระเจ้า
ในปี [[ค.ศ. 1775]] พระเจ้า
== รัชสมัย ==
วังเซซนครองราชย์ใน
{{quote|อ้า ข้าคือพระโอรสขององค์ชายรัชทายาทซาโด กษัตริย์องค์ก่อน (พระเจ้า
พระเจ้าช็องโจทรงมีความมุ่งมั่นที่จะลบล้างมลทินของพระราชบิดาและให้มีเกียรติยศสมกับเป็นพระราชบิดาของกษัตริย์ ท่ามกลางเสียงคัดค้านของขุนนางฝ่าย
[[ไฟล์:정조.jpg|thumbnail|พระเจ้าจองโจ|140px]]รัชสมัยของพระเจ้าช็องโจเริ่มต้นด้วยการนองเลือด พระเจ้าช็องโจด้วยคำแนะนำของ
พระเจ้าช็องโจทรงสานต่อนโยบายเพื่อความสมานฉันท์ (탕평책, 蕩平策) ของพระอัยกา<ref>Michael J. Seth. ''A concise history of Korea: from the neolithic period through the nineteenth century''.</ref> แต่แทนที่จะห้ามไม่ให้มีการแบ่งฝ่ายพระเจ้าช็องโจทรงยอมรับการแบ่งฝ่ายของขุนนางและทรงอุปถัมภ์ขุนนางแต่ละฝ่ายอย่างเท่าเทียมเพื่อมิให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอำนาจมากจนเกินไป หลังจากที่กำจัดขุนนางตระกูลฮงออกไปแล้ว ขุนนางฝ่ายโนนนพ
[[ไฟล์: Juhamnu, Changdeokgung - Seoul, Korea.JPG|thumb|คยูจังกัก หรือ จูฮัมมู ใน[[พระราช
พระเจ้าช็องโจทรงตั้งหอสมุดหลวง หรือ ''คยูจังกัก'' (규장각, 奎章閣) เมื่อ
ในรัชสมัยของพระเจ้าช็องโจ
▲พระเจ้าช็องโจทรงตั้งหอสมุดหลวง หรือ ''คยูจังกัก'' (규장각, 奎章閣) เมื่อ ค.ศ. 1776 ไว้สำหรับเป็นที่เก็บตำราและเป็นสถานศึกษาของบัณฑิตอายุน้อยอย่างใกล้ชิดพระองค์ ซึ่งเป็นการสร้างฐานสนับสนุนของพระองค์เองในภายภาคหน้า
▲ในรัชสมัยของพระเจ้าช็องโจ ฮงกุกย็อง ซึ่งเป็นที่ปรึกษาส่วนพระองค์มาตั้งแต่สมัยที่เป็นพระนัดดารัชทายาทนั้น เรืองอำนาจมาก ทูลสิ่งใดพระเจ้าช็องโจจะทรงเชื่อเสมอ ฮงกุกย็องส่งน้องสาวของตนเองมาเป็นพระสนมของพระเจ้าช็องโจ คือ พระสนมว็อนบิน ตระกูลฮง (원빈 홍씨, 元嬪 洪氏) เมื่อ ค.ศ. 1778 และรับเอาองค์ชายซังกเย (상계군, 常溪君 พระโอรสขององค์ชายอึนนอน) มาเป็นพระโอรสบุญธรรมของพระเจ้าช็องโจและพระสนมว็อนบิน ปรากฏว่าพระสนมว็อนบินเสียชีวิตไปใน ค.ศ. 1779 ฮงกุกย็องเชื่อว่าน้องสาวของตนเสียชีวิตด้วยการวางยาพิษจากพระมเหสีฮโยอึย (효의왕후, 孝懿王后) จึงวางแผนลอบปลงพระชนม์พระมเหสีเพื่อแก้แค้นแต่ถูกจับได้ คิมจงซูจึงถือโอกาสทำการแก้แค้นเช่นกันโดยการทูลยุยงให้พระเจ้าช็องโจว่าฮงกุกย็องวางแผนจะก่อการกบฏยกองค์ชายซังกเยขึ้นมาเป็นกษัตริย์แทน ฮงกุกย็องถูกเนรเทศไปเมื่อ ค.ศ. 1780 และเสียชีวิตใน ค.ศ. 1781
▲ใน ค.ศ. 1782 พระเจ้าช็องโจมีพระโอรสกับพระสนมอึยบิน ตระกูลซ็อง (의빈 성씨, 宜嬪 成氏) แต่เดิมนั้นพระสนมอึยบินมีพระนามว่า ซงย็อน หรืองซ็องซงย็อน และทรงแต่งตั้งให้เป็นองค์ชายรัชทายาท แต่ก็สิ้นพระชนม์ไปใน ค.ศ. 1786 ด้วยโรคหัด ซึ่งปีเดียวกับพระสนมอึยบินสิ้นพระชนม์ด้วยโรคเนื้อร้าย ได้รับพระนามว่า องค์ชายรัชทายาทมุนฮโย (문효세자, 文孝世子) และมีพระนามจริงว่า ซ็องจา ต่อมาใน ค.ศ. 1790 พระเจ้าช็องโจก็มีพระโอรสกับพระสนมซูบิน ตระกูลพัก (수빈 박씨, 綏嬪 朴氏) แต่งตั้งเป็นองค์ชายรัชทายาท (ภายหลังขึ้นครองราชย์เป็น [[พระเจ้าซุนโจ]])
