ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าย็องโจแห่งโชซ็อน"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม) ย้อนการแก้ไขที่ 6718711 สร้างโดย Beersongphon (พูดคุย) |
Beersongphon (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 49:
| พระบรมศพ =
| พระศพ =
| พระราชสมภพ = {{birth date|1694|09|13}}<br/>[[พระราชวังชังด็อกกุง]] [[เกาหลี]]
| วันพระราชสมภพ =
| ราชสมภพ =
บรรทัด 79:
| พระมารดา =
| พระอัครมเหสี =
| พระมเหสี = [[พระมเหสี
| พระสนม = [[พระสนมช็องบิน ตระกูลอี|พระนางย็อนโฮ]],<br /> [[พระสนมย็อง จากตระกูลอี|พระนางซ็อนฮี]]
| พระชายา =
| ชายา =
บรรทัด 117:
== ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายโนนนและฝ่ายโซนน ==
พระเจ้าย็องโจประสูติเมื่อค.ศ. 1694 เป็นพระโอรสของ[[พระเจ้าซุกจง]] กับ[[พระสนมซุกบิน ตระกูลชเว]] ได้รับพระนามเป็น '''องค์ชายย็อนอิง''' (연잉군 延礽君) ทรงเป็นองค์ชายที่ขุนนางฝ่ายตะวันตกให้การสนับสนุน มีพระเชษฐาต่างพระราชมารดาซึ่งเป็นพระโอรสของพระสนมฮีบิน ตระกูลชัง เมื่อปลายรัชสมัยพระเจ้าซุกจงขุนนางแตกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายตะวันตก (노론, 老論) สนับสนุนองค์ชายย็อนอิง ขณะที่ฝ่ายใต้ (소론, 少論) สนับสนุนองค์ชายรัชทายาท เมื่อค.ศ. 1720 พระเจ้าซุกจงสวรรคต องค์ชายรัชทายาทขึ้นครองราชย์เป็น[[พระเจ้าคย็องจงแห่งโชซ็อน|พระเจ้าคย็องจง]]
แต่ทว่าพระเจ้าคย็องจงมีพระพลานามัยที่ไม่สู้จะดีนัก ทรงใช้เวลาทั้งรัชสมัยส่วนใหญ่ไปกับการประชวรทำให้ทรงว่าราชการไม่ได้ และอำนาจจึงตกแก่ขุนนางฝ่ายโซนน ที่สำคัญพระเจ้าคย็องจงทรงไม่มีพระโอรสไว้สืบทอดราชบัลลังก์ ขุนนางฝ่ายโนนนจึงยื่นฎีกาถวายขอให้แต่งตั้งองค์ชายย็อนอิงเป็น พระอนุชารัชทายาท (왕세제, 王世弟) ซึ่งพระเจ้าคย็องจงก็ทรงอนุมัติเมื่อค.ศ. 1721 แต่เมื่อขุนนางฝ่ายโนนนพยายามจะผลักดันพระอนุชารัชทายาทขึ้นมาอีกขั้นโดยการขอให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ขุนนางโซนนจึงกล่าวหาว่าฝ่ายโนนนกำลังพยายามจะผลักดันให้องค์ชายย็อนอิงขึ้นมาเป็นกษัตริย์แทนพระเจ้าคย็องจง จึงเกิดการกวาดล้างขุนนางฝ่ายโนนนเมื่อค.ศ. 1722 ที่เรียกว่า '''การลงทัณฑ์ปีชินอิม''' (신임옥사, 辛壬獄事) ขุนนางฝ่ายโนนนถูกประหารชีวิตและเนรเทศ<ref>Jae Un-Kang, Jae Eun-Kang. ''The land of scholars: two thousand years of Korean Confucianism''.</ref> รวมถึงพระสนมโซฮุน ตระกูลอี ซึ่งเป็นพระสนมของพระอนุชารัชทายาท (ภายหลังได้เป็น พระสนมช็องบิน ตระกูลอี 정빈 이씨, 靖嬪 李氏) และเป็นมารดาขององค์ชายคย็องอี (경의군, 敬義君 ภายหลังเป็น องค์ชายรัชทายาทฮโยจัง) ถูกสำเร็จโทษไปในคราวนี้ด้วย