== วิทยาการสมัยใหม่และการปฏิรูป ==
เกาหลีในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ได้เกิดกระแสของหลักปรัชญาอย่างใหม่ที่เน้นการประยุกต์ใช้ปฏิบัติได้จริง เรียกว่า ''ชิลฮัก'' (실학, 實學) ซึ่งตรงกันข้ามกับหลักปรัชญาขงจื้อใหม่ (성리학, 性理學) ซึ่งเป็นลัทธิความเชื่อหลักของชาวเกาหลีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ซึ่งยึดติดกับพิธีกรรมและเป็นนามธรรมมากจนเกินไป พระเจ้าช็องโจมีพระสมัญญานามว่า ทรงเป็น "กษัตริย์ชิลฮัก" เพราะทรงสนพระทัยในปรัชญาอย่างใหม่นี้ และทรงอุปถัมภ์นักปราชญ์และขุนนางจำนวนมากในลัทธินี้ โดยเฉพาะในคยูจังกัก ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของขุนนางที่จะมีส่วนในการปฏิรูปของพระเจ้าช็องโจ
วิทยาการชิลฮักในรัชสมัยของพระเจ้าช็องโจมีสำนักกลุ่ม คือ สำนัก''
พระเจ้าช็องโจทรงอุปถัมป์ขุนนางจากทั้งสองสำนักนี้ มาเป็นที่ปรึกษาประจำพระองค์ โดยทรงชุบเลี้ยงไว้ที่ ''คยูจังกัก'' ได้แก่ แชเจกง (채제공, 蔡濟恭)
ถึงแม้ว่าจะมีนักปราชญ์จากสำนัก
[[ไฟล์:Hwaseong2.jpg|thumb|left|200px|เมือง
ในช่วงปลายรัชสมัยของพระเจ้าช็องโจ ช่วงเวลาที่ขุนนางฝ่ายใต้มีอำนาจ เป็นช่วงเวลาแห่งการปฏิรูปอย่างรุนแรงของพระเจ้าช็องโจจนเป็นที่ต่อต้านของขุนนางฝ่ายโนนนพ
พระเจ้าช็องโจทรงย้ายไปประทับที่เมือง
▲ในช่วงปลายรัชสมัยของพระเจ้าช็องโจ ช่วงเวลาที่ขุนนางฝ่ายใต้มีอำนาจ เป็นช่วงเวลาแห่งการปฏิรูปอย่างรุนแรงของพระเจ้าช็องโจจนเป็นที่ต่อต้านของขุนนางฝ่ายโนนนพย็อกพา ขุนนางฝ่ายโนนนรุ่นใหม่นำโดย ชิมฮวันจี (심환지, 沈煥之) รวบรวมขุนนางฝ่ายอนุรักษนิยมคอยจะคัดค้านการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายที่พระเจ้าช็องโจทรงปรารถนา ที่ร้ายแรงที่สุดคือใน ค.ศ. 1794 ทรงให้ตรวจสอบการถือครองที่ดินใหม่ทั้งประเทศและทรงวางแผนจะสร้างเมืองฮวาซ็อง (화성, 華城) ไว้เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่และเป็นพระสุสานแห่งใหม่ของพระราชบิดา ออกแบบโดย ช็องยักย็อง ซึ่งสามารถประดิษฐ์เครื่องจักรเครื่องมือในการก่อสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ เป็นพัฒนาการทางเทคโนโลยีของเกาหลีอย่างไม่เคยมีมาก่อน หลังจากใช้เวลาสองปีเมืองฮวาซ็องก็เสร็จสมบูรณ์ใน ค.ศ. 1796 พระเจ้าช็องโจประทานรางวัลแก่ราษฏรที่ย้ายไปยังเมืองฮวาซ็องและไม่ต้องเสียภาษีไปห้าปี