บรรทัด 126:
แม้จะทรงขึ้นครองราชสมบัติแล้วพระเจ้าย็องโจยังต้องทรงเผชิญกับปัญหาการต่อต้านจากฝ่ายโซนน ขุนนางฝ่ายโซนนกล่าวหาว่าฝ่ายโนนนได้กระทำการลอบปลงพระชนม์พระเจ้าคย็องจงเพื่อนำพระเจ้าย็องโจขึ้นครองราชย์ พระเจ้าย็องโจจึงทรงประกาศแผนการเพื่อความสมานฉันท์ (탕평책, 蕩平策)<ref>Michael J. Seth. ''A concise history of Korea: from the neolithic period through the nineteenth century''.</ref> ในปีค.ศ. 1728 เป็นการประกาศยุติการแบ่งฝ่ายของขุนนางและลงโทษขุนนางที่แสดงออกเป็นฝักฝ่าย แต่กลายเป็นว่าขุนนางฝ่ายโซนนกลายเป็นเป้าโจมตีถึงการแบ่งพรรคแบ่งพวก ทำให้ขุนนางฝ่ายโซนนต้องโทษและถูกเนรเทศออกราชสำนักจนหมด ฝ่ายโนนนจึงขึ้นมามีอำนาจ จนทำให้ขุนนางฝ่ายโซนนที่ถูกเนรเทศ นำโดย อีอินจวา (이인좌, 李麟佐) ก่อการกบฏในปีค.ศ. 1729 เพื่อยึดบัลลังก์ให้กับองค์ชายมิลพง (밀풍군, 密豊君 โหลนของ องค์ชายรัชทายาทโซฮย็อน) แต่ฝ่ายพระเจ้าย็องโจก็สามารถปราบปรามกบฏลงได้ ทำให้ฝ่ายโซนนถูกกวาดล้างไปหมดสิ้น
ในสมัยพระเจ้าย็องโจ การค้าของโชซ็อนพัฒนาขึ้นมามาก<ref>http://www.koreaaward.com/kor/history/151</ref> ผู้คนในทุกระดับชั้นตั้งแต่ชาวบ้านถึงขุนนางพากับประกอบธุรกิจการค้า ชนชั้นพ่อต้าเรืองอำนาจและได้รับการสนับสนุนจากราชสำนักในการผูกขาดสินค้าแต่ละชนิดให้เป็นของตน เป็นการละทิ้งแนวความคิดแบบ[[ขงจื้อ]]เดิม ที่ประมาณอาชีพค้าขายว่าเป็นอาชีพที่ต้อยต่ำ แต่ถ้าจะเทียบกับเพื่อนบ้านอย่าง[[ราชวงศ์ชิง]]หรือ[[ญี่ปุ่น]]แล้ว กิจกรรมการค้าในเกาหลีนั้นยังไม่พัฒนาไปถึงขั้นนั้น เพียงแต่จากเดิมที่กิจกรรมการค้าจะมีนานๆทีก็กลายเป็นมีทุกวัน โดยเฉพาะใน[[ฮันยาง]]
องค์ชายรัชทายาทสิ้นพระชนม์เมื่อค.ศ. 1728 ได้รับพระนาม องค์ชายรัชทายาทฮโยจัง (효장세자, 孝章世子) พระเจ้าย็องโจจึงทรงขาดรัชทายาท จนกระทั่งพระสนมย็องบิน ตระกูลอี (영빈 이씨, 暎嬪 李氏) ประสูติพระโอรสในค.ศ. 1735 ในขณะที่พระมเหสีไม่มีพระโอรส พระเจ้าย็องโจจึงทรงตั้งขึ้นเป็น ภายหลังได้รับพระนาม องค์ชายรัชทายาทซาโด (사도세자, 思悼世子)
บรรทัด 136:
=== องค์ชายซาโด ===
{{main|องค์ชายรัชทายาทซาโด}}
พระเจ้าย็องโจทรงเข้มงวดกับองค์ชายรัชทายาทอย่างมาก จนสร้างความเครียดให้กับองค์ชายทายาทจนทรงเสียพระสติ ทรงเข่นฆ่าข้าราชบริพารและนางรับใช้ แอบลักลอบออกไปประพาสนอกพระราชวัง จนในค.ศ. 1762 ขุนนางฝ่ายโนนนที่ชื่อว่า นาคย็องออน (나경언, 羅景彦) ซึ่งน้องชายได้ถูกองค์ชายรัชทายาทสังหาร ได้ถวายฎีกาขอให้พระเจ้าย็องโจทรงลงพระอาญาองค์ชายรัชทายาท ขุนนางฝ่ายโนนนพากันรบเร้าให้พระเจ้าย็องโจทำตามฎีกาของนาคย็องออน พระเจ้าย็องโจยังทรงลังเลอยู่จนกระทั่งพระสนมย็องบิน<ref>http://www.koreanhistoryproject.org/Ket/C15/E1501.htm</ref> พระราชมารดาขององค์ชายรัชทายาท ขอให้พระเจ้าย็องโจทรงทำตามเพื่อความสงบของประเทศ องค์ชายรัชทายาทจึงทรงถูกปลดและลงพระอาญาให้เสด็จเข้าไปอยู่ในกล่องไม้ใส่ข้าว หลังจากผ่านไปเจ็ดวัน อดีตองค์ชายรัชทายาทก็สิ้นพระชนม์
ต่อมาภายหลังพระเจ้าย็องโจทรงคืนตำแหน่งให้แก่อดีตองค์ชายรัชทายาท พระนามว่า องค์ชายรัชทายาทซาโด เหตุการณ์สำเร็จโทษองค์ชายรัชทายาทซาโดนั้นทำให้เกิดการแตกแยกครั้งใหม่ในหมู่ขุนนาง คือ ฝ่ายที่เห็นชอบกับการสำเร็จโทษขององค์ชายรัชทายาทยาทซาโด เรียกว่า ฝ่ายพยอกพา (벽파, 僻派) และฝ่ายที่ไม่เห็นชอบกับการสำเร็จโทษองค์ชาย และควรจะคืนตำแหน่งและเกียรติยศให้ดังเดิม เรียกว่า ฝ่ายชิพา (시파, 時派) ราชสำนักจึงเข้าสู่ยุคสมัยแห่งความขัดแย้งอีกครั้ง
บรรทัด 143:
== พระนามเต็ม ==
* สมเด็จพระราชาย็องโจ ยังซุน ชีแฮ็ง แทโจ ซุนด็อก ย็องโม อึยรย็อล ชังอึย ฮงยุน ควังอิน ทนฮี เชช็อน ค็อนกึก ซ็องกง ชินฮวา แทซ็อง ควังอุน แคแท คีย็อง
บรรทัด 151:
'''พระมเหสี'''
*[[พระมเหสี
*[[พระมเหสีช็องซุน จากตระกูลคิม|สมเด็จพระราชินีช็องซุน]] ตระกูลคิม แห่งคย็องจู (정순왕후 김씨, 10 November 1745 – 12 January 1805)
'''พระสนม'''
*พระสนมช็องบิน ตระกูลอี แห่งฮัมยาง (정빈 이씨) ภายหลังได้รับการแต่งตั้งเป็น พระนางย็อนโฮ
*[[พระสนมย็อง จากตระกูลอี|พระสนมย็องบิน ตระกูลอี]] แห่ง
*พระสนมควีอิน ตระกูล
*พระสนมซุกอึย ตระกูลมุน (숙의 문씨) ภายหลังถูกถอดจากตำแหน่งพระสนม
บรรทัด 173:
*[[เจ้าหญิงฮวาฮย็อบ]] (화협옹주) พระราชธิดาของพระสนมย็องบิน ตระกูลอี
*[[องค์หญิงฮวาวาน]] (화완옹주) พระราชธิดาของพระสนมย็องบิน ตระกูลอี
*องค์หญิงไม่ปรากฏพระนาม พระราชธิดาของพระสนมควีอิน ตระกูล
*องค์หญิงฮวายู (화유옹주) พระราชธิดาของพระสนมควีอิน ตระกูล
*องค์หญิงฮวากิล (화길옹주)พระราชธิดาของพระสนมซุกอึย ตระกูลมุน
*องค์หญิงฮวาย็อง (화령옹주)พระราชธิดาของพระสนมซุกอึย ตระกูลมุน
บรรทัด 192:
{{กษัตริย์ราชวงศ์โชซ็อน}}
{{เรียงลำดับ|ย}}
{{
[[หมวดหมู่:ราชวงศ์โชซ็อน]]
[[หมวดหมู่:ตัวละครในอีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน]]
|