▲พระเจ้าช็องโจทรงย้ายไปประทับที่เมืองฮวาซ็องเป็นส่วนใหญ่ โดยทรงจัดพิธีแซยิดให้กับพระราชมารดาพระนางฮเย-กย็องกุงอย่างใหญ่โตเป็นการประเดิมใน ค.ศ. 1795 และทรงย้ายพระสุสานขององค์ชายรัชทายาทจังฮ็อนมาไว้ที่เมืองฮวาซ็อง พระราชทานชื่อสุสานใหม่ว่า ''ฮย็อนยุงว็อน'' (현륭원, 顯隆園) พระเจ้าช็องโจทรงมีแผนการพัฒนาเมืองฮวาซ็องอีกมากมาย แต่ก็สวรรคตไปเสียก่อนใน ค.ศ. 1800 องค์ชายรัชทายาทขึ้นครองราชสมบัติต่อ เป็น พระเจ้าซุนโจ (순조, 純祖) พระสุสานของพระเจ้าช็องโจมีนามว่า ''ค็อนนึง'' (건릉, 健陵)
== ปัญหาภายในฝ่ายใน ==
ในช่วงเริ่มต้นที่พระองค์เริ่มขึ้นครองราชได้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและได้เกิดการจลาจลขึ้น ในช่วงแรกได้ถูกกล่าวขานว่าเป็นพระราชาผู้ปกครองด้วยความโหดร้าย แต่ในภายหลังผ่านการปกครองของพระองค์ไปได้ระยะหนึ่งของพระองค์
ในศตวรรษที่ 18 ได้เกิดปัญหาการค้ามนุษย์ขึ้น โดยสืบค้นพบว่า เป็นพ่อค้าจากต้าชิงที่ปล่อยเงินกู้ และนำลูกหนี้ไปค้าทาส ทำให้เกิดปัญหากับเมืองต้าชิง จนถึงขั้นสงครามแต่ได้รับการช่วยเหลือจากพระสนม
▲ในศตวรรษที่ 18 ได้เกิดปัญหาการค้ามนุษย์ขึ้น โดยสืบค้นพบว่า เป็นพ่อค้าจากต้าชิงที่ปล่อยเงินกู้ และนำลูกหนี้ไปค้าทาส ทำให้เกิดปัญหากับเมืองต้าชิง จนถึงขั้นสงครามแต่ได้รับการช่วยเหลือจากพระสนมซ็องหรือพระสนมอึยบินเป็นตัวกลางช่วยสมานฉันและยังทรงแก้ปัญหาเศรษฐกิจในยุคนั้น โดยการส่งออกสินค้าไปยังจีน
== สิ้นพระชนม์และมรดก ==
การสวรรคตของพระเจ้าช็องโจทำใหพัฒนาการของประเทศเกาหลีทุกอย่างหยุดชะงักลง ด้วยการที่พระเจ้าซุนโจขึ้นครองราชย์เมื่อยังทรงพระเยาว์ทำให้พระอัยยิกาคิม หรือพระมเหสี
== พระนามเต็ม ==
'''สมเด็จพระราชา
== พระราชวงศ์ ==
* พระราชบิดา: [[องค์ชายรัชทายาทซาโด]] (사도세자, 1735–1762) ภายหลังได้รับการแต่งตั้งเป็น พระเจ้า
* พระราชมารดา: [[
* พระมเหสี: [[พระมเหสีฮโยอึย|สมเด็จพระราชินีฮโยอึย]] ตระกูลคิม แห่ง
* พระสนม
** [[พระสนมอึยพิน แห่งตระกูล
** [[พระสนม
** พระสนมฮวาบิน ตระกูลยุน แห่ง
** [[พระสนมซุกกี จากตระกูล
* พระโอรส
** [[องค์
** [[พระเจ้าซุนโจ|องค์ชาย
** [[องค์ชายซังกเย]]
* พระธิดา
** องค์หญิงไม่ปรากฏพระนาม (1784 - ?) พระราชธิดาของพระสนมอึยบิน ตระกูล
** องค์หญิงไม่ปรากฏพระนาม (1781 - ?) พระราชธิดาของพระสนมฮวาบิน ตระกูลยุน แห่ง
** องค์หญิงซุกซ็อน (숙선옹주, 1793 - 1836) พระราชธิดาของพระสนมซูบิน ตระกูล
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
{{เริ่มกล่อง}}
{{สืบตำแหน่ง
| รูปภาพ = Coat_of_arms_of_Joseon_Korea.gif
| ก่อนหน้า = [[พระเจ้า
| ตำแหน่ง = พระราชาแห่งราชอาณาจักรโชซ็อน
| ปี =
| ถัดไป = [[พระเจ้าซุนโจ]]
}}{{จบกล่อง}}
เส้น 198 ⟶ 190:
{{กษัตริย์ราชวงศ์โชซ็อน}}
{{เรียงลำดับ|จ}}
{{
{{death|1800}}
[[หมวดหมู่:บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2295]]
[[หมวดหมู่:ราชวงศ์โชซ็อน]]
|